โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ไทยฮึ่มตัดหางเขมร เบรกช่วยทางทหารสั่งเก็บหลักฐานฟ้องโลกไม่หยุดยิง

ไทยโพสต์

อัพเดต 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 19 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"กต.-กองทัพบก" ออกแถลงการณ์ประณาม "กัมพูชา" ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรง หลังใช้อาวุธถล่มฐานทหารไทย "ช่องอานม้า-ภูมะเขือ-ผามออีแดง" ตั้งแต่ช่วงค่ำ 29 ก.ค.ยันตี 5 "ภูมิธรรม" สั่งเก็บหลักฐานฟ้องประชาคมโลก ลั่นไม่เคยวางใจเขมรมาตั้งแต่ต้น ย้ำไทยแสดงจุดยืนรักษาสันติ พร้อมปรับงานประชาสัมพันธ์เชิงรุก เตรียมเชิญผู้ช่วยทูตทหารนานาชาติลงพื้นที่เหตุปะทะดูข้อเท็จจริง "บิ๊กเล็ก" ประชุมสภากลาโหม สั่งระงับการช่วยเหลือกัมพูชา กำชับยกระดับการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ "จิรายุ” ซัด ปธ.สภากัมพูชาไม่รู้กาลเทศะ ใช้เวทีสภาโลกใส่ร้ายไทยยิงก่อน ลั่นโกหกจนเป็นนิสัย "มาริษ" แจง "เวียดนาม-ญี่ปุน" เหตุชายแดน ไทยแค่ปกป้องอธิปไตย

สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตลอดคืนวันที่ 29 ก.ค.ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 30 ก.ค. ทหารกัมพูชายังใช้อาวุธยิงเข้ามายังฐานที่ตั้งทหารไทย ทำให้ทหารไทยต้องยิงตอบโต้กลับไปเป็นระยะ แม้จะมีการพูดคุยในระดับรัฐบาลและระดับแม่ทัพของฝ่ายไทยและกัมพูชา ที่ตกลงจะหยุดยิง รวมทั้งห้ามเคลื่อนกำลังและเสริมกำลังเข้าแนวชายแดนแล้วก็ตาม

กองทัพบกออกแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการประกาศหยุดยิง เพื่อยุติการปะทะทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 ก.ค.2568 นั้น กองทัพบกขอยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด โดยได้ ระงับการใช้กำลังทุกรูปแบบ และลดกิจกรรมทางทหารในพื้นที่ เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งสันติภาพ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และความร่วมมือที่สร้างสรรค์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ อย่างไรก็ตาม กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า ในวันที่ 29-30 ก.ค.2568 กองทัพกัมพูชาได้กระทำการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้ง

โดย 1.พื้นที่ช่องคานม้า จังหวัดศรีสะเกษ ในวันที่ 29 ก.ค. เวลา 21.30 น. กัมพูชาใช้อาวุธปืนเล็กยิงเข้าใส่แนว กำลังฝ่ายไทย เป็นเหตุให้เกิดการปะทะจนถึงเวลา 22.00 น. จึงยุติ 2.พื้นที่เขาพระวิหาร บริเวณภูมะเขือและห้วยตามาเรีย จังหวัดศรีสะเกษ ในวันที่ 29 ก.ค. ตั้งแต่เวลา 22.00 น. กัมพูชาใช้อาวุธปืนเล็กยิงอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับใช้อาวุธยิงสนับสนุนประเภทเครื่องยิงลูกระเบิด ฝ่ายไทยจึงจำเป็นต้องใช้สิทธิตามหลักสากลในการตอบโต้เพื่อป้องกันตนเอง การยิงจากฝ่ายกัมพูชายังคงเกิดขึ้นเป็นระยะจนถึงช่วงเช้า วันที่ 30 ก.ค.2568 และ 3.พื้นที่ผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ ในวันที่ 30 ก.ค.2568 เวลา 05.17 น. ตรวจพบการยิงเครื่องยิงลูกระเบิดจากฝั่งกัมพูชาเข้ามาในเขตแดนประเทศไทยอย่างชัดเจน

การกระทำของกองทัพกัมพูชาในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรง นับเป็นครั้งที่ 2 ภายหลังจากที่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้ และสะท้อนถึงพฤติกรรมที่ไม่เคารพต่อพันธกรณีระหว่าง ประเทศ ตลอดจนเป็นการบ่อนทำลายความพยายามในการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความไว้วางใจที่ควรมีระหว่าง 2 ประเทศ

"กองทัพบกขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบของกองทัพกัมพูชาอย่างถึงที่สุด และขอแจ้งให้ทราบว่า ฝ่ายไทยจะยังคงดำรงตนอยู่บนหลักแห่งความอดกลั้น สันติภาพ และมนุษยธรรมอย่างสูงสุด อย่างไรก็ดี หากมีการละเมิดต่อเนื่อง กองทัพบกจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมและจำเป็นอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนไทยโดยไม่ละเว้น" แถลงการณ์กองทัพบกระบุ

ประณามเขมรละเมิดข้อตกลง

เช่นเดียวกับกระทรวงการต่างประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ท่าทีของไทยต่อกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงว่า หลังจากที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา กองกำลังของกัมพูชาโจมตีไทยด้วยอาวุธปืนขนาดเล็กและระเบิดมือในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ การโจมตียังคงดำเนินต่อไปจนถึงเช้าวันนี้ ว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงโดยกองกำลังของกัมพูชา และแสดงให้เห็นถึงการขาดเจตนารมณ์ที่ดีอย่างชัดเจน

"ประเทศไทยขอย้ำความมุ่งมั่นของไทยในการยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มที่ ตลอดจนการแก้ไขสถานการณ์ปัจจุบันด้วยสันติวิธี และขอเรียกร้องให้กัมพูชายุติการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงทุกรูปแบบโดยทันที และกลับมาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างครบถ้วน" แถลงการณ์กระทรวงการต่างประเทศระบุ

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ค.2568 เจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชาได้นำผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศและผู้สื่อข่าวเดินทางมายังจุดผ่อนปรนการค้าช่องอานม้า อำเภอน้ำยืนจังหวัดอุบลราชธานี โดยมี พ.อ.บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารีสังเกตการณ์

"การที่นำผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศเดินทางเข้ามายังพื้นที่อันตรายโดยไม่บอกกล่าว ถือว่ามีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก" ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ระบุ

ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงว่า เรื่องนี้ต้องมีความระมัดระวัง และต้องเห็นความชัดเจนของข้อมูล เพราะเราไปเสนอในเวทีประชาคมโลกที่ต้องการความชัดเจน โดยได้คุยกับ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม บอกว่าได้ทำเทปแล้ว ทำอะไรต่างๆ ที่เห็นชัดเจนว่ากัมพูชาบุกมาเมื่อไหร่ เพราะโลกตอนนี้มีเครื่องมือที่ทันสมัย สามารถชี้ได้และบอกได้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

นายภูมิธรรมกล่าวว่า ขณะนี้ พล.อ.ณัฐพลได้เชิญทูตทหารนานาประเทศในการลงพื้นที่ แต่สิ่งที่สำคัญตอนนี้เราดูได้คือซากปรักหักพังต่างๆ แต่กระบวนการในการเปิดการต่อสู้หรือสู้รบส่วนใหญ่เกิดขึ้นในตอนกลางคืน และเราจะใช้วิดีโอเทปต่างๆ ตามเครื่องมือที่เราสามารถถ่ายได้ ซึ่งจะเป็นการถ่ายมาเพื่อฟ้องประชาคมโลก และเชื่อว่าทุกคนทำงานอย่างเต็มที่

ถามถึงข่าวทหารรับจ้างมีหลักฐานหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ขอไม่ชี้แจง เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ยืนยันว่าทางการไทยรวมทั้งกองทัพจะมีการทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาอธิปไตยไทย

"รัฐบาลดำเนินการทุกกรณี ทุกเงื่อนไขแต่ละช่วง ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถบอกอะไรได้ แต่ว่ากระบวนการทางการทูตได้มีการเริ่มดำเนินการไปแล้ว จริงๆ แล้วต้องขอประทานโทษ เพราะขณะนี้เราใช้โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจที่ให้ช่อง NBT เป็นเครือข่ายในการประสานงาน ถ้าอะไรที่เป็นเรื่องย่อยๆ หรือเรื่องที่ไม่ได้มีผลกระทบมากนัก ก็จะเป็นการรายงานสถานการณ์หรือการถ่ายทอดตลอดเวลา แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ชัดเจนว่ามีปัญหาและเป็นเรื่องสำคัญ ก็จะให้ NBT เป็นแม่ข่าย และจะดึงให้ทุกช่องเข้ามา ในตอนนี้มีการจัดการเรียบร้อยแล้วพร้อมที่จะทำหน้าที่" นายภูมิธรรมกล่าว

เก็บหลักฐานฟ้องประชาคมโลก

ซักว่ามีรายงานข่าวทหารกัมพูชาเติมกำลังบริเวณปราสาทตาเมือนธมและปราสาทตาควาย ฝั่งของรัฐบาลไทยจะมีการประสานไปยังรัฐบาลกัมพูชาอย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นเรื่องของทหารที่รับผิดชอบ เพราะมีส่วนยุทธการและการประกาศกฎอัยการศึกอยู่แล้ว จริงๆ ไม่ใช่เพิ่งเริ่มเมื่อวาน ขณะนี้ทหารได้มีการใช้ยุทธการต่างๆ ตามสมควร และมีการบันทึกหลักฐานไว้ให้เห็นว่าใครเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงที่ทำมา

"การเติมกำลังเดี๋ยวนี้มีดาวเทียม เติมมาเมื่อไหร่ เวลาไหน อย่างไร บอกได้อยู่แล้ว ซึ่งตรงนี้จะเก็บเป็นหลักฐานไว้ และกระบวนการที่จะรองรับในมาตรการที่จะไปต่อสู้หลังจากนี้ คือกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศจะได้มีการชี้แจงให้ข้อมูลกับประเทศมหาอำนาจ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นพยานของเรา รวมทั้งจะเก็บข้อมูลหลักฐานชี้แจงในอนาคต เพราะวันนี้ไม่ใช่เรื่องของการพูดหรือประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ แต่เป็นเรื่องหลักฐานที่เป็นจริง เราให้ความสำคัญตรงนี้มากกว่า" นายภูมิธรรมกล่าว

ซักว่าเราจะยังไว้ใจประเทศกัมพูชาได้หรือไม่ หลังมีการเจรจายุติการยิงกัน เที่ยงคืนวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังมีการละเมิดข้อตกลง นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตรงนี้เราให้ประชาคมโลกมาดูและตรวจสอบแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นมันหลีกหนีข้อเท็จจริงและความเป็นจริงไม่ได้ ถามว่าขนาดนี้เราตอบอย่างชัดเจนว่าเราไม่ได้ไว้วางใจเลย และไม่ได้ไว้วางใจกัมพูชามาตั้งแต่ต้นจากสิ่งที่ได้กระทำมา เพราะฉะนั้นวันนี้เราก็ให้ประชาคมโลกมีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องและเรายินดีที่จะแสดงจุดยืน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราแสดงมาตลอดว่าเรารักษาสันติและพยายามที่จะหาทางออกโดยไม่ต้องกระทบกระเทือนหรือเสียเลือดเนื้อของประชาชน

เมื่อถามว่า ตอนนี้จำเป็นที่รัฐบาลจะต้องตั้ง รมว.กลาโหมหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า วันนี้เรื่องสำคัญคือสู้กับประเทศกัมพูชา และขณะนี้ยังจับมือกันได้ดี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาการ รมว.กลาโหม ยังทำงานได้ดี เป็นคนเชื่อมประสานกับกองทัพได้ดีอยู่แล้ว

ถามถึงกรณีประธานรัฐสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาได้กล่าวในที่ประชุมสหภาพรัฐสภา กล่าวหาไทยละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและใช้อาวุธเคมี จะต้องให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ทราบว่ากระทรวงการต่างประเทศได้เตรียมการยื่นประท้วงแล้ว และจากที่ทางฝั่งกัมพูชาพูด ซึ่งเรื่องนี้สามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้ เพราะภาพถ่ายต่างๆ สามารถตรวจสอบได้ เราไม่ได้กระทำการอะไรที่เป็นอันตรายต่อพลเรือนชาวกัมพูชา แต่สิ่งที่ไทยดำเนินการคือเป้าหมายทางทหารทั้งหมด

ที่ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทน รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมสภากลาโหมร่วมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ

พล.อ.ณัฐพลกล่าวก่อนการประชุม กล่าวถึงการประสานผู้ช่วยทูตทหารนานาประเทศ ประจำประเทศไทยลงพื้นที่ชายแดนว่า จะพาไปดูความสูญเสียของพลเรือนที่ได้รับการปฏิบัติจากฝ่ายทหารกัมพูชา ซึ่งเพิ่งได้สั่งการไปที่กองทัพบกเมื่อคืนวันที่ 29 ก.ค. ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะมีประเทศใดบ้างเข้าร่วม ทั้งนี้ พยายามประสานงานกับประเทศมาเลเซียให้มาดูเรื่องของสถานการณ์ในพื้นที่ด้วย

ถามถึงเรื่องการละเมิดข้อตกลงของกัมพูชาที่มีการยิงตามแนวชายแดน พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการประท้วง และสื่อสารให้นานาชาติรับทราบ โดยได้ย้ำกับกองทัพบกให้สื่อสารทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ซึ่งโฆษกทุกเหล่าทัพต้องช่วยกัน รวมทั้งของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. พร้อมย้ำว่า หลักของการหยุดยิงตามข้อตกลงคือ ทุกหน่วยต้องหยุด อยู่กับที่ และรอจนกว่าจะมีผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือจีบีซี

ต่อมา พล.อ.ณัฐพลให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมสภากลาโหมว่า ได้ขอบคุณกำลังพลจากทุกเหล่าทัพ รวมถึงทหารพราน และตำรวจตระเวนชายแดนทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ เข้มแข็งและอดทน ในการรักษาอธิปไตยของชาติและการป้องกันประเทศ จากสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในห้วงเวลาที่ผ่านมา รวมทั้งได้แสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้ง ต่อการจากไปของวีรชนทุกนาย และขอสดุดีไว้ทั้งเกียรติคุณของท่าน ที่ได้อุทิศชีวิตและเลือดเนื้อเพื่อปกป้องเอกราชของชาติ ทั้งนี้ เป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยทั้งทหาร ทหารพราน และตำรวจตระเวนชายแดนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาขณะนี้

สภากลาโหมสั่งระงับช่วยเขมร

นอกจากนั้น ได้เน้นย้ำให้เข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัยในการคัดกรองผู้ที่เดินทางเข้า-ออกหน่วยงานต่างๆ และการดูแลรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ เน้นย้ำว่าให้ยกระดับขึ้นมาในช่วงนี้

พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า ได้มอบนโยบายเพิ่มเติมว่าในขณะนี้ให้ระงับความร่วมมือทางทหารกับกัมพูชา จนกว่าสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างทั้งสองประเทศจะดีขึ้น เนื่องจากยังมีโครงการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษากันอยู่ รวมทั้งได้สั่งการให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม โดยเฉพาะสำนักนโยบายและแผน และกรมพระธรรมนูญ สนับสนุนความช่วยเหลือด้านกฎหมายให้กับกองบัญชาการกองทัพไทยในการปฏิบัติภารกิจดังกล่าว

พล.อ.ณัฐพลยังกล่าวว่า ได้สั่งการในที่ประชุมสภากลาโหม ให้ทุกเหล่าทัพเสนอความต้องการงบประมาณในการจัดหายุทโธปกรณ์ทั้งอาวุธ กระสุน และอาวุธปืนที่ต้องการ เพื่อทดแทนของเดิมที่ได้ปฏิบัติการในช่วงที่ผ่านมาที่ชำรุดเสียหาย โดยให้เร่งจัดเสนอความต้องการขึ้นมาด่วน ซึ่งทางรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน และจะขออนุมัติจากรัฐบาลในการยกเว้นกรรมวิธีจัดหาให้เป็นแบบเฉพาะเจาะจง เพราะหากดำเนินตามวิธีปกติอาจจะต้องรอไปถึงปี 2570 ถึงจะได้ยุทโธปกรณ์เหล่านั้น แต่เราต้องการเร่งด่วนเพื่อมาทดแทน จึงต้องทำให้เร็วที่สุด โดยให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุดบูรณาการและจัดเรียงตามลำดับตามความเร่งด่วน สมมุติว่ามีความต้องการ 50 รายการ ใช้งบ 1 หมื่นล้านบาท แต่รัฐบาลให้ได้เพียง 5 พันล้านบาท ก็จะนำมาตัดดูว่าได้แค่ไหน

ถามว่าโครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพนของกองทัพอากาศ เรื่องได้เข้าสู่การประชุม ครม.แล้วหรือไม่ พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า การนำเข้าที่ประชุม ครม.ต้องได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานต่างๆ ให้ครบ เพราะคราวที่แล้วยังส่งความเห็นไม่ครบ ยืนยันว่ารัฐบาลอนุมัติแน่ เพียงแต่รอขั้นตอนตอบความเห็นมาให้ครบ หากอนุมัติไปแล้วอาจจะมีปัญหา

ที่กองทัพไทย พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ออกมาแสดงความผิดหวังต่อคำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา ซึ่งได้ออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวันที่ 29 ก.ค. โดยยืนยันจุดยืนไทย 1.ประเทศไทยยึดถือข้อเท็จจริงและไม่กล่าวหาโดยไร้หลักฐาน 2.พฤติกรรมของทหารกัมพูชาสะท้อนปัญหาภายในกองทัพตนเอง 3.ไทยยืนยันเจตนารมณ์สันติภาพ โดยเปิดรับการตรวจสอบจากกลไกที่เป็นกลาง 4.เรียกร้องให้กัมพูชาทบทวนตนเอง โดยหยุดกล่าวหาผู้อื่นโดยไม่แก้ปัญหาภายใน 5.สุดท้ายเหตุการณ์ที่ทหารกัมพูชาใช้อาวุธประจำกายและอาวุธประจำหน่วยขนาดเล็กยิงเข้ามายังที่มั่นทหารไทยเมื่อคืนนี้ เป็นการสะท้อนให้เห็นว่าทหารกัมพูชาในแนวหน้าถูกทอดทิ้งให้อยู่ตามลำพังในพื้นที่ห่างไกลโดยขาดการดูแล

"กองทัพไทยขอเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาและกองทัพกัมพูชาหันกลับไปดูแลทหารของตัวเอง ก่อนที่จะกล่าวหาใครๆ ว่าบิดเบือนความจริง พฤติกรรมการแสดงออกที่เกิดขึ้นแสดงว่าพวกเขาเหนื่อยล้า หวาดกลัว หิวโหย และต้องการให้ผู้บังคับบัญชาของตนดูแลและแสดงความรับผิดชอบ มากกว่าออกมาแก้ตัวและโกหกซ้ำซาก" โฆษกกองทัพไทยระบุ

ซัดเขมรใส่ร้ายไทยเวทีสภาโลก

ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 30 ก.ค. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) กล่าวว่า การที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรของกัมพูชาไม่รู้กาลเทศะ ใช้เวทีการประชุมระดับสูงของสหภาพรัฐสภา นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในสัปดาห์นี้ โดยกล่าวโกหกบิดเบือนอย่างไร้ยางอาย กล่าวหาประเทศไทยว่าเป็นผู้ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง และใช้วัตถุเคมีต่อพลเรือนของกัมพูชา ทั้งๆ ที่ข้อมูลและพยานหลักฐานที่ทั่วโลกพบนั้น กัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน และกรณีใช้วัตถุเคมีในการปะทะก็ไม่มีการเกิดขึ้นจริง

“รัฐบาลไทยขอปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดโดยสิ้นเชิง และขอประณามการกล่าวหาที่โกหกกลางสภา ที่ปราศจากหลักฐานของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างชัดเจน โดยประเทศไทยได้ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมและปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด การที่ประธานสภาฯ กัมพูชาใช้เวทีรัฐสภาระหว่างประเทศในการบิดเบือนข้อมูลถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และสะท้อนถึงเจตนาทางการเมืองที่มุ่งทำลายความน่าเชื่อถือของไทยบนเวทีโลก” นายจิรายุกล่าว

นอกจากนี้ นายจิรายุกล่าวถึงผลการหารือระหว่างนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ กับนายบุ่ย แทงห์ เซิน รองนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งได้เดินทางเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศว่า ทางเวียดนามได้สอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่มีความตึงเครียดในช่วงที่ผ่านมา โดยเวียดนามในฐานะประเทศสมาชิกอาเซียนได้แสดงความห่วงใยต่อพัฒนาการของสถานการณ์ดังกล่าว พร้อมแสดงจุดยืนสนับสนุนการหยุดยิงและแนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี

โอกาสนี้ นายมาริษยังได้หารือทางโทรศัพท์กับนายอิวายะ ทาเกชิ รมว.การต่างประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้แสดงความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมสอบถามความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับการดำเนินการของฝ่ายไทย

“การหารือในครั้งนี้เป็นสัญญาณบวกที่สะท้อนถึงบทบาทเชิงรุกของไทยในการชี้แจงต่อนานาชาติ โดยยืนยันว่าไทยยึดมั่นในแนวทางสันติ และพร้อมประสานงานกับทุกฝ่ายเพื่อรักษาเสถียรภาพในภูมิภาค ทั้งยังสะท้อนให้เห็นว่าหลายประเทศ รวมถึงเวียดนามและญี่ปุ่น เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น" นายจิรายุกล่าว

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงผลการประชุม ศบ.ทก.ว่า ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ มีกำหนดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) ซึ่งขณะนี้ฝ่ายไทยมีความพร้อมที่จะเข้าร่วมประชุม ตอนนี้เรากำลังรอฝ่ายกัมพูชาส่งหนังสือเชิญเข้าประชุมตามที่ได้ตกลงกันไว้ ซึ่งฝ่ายไทยพร้อมในเรื่องของรายละเอียดและเนื้อหาที่จะเข้าไปร่วมเจรจา

พล.ร.ต.สุรสันต์กล่าวว่า ในที่ประชุม ศบ.ทก.ยังห้ามบินโดรนทุกประเภทในรัศมี 9 กิโลเมตร หรือ 5 ไมค์ทะเล จากสนามบินหรือที่ขึ้น-ลงชั่วคราวทุกแห่งโดยเด็ดขาด ผู้ใดที่ฝ่าฝืน ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ด้านนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ในส่วนการดำเนินการต่อการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชานั้น ฝ่ายไทยได้มีหนังสืออย่างเป็นทางการถึง รมว.การต่างประเทศมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน รวมถึงประเทศผู้สังเกตการณ์ ได้แก่ จีนและสหรัฐอเมริกา ที่เข้าร่วมการเจรจาหยุดยิงที่มาเลเซียเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา เช่นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชาเมื่อวันที่ 29 ก.ค. รวมทั้งยังมีหนังสืออีกฉบับถึงฝ่ายกัมพูชาโดยตรงสำหรับกรณีการละเมิดล่าสุดที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 29 ก.ค. ที่ภูมะเขือ

นอกจากนี้ สถานทูตและสถานกงสุลใหญ่ของไทยทั่วโลกได้ชี้แจงสถานการณ์ไทยกัมพูชา ท่าทีของไทย และหลักการที่ไทยยึดถือให้รัฐบาลและองค์การต่างๆ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเรายังมีคณะผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ 4 สำนักงาน คณะผู้แทนถาวรไทยประจำอาเซียน และสถานทูตอีกหลายแห่งที่มีหน้าที่ในกรอบพหุภาคี และองค์การระหว่างประเทศต่างๆ ซึ่งต่างกำลังชี้แจงจุดยืนของไทยในเวทีโลก

ที่มณฑลทหารบกที่ 26 ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก จัดพิธีส่งศพ จ.ส.อ.(พ) ธีระยุทธ สีจุ้ยจ้าย อายุ 39 ปี สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 13 ค่ายเจ้าพระยาสุรวงศ์วัฒนศักดิ์ จังหวัดอุดรธานี ที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา บริเวณช่องสายตะกู อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ กลับภูมิลำเนา เพื่อไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลศพที่วัดเนินนิมิตร บ้านโคกกลาง หมู่ที่ 7 ตำบลเซิม อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย อย่างสมเกียรติที่สุด.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

‘สมศักดิ์’ แจงสภา เร่งแก้ปัญหา 30 บาท-ดันมินิคลินิกทั่ว กทม.

16 นาทีที่แล้ว

สส.ภูมิใจไทย ชงญัตติเรียกประชุมรัฐสภาด่วน ยกเลิก MOU 43,44

47 นาทีที่แล้ว

‘เคแอลพีจีเอ’จับมือ’ททท.’ ประชุมความร่วมมือ พัฒนานักกอล์ฟสตรี

54 นาทีที่แล้ว

กีฬา’โป๊กเกอร์’ พร้อมจัดศึกระดับโลก สาธิตการเล่นครั้งแรกในไทย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

เริ่มแล้ว “OEM Manufacturer & e-Biz Expo 2025”

สำนักข่าวไทย Online

ธปท. หนุน e-money นทท.ต่างชาติ จ่ายเงินผ่าน QR code ดันท่องเที่ยวไทย

สำนักข่าวไทย Online

กัมพูชา “บิดเบือน” แค่ไหน กรณีไทยควบคุมตัวทหารกัมพูชา 18 นาย

TNN ช่อง16

พบโดรนปริศนาหลายพื้นที่ คาดเป็นโดรนจารกรรม

สำนักข่าวไทย Online

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการระดับสูง กระทรวงมหาดไทย 4 ราย

ประชาชาติธุรกิจ

เคทีซี ชี้อนาคตตลาดลักซ์ชัวรี ผู้บริโภคเลือกคุณค่ามากกว่าราคา

สำนักข่าวไทย Online

เช็กรถติด วันสุดท้ายของเดือน กับ คู่หูจราจร : 31 กรกฎาคม 2568

สวพ.FM91

ผบ.ทบ. และผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ ทบ. ร่วมสดุดีทหารกล้าในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พร้อมปูนบำเหน็จและขอพระราชยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...