บอย ปกรณ์ ปาดน้ำตา กลางวงสัมภาษณ์ ยังคิดถึงแม่ไม่หาย มีมาเข้าฝัน- ดีใจพาพ่อกลับบ้าน
บอย ปกรณ์ ปาดน้ำตา กลางวงสัมภาษณ์ ยังคิดถึงแม่ไม่หาย มีมาเข้าฝัน - ดีใจพาพ่อกลับบ้านครอบครัวพร้อมหน้า
แม้เวลาจะผ่านไปสองเดือนแล้วแต่ความคิดถึงของ บอย ปกรณ์ ที่มีต่อคุณแม่งามทิพย์ ยังคงมีอยู่ตลอดไป ซึ่งหนุ่มบอยเองก็ได้ตักบาตรให้แม่ทุกเช้า พาอัฐิของพ่อกลับมาอยู่กับแม่ที่บ้าน และล่าสุดเลยที่ครอบครัวได้นำเงินจำนวน 1,273,000 บาทจากงานคุณแม่ไปบริจาคให้กับมูลนิธิรามาธิบดีฯ
ล่าสุดวันที่ 31 ก.ค. บอย ปกรณ์ ได้มาร่วมงานแถลงข่าว DRAGON BALL HEROES RISE ASIA TOUR IN THAILAND ณ Attraction Hall ชั้น 6 ไอคอนสยาม พร้อมให้สัมภาษณ์ความรู้สึกดังกล่าว ระหว่างสัมภาษณ์บอยกลั้นน้ำตาไม่อยู่เพราะความคิดถึงคุณแม่
เพิ่งไปบริจาคเงินมา? “เมื่อวานไปทำบุญมาครับ เอาเงินที่ทุกๆ คนมาร่วมงานตอนงานคุณแม่ อย่างที่ประกาศไว้ในงานคือจะนำไปบริจาคที่มูลนิธิรามาธิบดีฯ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่คุณแม่รักษาตัวอยู่ คุณแม่ทำบุญกับมูลนิธินี้มาตลอด ยอด 1,273,000 บาท เอาไปช่วยให้กับผู้ป่วยที่เค้าขาดโอกาสแล้วเค้าขาดเรื่องกำลังทรัพย์เดี๋ยวให้มูลนิธิเป็นคนจัดการ ก็ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านด้วย”
มียาอะไรด้วยไหม? “มีอุปกรณ์ของคุณแม่ เครื่องช่วยหายใจ พวกยาต่างๆ เพราะคุณแม่กินยาเยอะมากเป็นตะกร้าเลยครับ ส่วนใหญ่เป็นยาที่ค่อนข้างมีราคา พอเราไม่ได้ใช้แล้ว ไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไร ก็เอาไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลเผื่อเค้าเอาไปบริจาคต่อสำหรับคนที่ต้องการใช้ยา”
ตอนที่มอบได้มีพูดอะไรในใจกับแม่ไหม? “บอกแม่ตั้งแต่ที่บ้านแล้ว วันนั้นทำหลายอย่าง ตอนเช้าไปรับอัฐิป๊าที่วัด เก็บไว้ที่วัดตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว แต่ตอนคุณแม่เค้าบอกไว้ว่าให้เก็บไว้ที่บ้าน เลยคิดว่าไปพาป๊ากลับมาอยู่ที่บ้านด้วยกับแม่ บอกไปตั้งแต่เช้าแล้วว่าเดี๋ยววันนี้จะพาอัฐิป๊ากลับบ้านนะ แล้วเดี๋ยวจะเอาเงินไปบริจาคทุกคนก็มาทำบุญร่วมกับแม่เลยแล้วก็มารับบุญไปด้วย แล้วก็ไปตามแผนกต่างๆ ที่คุณแม่เคยรักษาเอากระเช้าไปขอบคุณ คุณหมอพยาบาลที่ดูแล”
ตอนกลับไปสถานที่ที่เคยดูแลแม่เรารู้สึกยังไงบ้าง? “รู้สึกขอบคุณจริงๆ คนเราถ้าไม่เจอเหตุการณ์ที่รู้สึกว่าต้องดูแลร่างกายแล้วไม่ว่าจะเป็นตัวเองหรือคนใกล้ตัวจะไม่รู้สึกระวังหรอก แต่วันนึงที่มีคนใกล้ตัวหรือว่าตัวเองประสบกับเหตุนั้นจริงๆ เจอค่อยรู้สึกว่าจะต้องรักตัวเอง ดูแลตัวเองมากกว่านี้ ทางครอบครัวผมก็รู้สึกขอบคุณทางโรงพยาบาลรามาธิบดีฯ มากๆ ที่ดูแลคุณแม่อย่างดีมาตลอด 6-7 ปี”
เป็นความตั้งใจของลูกๆ ทุกคนเลยใช่ไหม? “ใช่แล้ว อันนี้คือคุยตั้งแต่แรกเลยว่าเงินทำบุญที่ทุกคนนำมาทำบุญในงานคุณแม่เราจะเอาไปบริจาคที่มูลนิธิรามาธิบดีฯ หนึ่งคือเอาบุญให้แม่ด้วย สองให้ทุกคนที่รักคุณแม่และมาร่วมงานคุณแม่เหมือนได้ทำบุญไปกับแม่ภพต่อๆ ไปจะได้กลับมาร่วมบุญด้วยกันไหม”
รู้สึกยังไงบ้างที่ได้มาทำบุญ? “อย่างแรกทำให้แม่ก็ดีด้วย ก็รู้สึกดีด้วย หวังว่ามันอาจจะเป็นอะไรที่คนเห็นแล้วทำให้ทุกคนเห็นว่าก็ดีเหมือนกันนะที่เอาเงินไปทำบุญ อย่างน้อยถ้าเราได้เป็นตัวอย่างที่ดีๆ ซักเล็กน้อยถือว่าดีมากๆ สำหรับเรา
การที่ได้ส่งต่อให้มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ เลย ความจริงไม่อยากมาพูดถึงเรื่องตัวเงินอะไรมากมายแต่เวลาคนเราป่วยมันใช้เงินเยอะจริงๆ ไม่ได้ทุกคนที่มีโอกาสหรือว่าพร้อมทุกๆ คน เพราะฉะนั้นมีคนที่ไม่พร้อมแล้วก็เผชิญกับความยากลำบาก อะไรที่เราช่วยได้เราก็ช่วย สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดูแลรักษาสุขภาพตัวเอง”
อย่างนึงที่ยังทำตลอดคือการใส่บาตรให้คุณแม่ทุกวัน? “ใช่ ความจริงแล้วมันเป็นความเชื่อคือของที่บ้านจะใส่ให้ครบ 49 วัน พอเหมือนเป็นช่วงที่ใส่แล้วให้ตุ่นไว้เป็นเสบียงให้แม่บรรทุกไปใช้ในภพภูมิของแม่ เราก็เลยคุยกันที่บ้านว่าแป๊บเดียวครบ 49 วันแล้ว เลยคุยกันว่าทำต่อให้ครบ 99 วัน ทุกวันนี้คือตักบาตรทุกวันตอนเช้า ทำอาหารให้แม่หนึ่งชุดให้ป๊าหนึ่งชุดเสิร์ฟทุกวัน พอครบแล้วเดี๋ยวค่อยว่ากัน”
มีฝันถึงคุณแม่บ้างไหม?“ผมไม่ได้ฝันแบบเป็นกิจลักษณะขนาดนั้นแต่มีฝันแวบๆ พูดแล้วเดี๋ยวจะร้อง(เสียงสั่น) เพราะว่า(น้ำตาไหล) ช่วงนี้นึกถึงแม่ไม่ค่อยได้ นึกแล้วจะร้องไห้ มีฝันครับ อย่างล่าสุดก็ฝันว่าแบบมาอยู่ตรงนี้แล้วหอมหัวเค้า คือช่วงนี้ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันเราก็คิดว่าเราค่อยๆ ดีขึ้นค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้น
แต่กลายเป็นว่าช่วงก่อนครบ 49 วัน เป็นช่วงที่กลับมาดิ่งใหม่ แต่หมายถึงว่าเวลาออกไปทำงานใช้ชีวิตเหมือนเดิมเราเฮฮาเหมือนเดิม แต่กลับบ้านเปิดคลิปไม่สามารถดูนานๆ ได้เลย เอาจริงๆ พูดแบบไม่อายเมื่อคืนดูรูปแม่เราน้ำตาไหลอยู่เลย ไม่รู้ช่วงนี้ทำไม”
ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเพราะช่วงนี้เราเหนื่อย หรือมีเรื่องให้กังวล? “ไม่เกี่ยวแล้วกลายเป็นว่าพี่น้องเป็นเหมือนกันทุกคน พอเป็นเราก็จะระบายลงไปในกลุ่ม เค้าก็บอกว่าเป็นเหมือนกันเลย เหมือนกับว่ามันอาจจะเป็นช่วงที่พ้นงานคุณแม่ไปเราก็พยายามฮีลใจตัวเองด้วยแล้ว ก็กลับมาทำงานตัวเองที่ค้าง พอเป็นช่วงนี้ก็เป็นเหมือนจังหวะที่ทำให้เราอยู่ดีๆ ก็กลับมาคิดถึงแม่เยอะๆ ช่วงนี้ดูคลิปแม่แล้วต้องรีบปิดเลยเพราะไม่ไหว”
เวลาดิ่งดูแลจิตใจตัวเองยังไง? “บางครั้งก็ปล่อยให้โฮไปเลย เอาออกมาให้หมด บางครั้งก็รีบปิดแล้วนอนคิดถึงแม่ไป อย่างเมื่อวานที่ไปโรงพยาบาลผมไปขอบคุณที่แผนกห้องไอซียู มองไปที่ห้องที่แม่เคยนอน ยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องจริงหรอ ยังรู้สึกยังอยากเดินเข้าไปเยี่ยมแม่อยู่เลย เป็นอะไรทำนองนี้
มันคือยังไม่ใช่ทำใจไม่ได้ แต่มันน่าจะเป็นกันทุกคน มันมีหลายคอมเมนต์เลยครับที่มาพิมพ์บอกว่ามันจะเป็นอย่างนี้แหละ ต่อไปอีกสองปีคือคิดถึง มันอาจจะเป็นเพราะว่าเราผูกพันกับแม่มากๆ ไม่เป็นไร มันก็เรียกว่าถ้าเวลาคิดถึงมันก็ทรมานแหละ เป็นความคิดถึงเป็นความทรงจำดีๆ ไม่ได้ไปทำให้เราถึงขั้นดิ่งหรืออะไร”
ความรู้สึกได้พาป๊ามาอยู่กับแม่? “ความจริงผมก็สนิทกับป๊ามากเลย แต่ ณ ตอนนั้นเราก็แค่อยากให้อัฐิป๊าอยู่ที่วัด คือช่องที่ฝั่งอัฐิป๊าอยู่ตรงข้ามวัดเลย เลยคุยกันว่าดีเหมือนกันให้เค้าได้ไหว้พระทุกวัน แต่ว่าแม่เค้าพูดกับผมไว้ตั้งแต่ช่วงที่ไม่สบายแล้ว เอาจริงๆ แม่ไม่ค่อยมีโอกาสจะใช้คำว่าสั่งเสีย
การพูดสั่งเสียมันเป็นเหมือนการพูดถึงสิ่งที่ยังไม่เกิดแล้วกลัวเป็นลางไม่ดี เนี่ยน่าจะเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่แม่พูดทิ้งไว้คือถ้าวันนึงเกิดอะไรขึ้นให้พาแม่กลับบ้าน เลยคิดว่าในเมื่ออัฐิแม่อยู่ที่บ้านก็เลยไปพาของป๊ากลับมาด้วยแล้วกันแค่นั้นเลย จะได้อยู่คู่กัน
ทุกวันนี้เวลาเราทำบุญตักบาตร เรากรวดน้ำเราก็เรียกชื่อแม่ชื่อป๊า ผมก็มักจะจินตนาการว่าป๊ากับแม่อยู่ด้วยกันข้างๆ รับบุญไป ก็ดีครับครอบครัวของเราก็กลับมาอยู่ด้วยกัน 6 คน อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา”
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : บอย ปกรณ์ ปาดน้ำตา กลางวงสัมภาษณ์ ยังคิดถึงแม่ไม่หาย มีมาเข้าฝัน- ดีใจพาพ่อกลับบ้าน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th