หลายคนไม่รู้! อาการ "น้ำยาแอร์หมด" ไม่มีอยู่จริง
หากว่าแอร์รถยนต์มีอาการไม่เย็น สาเหตุที่คนส่วนใหญ่มักนึกถึงคือ "น้ำยาแอร์หมด" แต่ความจริงแล้วนั่นเป็นสาเหตุที่แท้จริงหรือไม่? บทความนี้ Sanook Auto จะพาไปหาคำตอบกันครับ
ทำไมน้ำยาแอร์รถถึงไม่มีทางหมด?
น้ำยาแอร์รถยนต์ถูกออกแบบมาให้หมุนเวียนอยู่ในระบบปิด โดยไม่มีการระเหยหรือสูญเสีย หากระบบแอร์ไม่มีรอยรั่วหรือความเสียหายใดๆ น้ำยาแอร์จะคงอยู่ในปริมาณเท่าเดิมตลอดอายุการใช้งานของรถยนต์
กล่าวง่ายๆ คือ หากระบบปรับอากาศของรถยนต์ยังคงมีสภาพปกติ น้ำยาแอร์จะไม่มีทางพร่องโดยเด็ดขาด แต่หากน้ำยาแอร์มีการลดลงหรือหายไปจากระบบแล้วล่ะก็ สาเหตุที่แท้จริงไม่ใช่น้ำยาแอร์หมด แต่เป็นการรั่วซึมของน้ำยาแอร์ต่างหาก ดังนั้นการซ่อมแซมจึงไม่ใช่การเติมน้ำยาแอร์ แต่เป็นการหารอยรั่วและแก้ไขเพื่อไม่ให้น้ำยาแอร์รั่วซึมอีกต่างหาก
สาเหตุทำน้ำยาแอร์หายมีอะไรบ้าง?
โดยมากแล้วหากน้ำยาแอร์พร่อง หรือหมดไปจากระบบ สาเหตุหลักเกิดจากรอยรั่วในระบบแอร์ อาจเกิดจากท่อแอร์แตก รอยต่อหลวม หรืออุปกรณ์ภายในระบบแอร์เสื่อมสภาพ โดยการรั่วของน้ำยาแอร์อาจเกิดขึ้นช้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับขนาดของรอยรั่ว
อีกหนึ่งสาเหตุที่พบได้ คือ เมื่อมีการซ่อมบำรุงระบบแอร์ อาจต้องมีการปล่อยน้ำยาแอร์ออกบางส่วน หากช่างไม่เติมน้ำยาแอร์กลับเข้าไปให้เพียงพอ อาจทำให้แรงดันน้ำยาแอร์ไม่มากพอที่จะทำให้แอร์เย็นฉ่ำเหมือนปกติ
อาการบ่งบอกว่าน้ำยาแอร์รั่ว มีอะไรบ้าง?
- แอร์ไม่เย็นเท่าที่ควร - อาการที่พบบ่อยที่สุดคือแอร์ไม่เย็น หรือเย็นน้อยลงกว่าปกติ บางครั้งอาจใช้เวลานานขึ้นเพื่อทำให้ห้องโดยสารเย็น
- มีลมออกมาจากช่องแอร์ แต่ไม่เย็น - ในบางกรณี อาจมีลมออกมาจากช่องแอร์ แต่ลมนั้นกลับไม่เย็น
- คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานบ่อยกว่าปกติ - คอมเพรสเซอร์แอร์จะทำงานหนักขึ้น เพื่อพยายามทำความเย็น ทำให้ทำงานบ่อยกว่าปกติ
- มีเสียงดังผิดปกติจากระบบแอร์ - อาจมีเสียงดังผิดปกติจากคอมเพรสเซอร์แอร์ หรือส่วนอื่นๆ ของระบบแอร์
หากคุณพบอาการเหล่านี้ ควรนำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถยนต์ที่มีความชำนาญ เพื่อให้ช่างตรวจสอบหารอยรั่วและเติมน้ำยาแอร์ให้เพียงพอ การตรวจเช็คระบบแอร์เป็นประจำจะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและยืดอายุการใช้งานของระบบแอร์ได้ครับ