ลุ้นชี้ชะตา! ลำดับเหตุการณ์คดี 112 ‘ทักษิณ’ สู้ 10 ปี ก่อนศาลตัดสินพรุ่งนี้
เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ 1860/2567 ระหว่างพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 จากกรณีที่นายทักษิณให้สัมภาษณ์กับสื่อเกาหลีใต้เมื่อเดือน พ.ค. 2558 หลังจากผ่านการสืบพยานทั้งฝ่ายโจทก์และจำเลยแล้วเสร็จ
‘ทักษิณ’ ลั่น 22 ส.ค.นี้คดีก็จบแล้ว
คดีมีจุดเริ่มต้น ต้องย้อนกลับไปในวันที่ 20 พ.ค. 58 เมื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์โชชอนมีเดียของเกาหลีใต้ที่กรุงโซล ในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ เนื้อหาบางส่วนถูกมองว่าเข้าข่ายการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ถือเป็นความผิดตาม มาตรา 112 และยังมีการกล่าวอ้างถึงองคมนตรี การรัฐประหารในปี 2557 อีกด้วย
วันที่ 21 พ.ค. 58 พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. ขณะนั้น ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งให้เจ้าหน้าที่กรมพระธรรมนูญ แจ้งความเอาผิดกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.)
ไม่กี่วันต่อมา ในวันที่ 27 พ.ค. 58 รัฐบาลไทยได้ตัดสินใจ เพิกถอนหนังสือเดินทางของนายทักษิณ โดยให้เหตุผลว่าการสัมภาษณ์ดังกล่าว "กระทบต่อความมั่นคง ชื่อเสียง และศักดิ์ศรีของไทย"
กระทั่งต่อมาในวันที่ 16 ก.พ. 2559 พนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท. ส่งสำนวนการสอบสวนคดีการกระทำความผิดนอกราชอาณาจักรพร้อมความเห็นสั่งฟ้อง กล่าวหานายทักษิณ ฐานความผิด 112 และได้ส่งสำนวนคดีไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด
วันที่ 19 ก.ย. 59 อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้องคดี ในข้อหามาตรา 112 และความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เนื่องจากนายทักษิณยังคงพำนักอยู่ต่างประเทศ ศาลจึงได้ออกหมายจับ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี
วันที่ 22 ส.ค. 2566 เมื่อนายทักษิณเดินทางกลับประเทศไทยเพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในคดีอื่น ๆ ที่เคยถูกตัดสินไปแล้ว ทันทีที่เขากลับถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกับกรมราชทัณฑ์เพื่อแจ้งอายัดตัว ในคดีมาตรา 112 นี้ไว้ด้วย
วันที่ 17 ม.ค. 67 อัยการได้เดินทางไปแจ้งข้อกล่าวหาต่อนายทักษิณที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาเข้ารับการรักษาตัวอยู่ และเขาก็ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมทั้งยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด 1 ครั้ง
วันที่ 29 พ.ค. 67 อัยการสูงสุดก็มีคำสั่งฟ้องคดี และได้นัดหมายให้นำตัวนายทักษิณ จำเลยไปส่งฟ้องต่อศาลอาญา แต่นายทักษิณขอเลื่อน เนื่องจากอาการป่วยจากโควิด-19
วันที่ 18 มิ.ย. 67 ศาลได้รับสำนวนเป็นคดีอาญาคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ก่อนนายทักษิณ จะยื่นหลักทรัพย์ประกันตัวจำนวน 500,000 บาท
วันที่ 19 ส.ค. 67 ศาลอาญานัดตรวจพยานหลักฐาน นายทักษิณได้ยืนยันการให้การปฏิเสธอีกครั้ง และได้เตรียมนำพยานหลักฐานมาต่อสู้คดีเพื่อปกป้องตัวเอง
วันที่ 1-3 ก.ค. 68 ศาลเริ่มสืบพยานฝ่ายโจทก์ ซึ่งเป็นการพิจารณาแบบลับ โดยไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าฟัง ทีมทนายของนายทักษิณ ได้เข้าร่วมการพิจารณาเพื่อตรวจสอบและซักถามพยาน โดยเฉพาะคลิปวิดีโอการสัมภาษณ์ที่เป็นหลักฐานสำคัญของคดีนี้ และทนายฝั่งจำเลยคอยให้สัมภาษณ์เสมอ ชี้ให้เห็นถึงความไม่สมบูรณ์ของพยานหลักฐานฝ่ายโจทก์
วันที่ 16 ก.ค. 68 ศาลนัดสืบพยานฝ่ายจำเลยครั้งแรก ซึ่งเป็นฝ่ายของนายทักษิณ โดยมีพยานเข้าเบิกความคือตัวนายทักษิณ, นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นนักกฎหมายชื่อดัง, นายธงทอง จันทรางศุ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ซึ่งนายทักษิณได้เดินทางมาสืบพยานทุกนัดด้วยตนเอง แต่ไม่ออกมาพบสื่อมวลชน รวมถึงคนเสื้อแดงที่ปักหลักรอด้านหน้า
จนถึงวันพรุ่งนี้ที่ทางศาลอาญาได้นัดอ่านคำพิพากษา วันที่ 22 ส.ค. 68 เวลา 10.00 น. ซึ่งจะเป็นบทสรุปของเรื่องราวจะเป็นอย่างไร ก็ขอให้ประชาชนเฝ้าติดตามข่าวจากทางเดลินิวส์ต่อไป