โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

วิกฤตชายแดน...ภาพสะท้อนภาวะผู้นำไทย-กัมพูชา

สยามรัฐ

อัพเดต 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 13 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์

ที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต

ช่วงเดือนกรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมาเป็นเวลาที่ผู้นำไทยและกัมพูชาต้องถูกทดสอบภาวะผู้นำอย่างเข้มข้นที่สุดในรอบทศวรรษ หลังเกิดการปะทะกันบริเวณชายแดนด้วยอาวุธหนัก จนก่อให้เกิดผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บหลายราย รวมถึงต้องอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่เสี่ยงอีกหลายแสนคน แต่ไม่ใช่เท่านี้ยังมีความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากการหยุดชะงักของการค้าและการท่องเที่ยว ด้วยสถานการณ์ที่รุมล้อมและกดดันสูงอีกด้านหนึ่งกลายเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นถึงลักษณะเฉพาะ จุดแข็ง และรูปแบบการนำประเทศ

เมื่อทั้งสองประเทศต้องเผชิญวิกฤตในช่วงที่โครงสร้างผู้นำกำลังเปลี่ยนแปลง ฝั่งไทยเผชิญกับ "สุญญากาศผู้นำ" หลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ทำให้นายภูมิธรรม เวชยชัย ขึ้นมารักษาการนายกฯ ท่ามกลางความกดดัน ขณะที่ฝั่งกัมพูชา แม้พล.อ.ฮุน มาเนต เป็นนายกฯ อย่างเป็นทางการ แต่อดีตนายกฯ ฮุน เซน ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญเบื้องหลัง ก่อให้เกิด “ระบบอำนาจสองชั้น” ที่ซับซ้อนยิ่ง

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนอกจากจะเป็นบททดสอบด้านความมั่นคงและการทหารแล้ว ยังเป็นสนามสอบภาวะผู้นำของทั้งสองประเทศในหลายมิติ ตั้งแต่ความสามารถในการรักษาความชอบธรรมทางการเมือง การสื่อสารกับสาธารณะ การจัดการความคาดหวังของประชาชนและนานาชาติ ตลอดจนการสร้างความมั่นคงต่อเนื่องในช่วงเปลี่ยนผ่านอำนาจ และผลกระทบต่อความมั่นคงของภูมิภาคอาเซียน

ความชอบธรรมทางการเมือง ฝั่งไทยต้องบริหารวิกฤตโดยใช้ความร่วมมือระหว่างประเทศและกลไกอาเซียน แทนที่การใช้อำนาจแข็งกร้าว ภูมิธรรมเลือก “การทูตเงียบ” เช่น เชิญผู้สังเกตการณ์จากมาเลเซีย ซึ่งสะท้อนความเข้าใจว่าความชอบธรรมในโลกปัจจุบันมาจากการรับผิดชอบต่อประชาคมโลก ไม่ใช่เพียงการใช้กำลัง แต่ฝั่งกัมพูชากลับใช้ “อำนาจสองชั้น” อย่างชัดเจน โดย ฮุน มาเนตทำหน้าที่นักการทูต ขณะที่ฮุน เซนใช้การปลุกกระแสชาตินิยมและโจมตีผู้นำไทยอย่างเข้มข้น ทำให้กัมพูชาสามารถต่อรองได้ทั้งในเวทีโลกและในประเทศ

การสื่อสารกับสาธารณะ ฝั่งไทยใช้ภาษาของสถาบัน เน้นความรับผิดชอบและการอ้างอิงกรอบกฎหมายระหว่างประเทศ แม้บางฝ่ายมองว่า “อ่อนเกินไป” แต่สอดคล้องกับแนวทางการเมืองโลกสมัยใหม่ ส่วนฝั่งกัมพูชา ใช้ “การสื่อสารสองเสียง”
ฮุน มาเนตใช้ภาษาทางการ เน้นการแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชนและความเปิดกว้างต่อการเจรจา ส่วนฮุน เซนใช้ถ้อยคำ
เร้าอารมณ์ปลุกระดมความภาคภูมิใจของชาวกัมพูชาและสามารถใช้โลกโซเชียลเข้าถึงทั้งประชาคมโลกและคนในประเทศ

การจัดการความคาดหวังของประชาชนและนานาชาติ ไทยสามารถผลักดันข้อตกลงหยุดยิงภายใน 10 วัน ถือเป็นความสำเร็จที่เกินความคาดหมาย เมื่อพิจารณาจากข้อจำกัดด้านประสบการณ์การจัดการวิกฤตระหว่างประเทศ แต่ได้อาศัยประโยชน์จากเครือข่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการสร้างแรงกดดันทางศีลธรรมจากประชาคมโลก สะท้อนถึงประสิทธิภาพการใช้ “Soft Power” ของผู้นำประเทศไทย

ฟากกัมพูชาเน้นการเจรจาจากจุดแข็ง โดยเข้าร่วมเจรจาหยุดยิงในฐานะฝ่ายที่มี "อำนาจต่อรอง" แสดงให้เห็นถึงประสิทธิผลของกลยุทธ์ "แรงกดดันสูงสุด" ที่ใช้ทั้งการปลุกระดมในประเทศและการสร้างความกดดันทางการเมืองต่อไทย ระบบอำนาจสองชั้นช่วยให้กัมพูชาปรับความรุนแรงของการต่อรองได้ตามสถานการณ์ และเมื่อต้องการลดสถานการณ์ความตึงเครียด ฮุน มาเนตก็จะแสดงบทบาทผู้นำที่มีเหตุผล แต่เมื่อต้องการเพิ่มแรงกดดัน ฮุน เซนก็จะออกมาสร้างความรุนแรงเพิ่มเติม

สำหรับบทเรียนระยะยาวของการเป็นผู้นำไทย-กัมพูชา ในแง่การสร้างความมั่นคงต่อเนื่องพบว่าวิกฤตครั้งนี้เผยให้เห็นถึงความแตกต่างพื้นฐานระหว่างระบบการเมือของทั้งสองประเทศ ฝั่งไทยมีความเปราะบางที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงผู้นำที่ไม่คาดคิด แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการใช้กลไกสถาบันเพื่อแก้ไขปัญหา ขณะที่กัมพูชาแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงของโครงสร้างอำนาจ แต่ลึก ๆ แล้วเผยให้เห็นถึงความซับซ้อนที่อาจเป็นปัญหาระยะยาว การมีผู้นำสองคนในบทบาทที่แตกต่างกันอาจสร้างความไม่แน่นอนให้กับคู่เจรจาในอนาคต

วิกฤตไทย-กัมพูชานี้นอกจากจะเป็นการทดสอบภาวะผู้นำสองประเทศแล้ว ยังเป็นลากยาวถึงการทดสอบความมั่นคงของภูมิภาคอาเซียน ว่ากลไกอาเซียนเข้มแข็งพอในการจัดการความขัดแย้งหรือไม่ การที่มาเลเซียสามารถเข้ามาเป็นตัวกลางได้อย่างดี ย่อมแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการทูตพหุภาคีในภูมิภาค

ภาพสะท้อนของผู้นำยามวิกฤตระหว่างประเทศไทย–กัมพูชาครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนที่ยังหาข้อตกลงไม่ได้ชัด ๆ แต่ก็กลายเป็นบทสะท้อนถึงความจริงของการเมืองทั้งภายในและระหว่างประเทศ บนโลกที่ซับซ้อน เชื่อมโยง และไร้ความแน่นอน ไม่มีสูตรสำเร็จของผู้นำที่ใช้ได้ตลอด มีเพียงความสามารถในการปรับตัว ใช้จุดแข็งของระบบ และเข้าใจข้อจำกัดของตนเอง

วันนี้ การวัดคุณค่าของผู้นำ ไม่ได้อยู่ที่จำนวนอาวุธหรือกำลังพล แต่อยู่ที่ความกล้าหาญที่จะเลือกสันติวิธี เพราะสุดท้ายแล้ว ผู้นำที่แท้จริง คือผู้ที่รักษาอำนาจของตน ควบคู่กับรักษา “ความหวัง” ของผู้คนเอาไว้ด้วย แล้วคุณล่ะ…ในวันที่วิกฤตมาเยือน จะเลือกเป็นผู้นำแบบไหนกันครับ?

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

ร่วมวิ่งกับซุปตาร์เมืองไทย ในงานวิ่งการกุศล “ซุปตาร์รัน 2025”

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กองทัณฑวิทยาทดสอบความสามารถยุทธวิธีชุดปฏิบัติการพิเศษ TPLC 2025

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ผู้ช่วยผบ.ตร.ตรวจเยี่ยมพื้นที่ชายแดนใต้มอบนโยบายเสริมความพร้อมการปฏิบัติราชการ

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ตำรวจภูธรภาค 2 เดินหน้าปราบปรามยาเสพติด – กวดขันสถานบันเทิงจับกุมผู้ต้องหาได้ 20 รายในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคตะวันออก

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

รถนั่งส่วนบุคคลชนกับรถจักรยานยนต์ กลางถนนทางหลวงหมายเลข 33 มีผู้เสียชีวิตเป็นชาวจีน จ.ปราจีนบุรี

สวพ.FM91

ยุโรปเจออากาศร้อนจัดเกิด “ฮีทเวฟ” ทั่วทางใต้ “สเปน” แทบสุกปรอทพุ่ง 45C. ดับ 2 ส่วนดับเพลิงเอเธนส์กว่า 4,850 ฉีดน้ำดับไฟป่าลามทั่วกรีซ

Manager Online

เลือดนองกลางงานขึ้นบ้านใหม่! หนุ่มคว้าปืน ลั่นไกลูกพี่ลูกน้อง เสียชีวิต

Khaosod
วิดีโอ

ลีน่าจัง จัดหนัก! ตาเมือนธมไม่ใช่ของเขมร เตือน ฮุนเซน-ฮุนมาเนต ทรยศจีน เขากำลังมาไล่ล่าพวกมึ_

BRIGHTTV.CO.TH

“รสนา” จี้รัฐบาลแสดงความจริงใจห่วงใยบ้านเมือง ต่ออายุราชการ "แม่ทัพกุ้ง" อย่างน้อย 6 เดือน-เชิญมาเป็น รมว.กลาโหม

Manager Online

ยังโหดได้อีก! กองทัพยิวประกาศเริ่มใช้แผนบุกกาซาครั้งใหม่ ขณะเนทันยาฮูเดินกลยุทธ์ขับชาวปาเลสไตน์ออกไป

Manager Online

ทัพรัสเซียเร่งบุกยึดพื้นที่ภาคตะวันออกยูเครน ก่อนหน้าซัมมิตปูติน-ทรัมป์ที่อะแลสกาศุกร์นี้

Manager Online

แมคญี่ปุ่น ยกเลิกโปรโมชั่น Happy Meals เหตุลูกค้าเก็บการ์ดแต่ทิ้งอาหาร

JS100

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...