All New Suzuki FRONX พร้อมเปิดตัวในไทย 25 ก.ย. นี้
All New Suzuki FRONX พร้อมเปิดตัวในไทย 25 ก.ย. นี้
ซูซูกิประเทศไทย พร้อมแล้วที่จะทำตลาด Suzuki FRONX ในตลาดเมืองไทย ซึ่งจะเป็นการนำเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซีย โดยเตรียมเปิดตัวในไทยวันที่ 25 กันยายน 25687 ที่จะถึงนี้
Suzuki FRONX เป็นรถเอสยูวีขนาด B- Segment แบบ 5 ที่นั่ง งานออกแบบดีไซน์ด้านหน้าจะมากับชุดไฟหน้าแบบแยกส่วน ด้านบนจะเป็นไฟ DRL ด้านในประกอบด้วยชุดไฟ LED ที่วางเรียวต่อกัน โดยมีแถบเส้นโครเมียมวางเชื่อมต่อชุดไฟหน้าทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมติดตรา Suzuki ไว้ที่ตรงกลาง มาพร้อมกระจังหน้าทรง 6 เหลี่ยมขนาดใหญ่ ด้านในตกแต่งด้วยวัสดุสีดำ
ขณะที่ชุดไฟส่องสว่างด้านล่างจะเป็นชุดไฟหลอดไฟที่วางเรียวกัน 3 ดวงอยู่ในกรอบทรงสามเหลี่ยมมาพร้อมติดตั้งแผ่นกันกระแทกที่เป็นสีเดียวกันกับตัวรถ เส้นสายด้านข้างดีไซน์ให้ดูมีความบึกบึน มากับโป่งซุ้มล้อทั้งหน้า และหลังออกถูกตีโป่งเล็กน้อย พอให้ดูมีมัดกล้าม ตกแต่งด้วยแถบสีดำที่ตัวขอบ มาพร้อมล้ออัลลอยทูโทนปัดเงาขนาด 16 นิ้ว นอกจากนั้นในส่วนกาบชายล่างด้านข้าง ก็ตกแต่งด้วยเฉดสีเดียวกันกับการ์ดกันกระแทกด้านหน้า มาพร้อมหลังคาแบบลอยตัว ด้วยการตกแต่งเสา A และเสา C ด้านท้ายด้วยแถบสีดำ
ล้ออัลลอยลายทูโทนขนาด 16 นิ้ว พร้อมยาง 195/60R16 จาก Goodyear Assurance TripleMax 2 ตัวรถมีขนาดเล็กกว่ารุ่น Grand Vitara โดยตัวรถยังเป็นแพลตฟอร์ม Heartect ตั้งแต่
- ความยาว 3,995 มิลลิเมตร
- ความกว้าง 1,765 มิลลิเมตร
- ความสูง 1,550 มิลลิเมตร
- ระยะฐานล้อ 2,520 มิลลิเมตร
- น้ำหนักรถ 1,480 กิโลกรัม
- ระยะต่ำสุดจากพื้น 170 มิลลิเมตร
- ความจุถังน้ำมัน 37 ลิตร
ภายในได้จอสัมผัสขนาดใหญ่ 9 นิ้ว ลำโพง 6 จุด มาตรวัดเรืองแสง ในชุดคอนโซลหน้าสีดำน้ำตาลที่มีหนังสัมผัสให้ สีเบาะนั่งโทนสีน้ำตาล/ดำหุ้มหนัง ปรับพับได้แบบ 60:40 มีพื้นที่ด้านหลัง 308 ลิตร มีซันรูฟแบบพาโนรามา จอแสดงผลบนกระจกหน้า Head up Display แท่นชาร์จไร้สาย เครื่องปรับอากาศด้านหลัง พอร์ตชาร์จ USB ด้านหลัง ทันสมัยด้วยระบบสตาร์ทเครื่องยนต์โดยใช้สมาร์ทโฟนหรือสมาร์ตวอทช์ สั่งการด้วยเสียงที่เข้ากันได้กับ Google Assistant และ Siri
ด้านชุดอุปกรณ์ภายในจะได้รับ แท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สาย, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง, ชุดเครื่องเสียง Arkamys stereo ลำโพง 6 ตำแหน่ง เบาะที่นั่งมาพร้อมระบบทำความร้อนทุกที่นั่ง เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 และมีพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายที่ 304 ลิตร
ระบบความปลอดภัย จะมากับระบบช่วยเหลือการขับขี่ Suzuki Safety Support – ADAS อาทิ ถุงลมนิรภัย 6 ใบ, กระจกแบบกันแสง UV, ระบบเตือนเข็มขัดนิรภัย, เบรก ABS พร้อมระบบกระจายเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวของรถ, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ระบบเตือนความเร็วสูง, เซนเซอร์ถอยหลัง, ระบบตัดการทำงานเครื่องยนต์ชั่วคราว Automatic Engine Stop/Start และกล้อง 360 องศารอบคัน
Suzuki Fronx ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม HEARTECH อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของทาง Suzuki ในด้านพละกำลังขับเคลื่อน ยังไมม่ความชัดเจนว่าทาง ซูซูกิประเทศไทยนั้นจะนำขุมพลังบล็อกไหนเข้ามาทำตลาดในบ้านเรา แต่ถ้าอิงตามสเปกที่เปิดตัวในอินโดนีเซียก็จะมีให้เลือก 2 รูปแบบ ดังนี้
- 1.5 NA โดยจะมากับเครื่องยนต์เบนซิน รหัส K15B ขนาด 1.5 ลิตร พละกำลัง 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร มีชุดส่งกำลังให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และ เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า
- Mild Hybrid ที่มากับเครื่องยนต์เบนซิน รหัส K15C Dual JET ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลัง 101 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 135 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับ มอเตอร์ไฟฟ้า WA06A พละกำลัง 3.1 แรงม้า แรงบิด 60 นิวตันเมตร มาพร้อมระบบ SHVS (Suzuki Hybrid Vehicle System) ซึ่งเป็นระบบ Mild Hybrid 12V ISG Integrated Starter Generation ช่วยในการออกตัว และเร่งแซง ระบบส่งกำลังจะมีทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า
ระบบช่วงล่างของด้านหน้าจะมาในแบบ MacPherson Strut ส่วนด้านหลังจะเป็น Torsion Beam
Suzuki Fronx เวอร์ชั่นอินโดนีเซีย มีให้เลือก 7 สี ทั้งแบบโมโนโทน และทูโทน ได้แก่ สีขาว Pearl Snow White, สีดำ Prime Cool Black, สีทอง Savanna Ivory Metallic, สีเทา Magma Grey Metallic ส่วนสีทูโทนจะได้แก่ สีฟ้า/ หลังคาดำ Icy Grayish Blue Pearl Metallic / Cool Black, สีขาว / หลังคาดำ Pearl Snow White / Cool Black และ สีทอง / หลังคาดำ Savanna Ivory Metallic / Cool Black
สำหรับราคาจำหน่าย Suzuki Fronx ในตลาดอินโดนีเซีย จะมีอยู่ระหว่าง 293,900,000 – 321,900,000 รูเปียห์ หรือราว ๆ 5.86- 6.42 ส่วนถ้านำเข้ามาในบ้านเราคาดว่าจะมีราราอยุ่ที่ประมาณ 6 -7 แสนบาท โดยการเปิดตัวจะมีขึ้นในวันที่ 25 กันยายน นี้