โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

ทรัมป์ลั่น “ยังอยู่ดี” หลังเจอข่าวลือสะพัดถึงขั้นลาโลกแล้ว

เดลินิวส์

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
ผู้นำสหรัฐออกสื่อเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 1 สัปดาห์ พร้อมชี้แจงสยบทุกกระแสข่าวว่า

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงการที่ตัวเองหายหน้าไปจากสื่อนานต่อเนื่องถึง 6 วัน ก่อนกลับมาปรากฏตัวอีกครั้งเมื่อวันอังคาร จนก่อให้เกิดกระแสข่าวลือว่า ป่วยหนักจนถึงขั้นถึงแก่อสัญกรรม และแฮชแท็ก #trumpdead แพร่หายไปทบนโลกออนไลน์ของสหรัฐ ว่าไม่เป็นความจริงอย่างสิ้นเชิง และตำหนิสื่อว่า "เป็นกันแบบนี้ จึงไม่มีความน่าเชื่อถือ"

ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐกล่าวอย่างติดตลกว่า เพียงแค่เขาหายหน้าไปไม่กี่วัน อีกทั้งสหรัฐยังติดวันหยุดยาว คือวันแรงงานที่เพิ่งผ่านไป แต่กลับถึงขั้นทำให้เกิดข่าวลือได้

ทรัมป์กล่าวว่า ออกไปตีกอล์ฟเมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมา และยังคงอยู่ที่ทำเนียบขาว ทำกิจกรรมในยามว่างซึ่งรวมถึงการเล่นดนตรี พร้อมทั้งย้ำว่า ตัวเอง "ยังคงทำงานและเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา"

อย่างไรก็ดี ย้อนกลับไปเมื่อเดือนก.ค. ที่ผ่านมา ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า คณะแพทย์ประจำตัวของทรัมป์ วินิจฉัยว่า ผู้นำสหรัฐมีอาการของภาวะหลอดเลือดดำบกพร่องเรื้อรัง หรือ ซีวีไอ ( Chronic Venous Insufficiency- CVI ) และย้ำว่า ทรัมป์ในวัย 79 ปี ยังคงมีสุขภาพที่ยอดเยี่ยม และสามารถปฏิบัติหน้าที่ผู้นำสหรัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำเนียบขาวย้ำว่า ภาวะซีวีไอไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตหากได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง และพบบ่อยในบุคคลที่มีอายุมากกว่า 70 ปีอยู่แล้ว และการเปิดเผยอาการป่วยของทรัมป์ในครั้งนี้ เป็นไปตามแนวทางของทำเนียบขาว ในการให้ข้อมูลที่โปร่งใสเกี่ยวกับสุขภาพของประธานาธิบดี “ไม่เหมือนรัฐบาลชุดที่แล้ว” หมายถึงอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ทรัมป์วิจารณ์มาตลอด ว่าเจตนาปกปิดอาการป่วยเกี่ยวกับระบบประสาทและสมอง.

เครดิตภาพ : AFP

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...