ตลาดบุฟเฟต์โตไม่หยุด Guss Damn Good x Copper เสิร์ฟคราฟต์ไอศกรีม ‘มื้อไม่อั้น’
ภาพรวมตลาดอาหารบริการ หรือ Foodservice ในไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยรายงานจาก SCB และ Euromonitor (อ้างอิง USDA, 2024) ระบุว่ามูลค่าตลาดรวมของธุรกิจ Foodservice (HRI) ในปี 2024 อยู่ที่ราว 32.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท
และมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยถึง 7% ต่อปี ปัจจัยสำคัญมาจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวและการขยายตัวของร้านอาหาร ทำให้ประเทศไทยยังคงเป็นหนึ่งในตลาดอาหารที่มีศักยภาพสูงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เมื่อเจาะมาที่ตลาดบุฟเฟ่ต์โดยเฉพาะ ข้อมูลจาก Catchup Asia (2025) ชี้ว่า คำว่า ‘บุฟเฟ่ต์’ ถูกค้นหากว่า 10 ล้านครั้งต่อปี และพุ่งขึ้นกว่า 430% ตั้งแต่หลังช่วงโควิดเป็นต้นมา
โดยกลุ่มบุฟเฟ่ต์พรีเมียม (ราคา 900–1,599 บาท) แม้จะเป็นเซ็กเมนต์ที่เล็ก แต่กำลังดึงดูดกลุ่มลูกค้าพร้อมจ่ายเพื่อคุณภาพและประสบการณ์ที่คุ้มค่า ทั้งรสชาติ วัตถุดิบ บรรยากาศ และการแชร์ประสบการณ์ในโซเชียล ซึ่งสอดรับกับเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหามากกว่าแค่ความอิ่ม
[ สร้างประสบการณ์ที่แตกต่าง ]
เทรนด์เหล่านี้ทำให้หลายแบรนด์ต้องมองหาวิธีสร้าง ประสบการณ์ที่แตกต่าง เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ และนั่นคือที่มาของการ Collaboration ครั้งสำคัญระหว่าง Copper Beyond Buffet และ Guss Damn Good
นี่เป็นครั้งแรกของบุฟเฟต์คราฟ์ไอศกรีม Guss Damn Good ที่เข้ามาอยู่ใน Copper Beyond Buffet ร้านบุฟเฟต์นานาชาติระดับพรีเมียมของไทย ซึ่งเกิดขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 9 ปีของ Copper จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้ เป็นต้นไป
โดยการ Collab ครั้งนี้ Copper ยกเอา 7 รสชาติยอดฮิตของ Guss Damn Good มาเสิร์ฟกันแบบ All You Can Eat ทั้งคุณภาพและรสชาติแบบ Original Taste เหมือนกินที่ร้าน
Copper ในฐานะผู้นำบุฟเฟต์นานาชาติระดับพรีเมียมของไทย ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการ ด้วยการคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพและการมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าบุฟเฟต์ทั่วไป การ Collab ครั้งนี้จึงถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่สะท้อน DNA ของ Copper ได้อย่างชัดเจน
ที่สำคัญการ Collab ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การชั่วคราวและเป็นการนำเข้ามาตั้งอย่างถาวร ทำให้ลูกค้าที่เข้ามาทานอาหารที่ Copper สามารถทานคราฟต์ไอศรีม Guss Damn Good กันได้แบบเรื่อยๆ เลย
[ 7 รสชาติแรกที่ห้ามพลาด ]
นี่คือ 7 รสชาติที่ Copper คัดมาเป็นการเปิดตัวในครั้งแรก เพื่อให้มื้อบุฟเฟต์เต็มไปด้วยความพิเศษยิ่งกว่าเดิม ได้แก่
1.Here’s Your Damn Good Chocolate : ดาร์กช็อกโกแลต 70% เข้มข้น
2.Maine Rocky Coast : เกลืออัลมอนด์กรุบ ๆ เค็มหวานกำลังดี
3.Summer Smile : วานิลลาเกลือกับคุกกี้สเปคคูลอส
4.Greek Yogurt Biscoff Crunch : เปรี้ยวนิด หอมมัน ครบรส
5.Vanilla Madagascar Blend : วานิลลาพรีเมียมสายคลาสสิก
6.Uji Matcha : มัทฉะจากเมืองอูจิ เกียวโต
7.Tokyo Mist (Yuzu Sorbet) : ยูสุซอร์เบต์ หอมสดชื่น
[ คราฟต์ไอศครีมสายเนิร์ด ]
ส่วนฝั่ง Guss Damn Good เอง ก็เต็มไปด้วยเรื่องราวและความตั้งใจที่ทำให้แต่ละรสชาติพิเศษกว่าที่เห็น เพราะคือแบรนด์ไอศกรีมที่นิยามตัวเองว่า ‘เนิร์ดไอศกรีม’ ที่ทุกถ้วยเต็มไปด้วยความตั้งใจและการทดลองเล่าเรื่องผ่านรสชาติ หรือที่เรียกว่า Story-to-Flavor
แบรนด์นี้เกิดขึ้นที่บอสตันในปี 2014 จากแรงบันดาลใจที่ว่า ไอศกรีมไม่ใช่แค่ขนม แต่คือการส่งต่อโมเมนต์ดีๆ จนวันนี้ Guss Damn Good กลายเป็นคราฟต์ไอศกรีมสัญชาติไทยแท้ 100% ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ทั้งเนื้อสัมผัสแบบ Boston Style นุ่ม หนึบ แต่ไม่หนัก และการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง ทั้งนมสดจากฟาร์มไทยและครีมจากฝรั่งเศส
ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ตอนนี้ Guss Damn Good มีทั้งหมด 20 สาขา และกำลังจะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขาภายในปีนี้ ที่แรกคือฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ส่วนอีกแห่งยังอยู่ระหว่างตัดสินใจ
นอกจากนี้ยังมีแผนขยายรูปแบบใหม่ๆ เช่น เข้าไปอยู่ในห้างหรือร้านสะดวกซื้อ ในเวอร์ชันที่ไม่ใช่ไอศกรีมตักแบบเดิม อาจได้เห็นกันปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า
รวมถึงการแตกแบรนด์ใหม่ อย่าง ‘Adam n Eve’ ไอศกรีมสายสุขภาพเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น ปีหน้าก็มีแผนจะเร่งขยายสาขาแบรนด์ลูกให้เติบโตใกล้เคียงกับ Guss Damn Good และอาจจะมีแบรนด์ใหม่ๆ ตามมาอีก
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เราหันมาโฟกัสเรื่อง ‘การสร้างแบรนด์’ อย่างจริงจังมากขึ้น และมองไปข้างหน้าว่าจะขยายสาขาไปยังหัวเมืองใหญ่อย่างภูเก็ตและหาดใหญ่ รวมถึงเริ่มสนใจการเปิดสาขาในต่างประเทศด้วย
การจับมือครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องรสชาติ แต่คือการยก “ประสบการณ์ใหม่” มาวางบนโต๊ะบุฟเฟต์ ลูกค้าของ Copper จะได้สัมผัสไอศกรีมคราฟต์ระดับโลกในมื้อเดียวกับอาหารนานาชาติระดับพรีเมียม ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ทำให้ Copper แตกต่าง