จีนผนึกกำลังผู้เชี่ยวชาญนานาชาติ พัฒนาอุทยานธรณีไดโนเสาร์สู่เวทีสากล
ภายในงานเสวนาระดับนานาชาติว่าด้วยการอนุรักษ์ฟอสซิลที่จัดขึ้น ณ มณฑลเฮยหลงเจียง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน ผู้เข้าร่วมงานหลายร้อยคนได้ทำกิจกรรมการสำรวจพื้นที่เพื่อค้นหาฟอสซิลปลา โดยได้สัมผัสกับประสบการณ์จริงในการขุดฟอสซิล ณ อุทยานธรณี ไดโนเสาร์ แห่งชาติของจีน (China National Geological Park of Dinosaurs)
อำเภอเจียอิน ในมณฑลเฮยหลงเจียง ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ถิ่นกำเนิดของไดโนเสาร์” เนื่องจากมีการค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์เป็นครั้งแรกของจีนเมื่อปี พ.ศ. 2445 และในปัจจุบัน ฟอสซิลไดโนเสาร์จากยุคก่อนประวัติศาสตร์เหล่านี้ก็ได้กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของอำเภอเจียอิน โดยดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบไดโนเสาร์จากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยือน
ผู้เชี่ยวชาญด้านบรรพชีวินวิทยาและธรณีวิทยาจากจีนและอีก 8 ประเทศ เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี และเบลเยียม ได้เข้าร่วมกิจกรรมการขุดฟอสซิลภายในงานเสวนาว่าด้วยการอนุรักษ์ฟอสซิลเจียอิน ครั้งที่ 4 และการประชุมวิชาการด้านธรณีวิทยาการท่องเที่ยว (4th Jiayin Forum on Fossil Protection and the Symposium on Tourism Geosciences) ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 และ 28 สิงหาคมที่ผ่านมา ภายใต้ความร่วมมือของสมาคมบรรพชีวินวิทยาแห่งประเทศจีน ห้องปฏิบัติการหลักด้านวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตในอดีตในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติแห่งประเทศจีน และรัฐบาลประชาชนอำเภอเจียอิน มณฑลเฮยหลงเจียง
“ลองมองหาบริเวณที่เป็นสีดำ มีโอกาสที่จะพบฟอสซิลปลาได้มากที่สุด” ซุน เกอ (Sun Ge) ประธานกิตติมศักดิ์ของคณะกรรมการ Popular Science Committee ของสมาคมบรรพชีวินวิทยาแห่งประเทศจีน กล่าวขณะนำการสำรวจภาคสนาม
เมื่อเขาให้สัญญาณ เสียงค้อนกระทบหินก็ดังก้องไปทั่วหุบเขาของอุทยานแห่งชาติ ราวกับกำลังปลุกอดีตให้หวนคืนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
งานเสวนาครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนโดยสมาคมบรรพชีวินวิทยาแห่งประเทศจีน มหาวิทยาลัยจี๋หลิน มหาวิทยาลัยครุศาสตร์เสิ่นหยาง และหน่วยงานหลายแห่งในสังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน
งานเสวนาดังกล่าวเคยจัดมาแล้วในปี พ.ศ. 2560, 2562 และ 2566 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ฟอสซิล โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟอสซิลไดโนเสาร์และแหล่งที่ขุดค้นพบฟอสซิล ตลอดจนสนับสนุนการวิจัยทางธรณีวิทยาและการให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์สาธารณะ รวมทั้งเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างประเทศ
หลังจากที่มีการค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์ฮาโดรซอร์ (hadrosaur) เป็นครั้งแรกของจีนเมื่อปี พ.ศ. 2445 อำเภอเจียอินก็ได้ค้นพบตัวอย่างฟอสซิลไดโนเสาร์ฮาโดรซอร์ที่สมบูรณ์มากกว่า 10 ตัวอย่าง “บรรดาผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าพื้นที่นี้เป็นสุสานไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ และมีฟอสซิลที่ยังไม่ได้ขุดค้นไม่ต่ำกว่า 100 ชิ้น” ซุน เคอซิน (Sun Kexin) มัคคุเทศก์ประจำพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์เสินโจว อำเภอเจียอิน (Jiayin Shenzhou Dinosaur Museum) ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานธรณี กล่าว
จีนได้จัดตั้งอุทยานธรณีไดโนเสาร์แห่งชาติขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศที่อำเภอเจียอินเมื่อปี พ.ศ. 2544 โดยครอบคลุมพื้นที่ 38.44 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมีบทบาทสำคัญทั้งในด้านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์แก่ประชาชน รวมถึงการท่องเที่ยว
“นับตั้งแต่ค้นพบซากฟอสซิลไดโนเสาร์เป็นครั้งแรกโดยนักบรรพชีวินวิทยาชาวรัสเซีย เหล่าผู้เชี่ยวชาญทั้งในประเทศและต่างประเทศก็ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการขุดค้นฟอสซิลที่อำเภอเจียอินอย่างต่อเนื่อง และทำผลงานได้อย่างโดดเด่นตลอดหลายปีที่ผ่านมา” เสิน เฟิงปิน (Shen Fengbin) นักบูรณะฟอสซิลประจำอุทยานธรณี กล่าว
การวิจัยและการอนุรักษ์ฟอสซิลในอำเภอเจียอินได้รับประโยชน์จากการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ศาสตราจารย์อับดุล เราะห์มาน อัชราฟ (Abdul Rahman Ashraf) วัย 83 ปี จากมหาวิทยาลัยบอนน์ ประเทศเยอรมนี เป็นหนึ่งในนักบรรพชีวินวิทยาจากต่างประเทศที่เข้าร่วมงานเสวนาในครั้งนี้
“ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี ผมได้ทำงานร่วมกับศาสตราจารย์ชาวจีนหลายท่าน และสร้างความร่วมมืออันดีต่อกันเสมอมา” ศาสตราจารย์อัชราฟกล่าว โดยเขาเดินทางเยือนอำเภอเจียอินมาแล้วถึง 25 ครั้ง และเรียกเจียอินด้วยความรักว่า “บ้านหลังที่สอง” ของเขา
ฮารุฟุมิ นิชิดะ (Harufumi Nishida) ประธานองค์กรบรรพพฤกษศาสตร์ระหว่างประเทศ ได้เดินทางเยือนอำเภอเจียอินเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2546
“นับตั้งแต่นั้นมา ผมได้มาเยือนเจียอินอีกนับครั้งไม่ถ้วน และทุกครั้งที่มา ผมได้เห็นความก้าวหน้าอันน่าทึ่งของทั้งประเทศจีนและอำเภอเจียอิน ซากฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ รวมถึงฟอสซิลไดโนเสาร์ และระบบนิเวศที่สิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์เหล่านี้เคยอาศัยอยู่ ได้รับการค้นพบภายใต้ความร่วมมือและมิตรภาพระหว่างประเทศที่เพื่อนร่วมงานชาวจีนได้ร่วมกันสร้างขึ้น และยังได้มีการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้เหล่านี้ไปยังคนรุ่นหลังต่อไป” เขากล่าว
ภายในอุทยานธรณีแห่งนี้ยังมี “สวนรูปปั้นนักบรรพชีวินวิทยา” ซึ่งจัดแสดงรูปปั้นของนักบรรพชีวินวิทยาชั้นนำระดับโลกรวม 24 ท่าน โดยในจำนวนนี้มีชาวต่างชาติ 12 ท่าน เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติและยกย่องคุณูปการที่มีต่อการวิจัยด้านธรณีวิทยาและบรรพชีวินวิทยาในอำเภอเจียอิน
“อำเภอเจียอินไม่ใช่แค่เพียงแหล่งค้นพบฟอสซิลที่สำคัญเท่านั้น หากยังเป็นสะพานแห่งการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างประเทศอีกด้วย การจัดงานเสวนาครั้งนี้มีนัยสำคัญอย่างยิ่ง โดยสะท้อนให้เห็นว่าบรรพชีวินวิทยาไม่มีพรมแดน และเป็นศาสตร์ที่เติบโตจากการแลกเปลี่ยน ความร่วมมือ และการก้าวไปข้างหน้าร่วมกัน” หวัง จวิน (Wang Jun) ประธานสมาคมบรรพชีวินวิทยาแห่งประเทศจีน กล่าว
ที่มา: รัฐบาลประชาชนอำเภอเจียอิน