"ทิดอลงกต" ยอมพูดแล้ว ต่อจากนี้จะทำอะไร เจ็บใจเหตุผลที่บวช
ต้องตามให้ชัดเจนกับเส้นทางการเงินของ วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งเส้นทางการเงิน และ ความไม่ชอบมาพากลอีกหลากหลาย หลังจากที่ อดีตพระอลงกต และ หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ ถูกนำตัวไปฝากขังในคดียักยอกเงินวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในวันนี้ได้ผู้ร่วมรายการ ที่จะมาขยายข้อมูลด้านการสืบสวน ก็คือ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.
โดย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. บอกว่า วันที่เริ่มเข้าไปเก็บข้อมูล เฉพาะธุรกรรม 2 ประเภทหลักๆ ที่น่าสงสัย แค่ 1. การทำธุรกรรมทางออนไลน์ 7 แสนบาทขึ้นไป กับ การโอนหน้าเคาน์เตอร์ 2 ล้านขึ้นไป ขนาดโฟกัสแค่นี้ยังเจอเส้นเงิน 1,000 กว่าล้าน ถ้าไปเช็กสเตตเมนต์ทั้งหมดจะขนาดไหน และที่สำคัญคือเจอคนที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินของผู้ต้องหา ประมาณ 20 คน
ก่อนหน้านี้ ไปตรวจสอบพร้อมกับ สตง. ปปง. และไปเจอเช็ค ประมาณ 30 ฉบับ รวมเงินประมาณร้อยกว่าล้าน เช็คพวกนี้ไม่เคยเอาเข้าธนาคาร เป็นเช็คที่สั่งจ่ายให้วัดพระบาทน้ำพุ จากการได้เข้าไปสอบปากคำ และสอบถาม อดีตพระอลงกต ก็คือเรื่องเช็ค ถามว่าทำไมถึงไม่เอาเข้าธนาคาร ทิดจ๊อด (จอร์จ) บอกว่า แกถูกโกงไปร้อยกว่าล้าน จากนักธุรกิจคนหนึ่ง ที่เคยมาดูแล เคยเอาเฮลิคอปเตอร์มารับหลวงพ่อไปกิจนิมนต์ที่ต่างๆ จนใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก แล้วมาขอยืมเงินท่าน เป็นร้อยล้าน บอกว่าจะเอาไปซื้อเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว ยกให้หลวงพ่อ 1 ลำ สุดท้ายหนี ไม่คืน
เรื่องเงินบริจาคในวัด ของวัดพระบาทน้ำพุ ไม่มีการบริหารจัดการให้โปร่งใสเลย ถามว่ามีตู้ทั้งหมดกี่ตู้ ท่านตอบไม่ได้ แล้วคนที่อยากจะเอากล่องรับบริจาคไปวางวางที่หน่วยงานตัวเอง ก็ขอไม่ยากเลย ไปติดต่อแล้วเอาตู้ไปวางได้เลย ที่สำคัญคือตู้ก็มีหลายแบบมากๆ พอถามว่า แล้ววิธีเก็บเงินจากตู้ ทำยังไง ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า จะมาส่งเองก็ได้ จะโอนมาก็ได้ แต่เมื่อถามว่า แล้วถ้าเขาไม่โอนมา ไม่ส่งเงินมา จะทำยังไง เจ้าหน้าที่บอกว่า “แล้วแต่สำนึก”
จากการเข้าไปตรวจสอบภายในวัด มันดูมีสองฝั่งแยกขาวดำชัดเจนมากๆ ฝั่งที่ทำเกี่ยวกับการบริจาค การบริหารจัดการในวัด เป็นปกติมากๆ แต่ฝั่งที่เป็นสีดำ ก็คือมีการโยกย้ายเอาเงินไปทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่กิจของวัด โดยเฉพาะมีการไปตั้งบริษัทเกี่ยวกับไฟฟ้า พลังงาน ทุนจดทะเบียนร้อยล้าน ที่บอกว่าเป็นการลงทุนเพื่อสร้างงานสร้างอาชีพให้ผู้ป่วย HIV ในวัด เอาต้นกระถินมาปลูก แล้วจะทำเป็นไฟฟ้าชีวมวล แต่ทิดจ๊อดบอกว่า เขาผิดพลาดเองที่ทำแล้วมันไม่ประสบความสำเร็จ
ในช่วงท้ายของรายการ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ยังอธิบายอีกว่า คำตอบของคำถามหนึ่งที่น่าตกใจ หลังจากที่ได้ยิน อดีตพระอลงกต พูดว่า ตนเองไม่ได้ตั้งใจที่จะเข้าวงการสงฆ์ และไม่ได้ศรัทธาในพระพุทธศาทนาใดๆ แต่มาบวชเพราะ เพียงเพื่อก่อนจะออกไปทำงานเท่านั้นเอง แถมยังบอกอีกว่า ตนเองขี้เมา เรียนไม่จบ อกหัก จึงตัดสินใจที่จะมาบวชก่อนออกไปทำงาน แต่พอบวชแล้วก็ไม่อยากสึก แถมยังบอกอีกว่า เรื่องนี้ตนเข้มแข็งและกล้าหาญ แต่ผมมองว่า เข้มแข็งพอเข้าใจได้ แต่กล้าหาญไม่ใช่ เพราะท่านจำนนต่อหลักฐาน
อย่างไรก็ตาม อีกเรื่อง พ.ต.ท.สิริพงษ์ ถามก็คือ ถ้าเข้าสู่กระบวนการแล้ว จะทำยังไงต่อไป แล้วจะทำยังไงกับคนไข้ที่อยู่ในวัด อดีตพระอลงกตคิดสักแป๊บ แล้วก็บอกว่า ตนเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังเชื่อและศรัทธาในตนเอง เพราะฉะนั้น ตนจะกลับไปที่นั่นอีก ไม่ว่าท่านจะกลับไปในสภาพนุ่งขาว ห่มขาว แต่ท่านก็จะกลับไป แล้วก็จะทำแบบเดิม นี่คือสิ่งที่ท่านพูดกับ พ.ต.ท.สิริพงษ์ พร้อมด้วยบิ๊กตำรวจอีก 2 คน