ICRC ไม่ชี้ถูกผิด เน้นช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมตามมาตรฐานสากล
คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ย้ำมาตรฐานการปฏิบัติสากล หลังลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ระหว่างวันที่ 11–14 สิงหาคม 2568 โดยข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากการสัมภาษณ์ประชาชนและสำรวจความเสียหาย จะถูกนำส่งตรงให้หัวหน้าส่วนราชการของทั้งสองประเทศเท่านั้น โดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ เพื่อรักษาความเป็นกลางและความน่าเชื่อถือของกระบวนการด้านมนุษยธรรม
การปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ กองทัพบกร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่ ICRC พร้อมทั้งมีส่วนราชการจังหวัดร่วมสนับสนุนข้อมูลและประสานงานในพื้นที่ ได้แก่ อำเภอพนมดงรัก และ อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์, อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี
วิธีการของ ICRC ยึดตามหลักอนุสัญญาเจนีวา ค.ศ. 1949 โดยเน้นการคุ้มครองผู้ได้รับบาดเจ็บ ผู้เจ็บป่วย บุคลากรทางการแพทย์ และผู้นำศาสนา การเก็บข้อมูลทำในลักษณะเป็นส่วนตัว ไม่ตัดสินความถูกผิดของคู่ขัดแย้ง แต่เน้นการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นสำคัญ
บรรยากาศโดยรวมของการลงพื้นที่สะท้อนความร่วมมือของทุกฝ่าย ทั้งกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และคณะ ICRC ที่ต่างเห็นพ้องว่าควรยึดหลักสากลด้านมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัดในการดำเนินงาน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ทบ.ย้ำกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 โจมตีไทย พาทูตลงพื้นที่พิสูจน์
- กองทัพบกเผยพลทหารกาบเชิง “ไม่ได้คลั่ง” ปฏิบัติหน้าที่ได้ดี - คาดเกิดจากความเครียด
- กองทัพภาค 2 ชี้แจงกัมพูชาปลดรั้วลวดหนาม - ธงชาติไทย “ข่าวปลอม”
- สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ล่าสุด รัฐบาลพาทูตภาคีออตตาวาลงพื้นที่
- ต่างชาติให้เงิน "กัมพูชา" ช่วยเหลือเก็บกู้ "ทุ่นระเบิด" พันล้านบาทต่อปี แต่ยังโผล่ทำร้ายทหารไทย