หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ลาสิกขาแล้ว
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 สิงหาคม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย จนท.ป.ป.ท. และ ป.ป.ช. มายังอาคารประชารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อมาดูการสอบปากคำของพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือพระอลงกต และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือหมอบี โดยบอกว่า หลวงพ่อยังไม่ให้ความร่วมมือในบางเรื่อง ยังไม่ยินยอมสึก ตำรวจจะดำเนินการไปตามกฎหมายในการสอบปากคำ ส่วนจะขยายผลยังไงบ้างต้องว่าไปตามกฎหมาย
ถามว่าการที่หลวงพ่อไปสวมสิทธิชื่อคนอื่นในการบวชจะถือว่าเป็นการบวชจริงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติกล่าวว่า เรื่องนั้นเป็นเรื่องย่อย เอาเรื่องหลักก่อน จากนั้นได้ขึ้นลิฟต์ไปยังห้องสอบปากคำ
ต่อมาเวลา 14.10 น. หลัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติเข้าสอบปากคำด้วยตัวเอง จากนั้นพระราชวิสุทธิประชานาถ ได้ยอมลาสิกขาสิ้นสุดความเป็นพระ และเปลี่ยนใส่ชุดขาว เพื่อนำเข้าสู่ขั้นการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
และเมื่อ17.00 น. เพจดาวแปดแฉก รายงานว่า จากการสอบปากคำ ทิดอลงกต ยอมรับสารภาพ และให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีโดยเฉพาะข้อมูลยืนยันตัวบุคคล โดยระบุว่าเดิมทีตนเองนั้นชื่อ นายเกรียงไกร เพ็ชรแก้ว ชื่อเล่น จอร์จ เป็นชาวจังหวัดขอนแก่น เกิดเมื่อปี2503 โดยเรียนที่ รร.แก่นนครวิทยาลัย ก่อนที่ไปเรียน ปวช.ที่เกษตรบ้านกร่าง แต่ไม่จบหลักสูตร /โดยห้วงระหว่างนั้นได้ขึ้นทะเบียนทหารกองเกินที่ อ.เมืองขอนแก่น แต่ไม่ได้เกณฑ์ทหาร เนื่องจากได้ ช่วงปี 2524 ได้ไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยทำงานเป็นคนเขียนแบบสร้าง ตึกปิโตรนาส โดยออกทางช่องทางธรรมชาติ ก่อนที่ปี2529 จะเดินทางกลับเข้ามาในไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ และได้มากับคณะผู้แสวงบุญ เพื่อมาศึกษาพระธรรมก่อนที่จะบวชเมื่อวันที่ 1 มี.ค.2529 เวลา 07.36 น. ที่วัดลำนารายณ์ ก่อนจะมาอยู่ที่วัดพระบาทน้ำพุ วันที่ 25 พ.ค.2536 จนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อเป็นนายอลงกต พลมุข เพื่อหนีทหาร
ส่วนสาเหตุที่เปลี่ยนและใช้ชื่อเป็นนายอลงกต พลมุข เนื่องจาก ส่วนตัวรู้จักกับนายอลงกต สมัยอยู่ที่ขอนแก่น เนื่องจากเป็นเพื่อนรักกัน โดยที่นายอลงกต ไม่ทราบตนได้สวมรอยใช้ชื่อนี้ เช่นเดียวกับกรณีรายละเอียดของใบสุทธิที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงนั้น ยอมรับว่าเป็นผู้เขียนเองทั้งหมด
#พระอลงกตลาสิกขา
Cr:ตำรวจสอบสวนกลาง