โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

“เงินเยน” อ่อนค่า หลังอิชิบะลาออก “ดอลลาร์สหรัฐ” ฟื้นตัวเก็งเฟดลดดอกเบี้ย

การเงินธนาคาร

อัพเดต 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ตลาดเงินเอเชียเผชิญแรงขาย "เงินเยน" หลังนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นประกาศลาออก เพิ่มความไม่แน่นอนทางการเมือง "ดอลลาร์สหรัฐ" ยังอยู่ในช่วงฟื้นตัว หนุนคาดการณ์เฟดเตรียมลดดอกเบี้ยเดือน ก.ย.

วันที่ 8 กันยายน 2568 เวลา 09.02 น. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ค่าเงินเยนร่วงลงอย่างกว้างขวางในวันจันทร์ (9 ก.ย.) หลังจากมีข่าวว่าญี่ปุ่น ชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ประกาศลาออก ขณะที่ดอลลาร์ยังอยู่ในช่วงฟื้นตัวหลังจากอ่อนค่าหนักเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน จากรายงานการจ้างงานสหรัฐที่อ่อนแอ ซึ่งยิ่งตอกย้ำความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้

อีกหนึ่งปัจจัยที่ตลาดให้ความสนใจ คือ การลงมติไว้วางใจฟรองซัวส์ บาโยรู นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ในวันจันทร์ ซึ่งเขามีแนวโน้มจะแพ้ ส่งผลให้เศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของยูโรโซนเผชิญวิกฤติการเมืองที่รุนแรงขึ้น

อิชิบะประกาศลาออกเมื่อวันอาทิตย์ นำไปสู่ช่วงเวลาที่อาจมีความไม่แน่นอนด้านนโยบายยืดเยื้อสำหรับเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 4 ของโลก ค่าเงินเยนร่วงทันทีในการซื้อขายเอเชียวันจันทร์ โดยอ่อนค่า 0.6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 148.25 เยนต่อดอลลาร์ รวมทั้งอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่าหนึ่งปีเมื่อเทียบกับยูโรและปอนด์ ที่ 173.91 และ 200.33 เยนตามลำดับ

นักลงทุนกำลังจับตามองความเป็นไปได้ที่อิชิบะจะถูกแทนที่ด้วยผู้นำที่สนับสนุนนโยบายการคลังและการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น เช่น ซานาเอะ ทาคาอิจิ แกนนำพรรค LDP ที่วิจารณ์การขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)

ฮิโรฟุมิ ซูซูกิ หัวหน้านักกลยุทธ์ค่าเงินของ SMBC กล่าวว่า “ความเป็นไปได้ที่ BOJ จะขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มในเดือนกันยายนไม่เคยถูกมองว่าสูงอยู่แล้ว และมีแนวโน้มว่าจะเป็นการรอดูท่าทีมากกว่า แต่ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับผู้นำคนใหม่ของญี่ปุ่น ทำให้สถานการณ์ยังคงเปิดอยู่”

ความกังวลต่อความไม่แน่นอนทางการเมืองยังทำให้เกิดแรงเทขายเงินเยนและพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGBs) เมื่อสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ด้าน ชารุ ชานานา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุนของ Saxo กล่าวเพิ่มเติมว่า “ด้วยพรรค LDP ที่ไม่มีเสียงข้างมากชัดเจน นักลงทุนจะยังคงระมัดระวังจนกว่าจะมีการยืนยันตัวผู้นำคนใหม่ ซึ่งจะทำให้ความผันผวนยังคงสูงทั้งในตลาดเงินเยน พันธบัตร และตลาดหุ้น” พร้อมระบุว่า ในระยะสั้นมีแนวโน้มที่ค่าเงินเยนจะอ่อนต่อ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้น และตลาดหุ้นเคลื่อนไหวผันผวนสองทาง

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น โทชิมิตสึ โมเตงิ ประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค LDP คนใหม่ ทั้งนี้ค่าเงินเยนแทบไม่ตอบสนองต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่ในวันจันทร์ ซึ่งระบุว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวเร็วเกินคาดในไตรมาส 2

ดอลลาร์เริ่มฟื้นตัวเล็กน้อยหลังร่วงหนักเมื่อวันศุกร์จากรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่บ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานสหรัฐอ่อนแรงลงอย่างชัดเจนในเดือนสิงหาคม โดยการจ้างงานใหม่ชะลอตัวแรง และอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ 4.3% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี ทำให้นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่ถึง 0.50% ในเดือนกันยายน โดย CME FedWatch ระบุว่าตลาดให้น้ำหนัก 8% ต่อความเป็นไปได้นี้ จากเดิมที่แทบเป็นศูนย์เมื่อสัปดาห์ก่อน

สเตอริงลดลง 0.11% มาที่ 1.3492 ดอลลาร์ หลังจากแข็งค่ากว่า 0.5% ในวันศุกร์ ขณะที่ยูโรอ่อนลง 0.11% มาที่ 1.1709 ดอลลาร์ หลังแตะระดับสูงสุดในรอบกว่าหนึ่งเดือน ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวที่ 97.87 หลังร่วงกว่า 0.5% เมื่อวันศุกร์

นักเศรษฐศาสตร์จาก Barclays ระบุ ในบันทึกว่าจากความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในตลาดแรงงาน เรามองว่าการลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนถือว่าเกือบจะแน่นอนแล้ว โดยคาดว่าจะลดลง 0.25% อย่างไรก็ตาม เราได้ปรับคาดการณ์โดยเพิ่มการลดอีก 0.25% ในเดือนตุลาคม และคงการลดอีกครั้งในเดือนธันวาคม รวมแล้วเฟดน่าจะลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้

ด้านสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เรียกร้องให้มีการตรวจสอบอำนาจของเฟดอีกครั้ง รวมถึงการกำหนดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่รัฐบาลทรัมป์พยายามเพิ่มอิทธิพลต่อธนาคารกลางมากขึ้น โดยประธานาธิบดีทรัมป์กำลังพิจารณาผู้สมัคร 3 คนเพื่อแทนที่เจอโรม พาวเวลล์ ซึ่งถูกวิจารณ์มาตลอดทั้งปีว่าลดดอกเบี้ยช้าเกินไป

ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าเล็กน้อย 0.05% มาที่ 0.6558 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนลงเล็กน้อย 0.03% มาที่ 0.5891 ดอลลาร์สหรัฐ

อ้างอิง : www.reuters.com

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...