โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

"เมย์แบงก์" ประเดิมกำไรบล. Q2/68 วูบ 44 % ที่ 2.19 ลบ. เหตุรายได้วอลุ่ม -ค่าธรรมเนียมลด

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 18 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นายอารภัฏ สังขรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) หรือ MST รายงานผลการดําเนินงานสําหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568 โดยบริษัทมีกำไรสุทธิ 2.19 ล้านบาท ลดลง 44.64 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 95.33 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 46.82 ล้านบาท

สาเหตุการเปลี่ยนแปลงในส่วนที่มีสาระสําคัญดังนี้ 1. รายได้ค่านายหน้าลดลง 32.98 ล้านบาท จาก 237.65 ล้านบาท เหลือ 204.67 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 13.88 เนื่องจาก 1.1 รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 24.21 ล้านบาท จาก 196.66 ล้านบาท เหลือ 172.45 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 12.31 อันเป็นผลจากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ลดลงจาก 44,708.45 ล้านบาท/วัน เหลือ 40,799.84 ล้านบาท/วัน หรือลดลงร้อยละ 8.74 และสัดส่วนนักลงทุนบุคคลซึ่งเป็นส่วน

รายได้หลักของบริษัทลดลงจากร้อยละ 52.57 เหลือร้อยละ 49.80 อันเป็นผลให้มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของนักลงทุนบุคคลของบริษัทลดลงจาก 995.61 ล้านบาท/วัน เหลือ 887.15 ล้านบาท/วัน หรือลดลงร้อยละ 10.89 1.2 รายได้ค้านายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าลดลง 8.77 ล้านบาท จาก 40.99 ล้านบาท เป็น 32.22 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 21.40

2. รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการลดลง 21.63 ล้านบาท จาก 40.96 ล้านบาท เป็น 19.33 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 52.81 เนื่องมาจากค่าที่ปรึกษาทางการเงินลดลง 16.01 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมการยืมและให้ยืมหลักทรัพยลดลง 4.44 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมจากการจัดจําหน่ายหลักทรัพย์ลดลง 3.05 ล้านบาท และค่าธรรมเนียมอื่นลดลง 2.02 ล้านบาท ในขณะที่ค่าธรรมเนียมจากการขายและการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนเพิ่มขึ้น 3.89 ล้านบาท

3. รายได้ดอกเบี้ยลดลง 43.41 ล้านบาท จาก 268.58 ล้านบาท เป็น 225.17 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 16.16 เนื่องมาจากรายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์ลดลง 26.58 ล้านบาท และรายได้ดอกเบี้ยจากเงินฝากในสถาบันการเงิน และพันธบัตรรัฐบาลลดลง 16.44 ล้านบาท

4. รายได้อื่นลดลง 6.15 ล้านบาท จาก 42.05 ล้านบาท เป็น 35.90 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 14.63 เนื่องมาจากรายได้อื่นลดลง 12.36 ล้านบาท ในขณะที่กําไรและผลตอบแทนจากเครื่องมือทางการเงินเพิ่มขึ้น 6.21 ล้านบาท

5. ค่าใช้จ่ายรวมลดลง 50.25 ล้านบาท จาก 530.61 ล้านบาท เป็น 480.35 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 9.47 เนื่องมาจากค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงานลดลง 14.44 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมและบริการจ่ายลดลง 1.61 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง 19.88 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่นลดลง 17.04 ล้านบาท ขณะที่ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้น 2.71 ล้านบาท

6. ภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลง 9.28 ล้านบาท จาก 11.81 ล้านบาท เหลือ 2.52 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 78.61 เนื่องมาจากการลดลงของกําไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น ห่วงเจรจาจีน-สหรัฐ จับตาประชุมเฟด

57 นาทีที่แล้ว

ฟังชัดๆ ทัศนะ'ว่าที่ทูตสหรัฐ'ต่อความขัดแย้งกัมพูชา-ไทย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘คลัง’ ลั่นยึดความมั่นคงคู่เศรษฐกิจ ลุยเจรจาต่อ มั่นใจภาษีทรัมป์ไม่ถึง36%

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

'จาง เจี้ยนเว่ย' ทูตจีนคนใหม่เดินทางถึงไทย พร้อมรับตำแหน่ง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

ปันผล 8 บาทจริงหรือ!

หุ้นวิชั่น

Treasurist Fund Traffic Control ประจำสัปดาห์ที่ 29 ก.ค. - 1 ส.ค. 68

เทรเชอริสต์

3 อันดับกลุ่มกองทุนที่ดัชนีเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นสูงสุด และ ลดลงมากที่สุด ใน 1 สัปดาห์ ( ศุกร์ที่ 18 ก.ค. 68 เทียบกับ ศุกร์ที่ 11 ก.ค. 68 ) จากข้อมูลดัชนีกองทุนเทรเชอริสต์ ( Treasurist Fund Index Series

เทรเชอริสต์

ดัชนีกองทุนเทรเชอริสต์ รายสัปดาห์ ( ข้อมูล ณ ศุกร์ที่ 18 ก.ค. 68 เทียบกับ ศุกร์ที่ 11 ก.ค. 68 )

เทรเชอริสต์

Treasurist Fund Traffic Control (แนวโน้มลงทุนรอบโลก & กองทุนน่าสนใจ) ช่วยให้คุณวางแผนการลงทุนประจำสัปดาห์ที่ 21 - 25 ก.ค. 68

เทรเชอริสต์

กฎหมาย 3 ฉบับกับรถไฟ 20 บาท

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น ห่วงเจรจาจีน-สหรัฐ จับตาประชุมเฟด

กรุงเทพธุรกิจ

ไม่ยึดติด

ข่าวหุ้นธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...