"หญิงออน" เล่าไทม์ไลน์ "คู่กรณี" เคยสาดป๊อปคอร์นใส่ เพราะหึง "หนุ่มโฮสต์"
ออกมาชี้แจงอีกครั้ง สำหรับ "หญิงออน ดวงพร ไชยารุ่งยศ" ภรรยา "ตั้ม วิชญะ จารุจินดา" ลูกชาย "ดวงดาว จารุจินดา" หลังมี (คลิป) ปะทะกับ "สาวประเภทสอง" ปารองเท้าใส่ ก่อนทิ้งวลีแซ่บ.. "มึxรู้ไหมกูเป็นใคร?"
โดย "หญิงออน" โพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก Yingaon Duangporn Chaiyarungyos ระบุว่า.. "คำชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนอื่น ออนต้องขอโทษทุกท่านอย่างจริงใจ 🙏 ออนและเพื่อนรู้สึกผิดและรู้สึกเสียใจ
สำหรับพฤติกรรมและถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์นี้ ซึ่งเกิดจากความตึงเครียดเฉพาะหน้าและอารมณ์ชั่ววูบ ออนเองและเพื่อนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับสิ่งที่เกิดขึ้น และขอรับผิดชอบต่อคำพูดที่อาจสร้างความไม่สบายใจให้กับพี่น้องชาว LGBTQ+
โดยเฉพาะคำพูดที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเพื่อนออนใช้คำเรียกคู่กรณีที่มาดักรอว่า (อีกะเทย) แม้จะเกิดจากอารมณ์โมโหที่ถูกต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรงก่อนก็ตาม แต่ออนเข้าใจดีว่า คำบางคำมีนัยเหยียดเพศอย่างชัดเจน ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้นในทุกกรณี
ออนขออภัยแทนเพื่อนของออน และขอยืนยันว่าพวกเราไม่ได้มีเจตนาเหยียดเพศแต่อย่างใด เพราะตลอดชีวิตการทำงานและสังคมของออนเอง มีพี่น้องและเพื่อนในกลุ่ม LGBTQ+ จำนวนมาก ที่ออนให้ความเคารพรักอย่างจริงใจ ออนและเพื่อนรู้สึกผิดและรู้สึกเสียใจ ออนต้องขอโทษแทนเพื่อนของออนอีกครั้งด้วยนะคะ ที่ได้ใช้คำเรียกแบบนั้นไป
เหตุเพราะเพื่อนออนโมโหที่ถูกคู่กรณีต่อว่า เช่น ( อีกะหรี่ อีแก่ อีคลองถม อีเตี้ย อีหมา ) และอีกหลายคำที่ไม่สุภาพ ซึ่งออนคิดว่าในความรุ้สึกของเพื่อนออน เขาก็คงฟิวส์ขาดตรงที่มาด่าเพศแม่อย่างเรา ว่าเป็นกะหรี่ ซึ่งเพื่อนออนใช้ว่าเขาเป็นส่วนตัวบุคคล ไม่ได้มีเจตนาที่จะเหยียดเพศค่ะ (ย้ำนะคะ! ออนไม่ได้เป็นคนพูด)
และออนขอเล่าอันดับเหตุการณ์ ข้อเท็จจริงทั้งหมด ให้ทุกคนทราบ ตามนี้ค่ะ
1. เมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน ออนกับเพื่อนที่อบรมคอร์ส เกี่ยวกับธุรกิจ ได้ไปสังสรรค์ที่ร้าน รูท66 ในถนน rca ออนกับเพื่อนๆก็สังสรรค์กันตามปกติ แต่อยู่อยู่ ก็มีคนสาดป๊อปคอร์นมาใส่ โดนออนจังจัง จากกลุ่มคู่กรณี โดยไม่ทราบสาเหตุ ออนจึงเเจ้งให้พนักงานของทางร้านทราบ เเละต่อมาทางการ์ดของร้านได้เชิญกลุ่มคู่กรณีออกจากร้าน
หลังจากนั้นตอนร้านใกล้ปิด ออนเเละเพื่อนกำลังจะกลับบ้าน พอออกจากร้านก็พบกลุ่มคู่กรณีประมาณ2-3คน ส่วนที่เหลือกลุ่มใหญ่คาดว่าน่าจะเเยกย้ายกันไปหมดเเล้ว กลุ่มคู่กรณีที่ยังไม่กลับ พวกเขาได้มาสอบถามเหตุการณ์กับออนว่าเกิดอะไรขึ้น ออนก็ตอบพวกเค้าว่า มีคนในกลุ่มพวกเค้าสาดป๊อปคอร์นมาใส่ออน
ปรากฏว่าในกลุ่มคู่กรณีก็ได้พูดขึ้นว่า "แบบนี้แหละคะ เพื่อนฉันขี้หึง ขนาดเพื่อนด้วยกันเอง เขายังหึงหวงเลย" ซึ่งออน งง มาก ว่าหึงอะไร หึงใคร??? (ซึ่งออนได้มารู้ทีหลังว่า มีการอ้างถึงในโพสต์ ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นโฮสและเป็นแฟนเก่าของเพื่อนเขา ซึ่งผู้ชายคนนั้นเป็นผู้ชายที่เคยคุยๆกับเพื่อนของออน ซึ่งออนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับผู้ชายคนนั้นเลย เป็นแค่คนรู้จัก) เพราะวันนั้นออนมาคนเดียว ส่วนเพื่อนที่อยู่โต๊ะเดียวกัน ก็จะมีเพื่อนของเพื่อนมา ร่วมโต๊ะด้วย ซึ่งออนเองก็ ไม่ได้รู้จักทั้งหมด บางคนก็เพิ่งรู้จักวันนั้น หลังจากเหตุการณ์วันนั้น ที่ rca ก็ไม่เคยได้เจอกลุ่มคู่กรณีอีกเลย
2. เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 ขณะออนอยู่ที่ร้าน muin ได้บังเอิญเจอกับกลุ่มคู่กรณีกลุ่มใหญ่โดยความบังเอิญ กลุ่มคู่กรณีเริ่มมีการใช้ถ้อยคำไม่เหมาะสมกับออนและเพื่อน เช่น "อีนี่มาอีกละ" จนนำไปสู่เหตุการณ์โต้เถียงและปะทะกัน ซึ่งปรากฎในคลิปที่เผยแพร่ออกไป ช่วงที่กำลังมีปากเสียงกัน ออนก็ได้ถามกลุ่มคู่กรณี ถึงเหตุการณ์คราวก่อนที่ rca ว่าปาป๊อปคอร์นมาใส่ออนทำไม เเต่ทางนั้นก็พยามจะเข้ามาทำร้ายร่างกาย แต่การ์ดของร้านได้เข้าห้ามไว้ทัน และทางร้านก็ได้เชิญให้พวกเขาออกไปจากร้าน ออนก็คิดว่าคงไม่มีอะไรเเล้ว เเละอยู่สังสรรค์กับเพื่อนต่อจนร้านปิด
3. เมื่อออนและเพื่อนกำลังจะกลับบ้าน ซึ่งต้องลงมา ที่ชั้น1 เพื่อไปขึ้นรถ กลุ่มคู่กรณีได้มาดักรอและมีการปารองเท้า พร้อมทั้งตะโกนถึงเหตุการณ์ป๊อปคอร์นว่า กุเป็นคนปาป๊อปคอร์นเองเเหละ มึงจะทำไม เลยมีการโต้เถียงกัน เเละคู่กรณี ก็ถามมาซ้ำๆว่า “มึงรู้มั้ยกูลูกใคร มึงรู้มั้ยกูเป็นใคร มามีเรื่องกะกู” ออนเลยสวนกลับไปว่า 'มึงไม่รู้ว่ามึงเป็นใคร แล้วมึงรู้มั้ยกูเป็นใคร' และออนก็ถามเค้าไปว่า เราไม่รู้จักกัน เเล้วมึงปาป๊อปคอร์นใส่กูทำไม
ซึ่งทางฝั่งโน้นเขาถามออนมาก่อนว่า “รู้มั้ยว่ากูเป็นใคร” ในความหมายของออน หมายความว่า ออนกับเขาไม่รู้จักเขากันเลย ทำไมต้องมีเรื่องกัน และช่วงชุลมุนออนโดนของแข็งกระแทกที่ศีรษะ (ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นอะไร) หลังจากนั้นพวกเขาก็หนีกลับบ้านไป ซึ่งออนได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดไว้แล้ว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
4. การโพสต์ข่มขู่และหมิ่นประมาทผ่านโซเชียลมีเดีย
หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดยุติลงในคืนนั้น ออนคิดว่าเรื่องคงจะจบเพียงเท่านั้น แต่ต่อมา ปรากฎว่ามีบุคคลในกลุ่มคู่กรณี ได้โพสต์ข้อความในเชิง ยุยง ปลุกปั่น เรื่องเพศ เยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยาม และข่มขู่คุกคาม ลงในโซเชียลมีเดีย หลายช่องทาง ด้วยถ้อยคำรุนแรง
- กล่าวหาว่าออนเป็น “กะหรี่เกรด 1,500 เหมาทั้งคืน”
- บูลลี่รูปลักษณ์และอายุ เช่น “อีแก่ สภาพคลองถม อายุเกือบ 40 สมองเด็กอมนิ้ว”
- ข่มขู่ให้ทำร้ายร่างกายโดยเปิดพิกัดสถานที่ พร้อมข้อความชักชวนว่าจ้าง “ใครเจออีกสองตัวนี้ที่ไหน ฝากกระทืบที มีรางวัลให้ (อันนี้จริงจัง)”
- เยาะเย้ยให้อับอาย “ตุ้บไปที่หน้า 1ที่ สะใจ”
- ยุยงปลุกปั่น ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในเจตนาเรา แล้วส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์หรือความปลอดภัยของออน
รวมถึงมีการโพสต์ข้อความซ้ำๆ หลายรอบ เป็นการโฆษณาหมิ่นประมาทในวงกว้าง ซึ่งก่อให้เกิดความอับอาย เสื่อมเสียชื่อเสียง และทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตและร่างกาย ณ เวลานี้ ออนได้รวบรวมหลักฐานแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง
- ข้อหาทำร้ายร่างกาย
- ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
และข้อหาอื่นๆ และหากพยานหลักฐานอื่นพบว่า มีบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง ออนขอใช้สิทธิในการดำเนินคดีต่อไป ออนขอยืนยันว่า จะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุดเพื่อปกป้องสิทธิและะชื่อเสียง และไม่สนับสนุนความรุนแรงหรือการใช้คำพูดเหยียดเพศ เหยียดเพศสภาพ หรือดูหมิ่นรูปลักษณ์ของใครทั้งสิ้น
สุดท้ายนี้ ออนต้องขออภัยทุกท่านอีกครั้ง🙏🏻 และขอขอบคุณทุกกำลังใจจากคนที่เข้าใจสถานการณ์ค่ะ และคนที่ออนอยากขอโทษมากที่สุด คือคุณแม่ดวงดาว จารุจินดา และพี่ตั้ม ที่ต้องถูกพาดพิงเกี่ยวกับเรื่องของออนด้วยค่ะ🙏🏻 ด้วยความเคารพ หญิงออน"