กาญจนบุรี ชาวบ้านสาละวะร่วมกันสร้างกุฎิพระสงฆ์ พัฒนาพื้นที่รอบๆวัดเนื่องในวันเข้าพรรษา
กาญจนบุรี ชาวบ้านสาละวะ ร่วมกันสร้างกุฎิพระสงฆ์ พัฒนาพื้นที่รอบๆวัดเนื่องในวันเข้าพรรษา
วันที่ 15 กรกฏาคม 2568 ที่สำนักสงฆ์สาละวะ หมู่ที่ 4 ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร นายคมสันต์ พิทักษ์ชาติคีรี กำนัน ตำบลไล่โว่ พร้อมด้วยพระสงฆ์ สามเณร ชาวบ้านชาย หญิง เด็กๆ ครู ทหารชุดประสานงานโครงการในพระราชดำริฯ และกลุ่มจิตรอาสาสังขละบุรี ร่วมกันสร้างกุฎิที่พักสงฆ์ (เทคอนกรีต เสาและพื้น)
ซึ่งก่อนหน้านี้พระสงฆ์ สามเณร และชาวบ้านได้ช่วยกันขุดหลุม เทเสาตอม่อ ผูกเหล็ก และตีแบบรอ ซึ่งกุฎิที่สร้างมีทั้งหมดจำนวน3หลัง มีขนาดกะทัดรัด 3.5*3.5 เมตร โดยภายในแบ่งพื้นที่เป็นที่พักและห้องน้ำในตัว เนื่องจากเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนที่นี่จะมีฝนตกชุก ซึ่งหากพระสงฆ์ต้องเข้าห้องน้ำไกล จะทำให้เปียกและอาจลื่นล้มได้
สำนักสงฆ์สาละวะเริ่มก่อสร้างเมื่อปี2566 โดยความร่วมมือของชาวบ้านในหมู่บ้านสาละวะและพุทธศาสนิกชนจากหมู่บ้านต่างๆในพื้นที่อำเภอสังขละบุรีและใกล้เคียง ส่วนกันสละทุนทรัพย์ในการก่อสร้างในรูปแบบของการทอดผ้าป่า เพื่อให้เป็นที่ศูนย์รวมจิตใจและเป็นที่ประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนา ปัจจุบันมีพระศักดิ์ ฐิตธฺมโม เป็นผู้ดูแล มีพระชาวเมียนมา และสามเณร ซึ่งเป็นลูกหลาน ของชาวบ้าน จำพรรษาที่สำนักสงฆ์แห่งนี้
ในการก่อสร้างกุฎิสงฆ์ทั้ง3หลัง มีพุทธศาสนิกชน ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรีและพื้นที่ใกล้เคียง ร่วมทำปูน หิน เหล็ก ทราย ปูน และอื่นๆ โดยมีกลุ่มจิตอาสาสังขละบุรีและชาวบ้าน ร่วมกันขนส่งวัสดุด้วยรถยนต์ขับเคลื่อน4ล้อ จากตัวอำเภอสังขละบุรี มายังหมู่บ้านซึ่งมีระยะทางกว่า30 กม บนเส้นทางที่เป็นภูเขาสูงชัน ใช้เวลากว่า 1.30 ชั่วโมงในการเดินทาง
นอกจากการช่วยกันสร้างกฎิที่พักสงฆ์แล้ว ในวันนี้ชาวบ้านยังแบ่งกันช่วยตัดกอไผ่ที่ล้มขวางทางเข้าหมู่บ้าน การทำความสะอาดพื้นที่รอบๆสำนักสงฆ์ การประกอบอาหารคาว หวาน (ก๋วยเตี๋ยวและแกงบวชมันญี่ปุ่น)เพื่อถวายเพลพระสงฆ์ สามเณร และให้ผู้ที่มาร่วมกันทำงานวันนี้ได้อิ่มท้องกัน
นายพุทธชัย ช่วยบำรุงวงศ์ ชาวบ้าน(ครู)เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้นำชุมชนกับชาวบ้าน ที่นี่จะใช้โอกาสในวัดพระและวันสำคัญทางศาสนา ร่วมกันพัฒนาสถานที่สำคัญในหมู่บ้าน เช่น วัด โรงเรียน สุขศาลาพระราชทาน ถนนเข้าหมู่บ้าน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ ทำให้ทุกคนได้พปปะพูดคุย ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ ระหว่างผู้นำชุมชน ข้าราชการที่เข้ามาทำงานในพื้นที่กับชาวบ้าน ทำให้เกิดความเข้าใจที่ดีต่อกัน เกิดความสมัครสมานสามัคคีในหมู่บ้าน เป็นแบบอย่างที่ดีให้เยาวชนได้พบเห็น ส่วนเด็กๆที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้มีโอกาสเรียนรู้และเก็บประสาบการณ์ เพื่อนำไปใช้ในการดูแลครอบครัวและชุมชนต่อไปในอนาคต
บ้านสาละวะเป็นชุมชนกะเหรี่ยงโผล่ว ในตำบลไล่โว่ ที่ยังดำเนินชีวิตตามแบบบุรุษชาวกะเหรี่ยง ประกอบอาชีพด้านการเกษตร การทำไร่ข้าว และนา ปลูกข้าวไว้กินภายในครัวเรือน และทำสวนผสมผสานปลูก กล้วย หมาก มะพร้าว ผลไม้ กาแฟ บุก ขมิ้น พลู ไว้กินและขายเป็นรายได้ ปัจจุบันมีประชากรทั้งหมด 657คน จาก 136 ครอบครัว