สะเทือน "เจ๊หงส์" ปลอมเป็นหญิง แอบถ่ายคลิปลับชายนับพัน ขายว่อน
เกิดคดีช็อกสังคมจีน เมื่อชายวัย 38 ปี ใช้นามแฝง "Sister Hong" หรือที่ชาวไทยเรียกติดปากว่า "เจ๊หงส์" ถูกเปิดโปงว่าปลอมตัวเป็นผู้หญิง ทั้งแต่งหน้า ใส่วิก ฝึกเสียง จนหลอกผู้ชายได้มากกว่า 1,600 คน ให้มีความสัมพันธ์ทางเพศ ก่อนแอบบันทึกภาพและคลิปขายในโลกออนไลน์
โดยเพจ "อิป้าบ้าซีรีส์" โพสต์สรุปไว้ว่า คดี “Sister Hong” - ปลอมเป็นผู้หญิงหลอกชาย 1,691 คน แอบถ่ายคลิปขาย ทำสังคมจีนช็อกทั้งประเทศ
1. “เจ๊หงส์” ชื่อที่คนไทยใช้เรียก เป็นชายชาวจีนวัย 38 ปี ใช้นามแฝงว่า Sister Hong ใช้ชีวิตแบบผู้หญิงทุกวัน ทั้งแต่งหน้า ใส่วิก ใส่อุปกรณ์เสริมสรีระ และฝึกเสียงให้เหมือน ดูภายนอกเหมือนหญิงใจดี สุภาพ ทำให้คนรอบข้างไม่สงสัย
2. วิธีการเข้าถึงเหยื่อ ใช้แอปหาคู่ สร้างโปรไฟล์ว่าเป็นผู้หญิงโสดที่อยากเริ่มต้นใหม่ เชิญเหยื่อไปที่พัก โดยไม่เรียกเงิน แต่ขอให้พกของใช้ เช่น ผลไม้ กล่องนม ฯลฯ มีกฎว่า “ห้ามมามือเปล่า” ไม่อย่างนั้นจะไม่ให้เข้าห้อง แม้บางคนเริ่มสงสัย แต่กลับมองข้ามเพราะอยู่ในสถานการณ์ที่มีความใกล้ชิด
3. จุดเปลี่ยนที่ทำให้คดีแดง มีการบันทึกภาพในที่พักโดยไม่ได้รับอนุญาต ภาพบางส่วนถูกนำไปเผยแพร่ในเว็บไซต์เฉพาะกลุ่มและแอปแชท แต่ละคลิปแสดงใบหน้าและเหตุการณ์อย่างชัดเจน บางคลิปยาวหลายนาที ยอดเข้าชมรวมสูงมาก จนกลายเป็นเรื่องใหญ่ในโซเชียลจีน
4. ลักษณะของเหยื่อ มีทั้งนักศึกษา เทรนเนอร์ พนักงานออฟฟิศ คนที่มีคู่รักแล้ว ไปจนถึงชาวต่างชาติ บางรายทราบความจริงจากข่าว บางรายถูกคนใกล้ชิดจำหน้าได้จากคลิป เหยื่อไม่ได้มีเจตนาร่วมเผยแพร่ และบางคนเสียหายร้ายแรงในชีวิตจริง
5. สิ่งที่ตามมาหลังเป็นข่าว มีผู้ชายหลายคนโพสต์ปฏิเสธว่าตนไม่เกี่ยวข้อง หรือถูกแอบอ้าง บางรายยอมรับว่ามีความสัมพันธ์จริง แต่ไม่ทราบข้อเท็จจริงอีกฝ่าย เกิดการสร้างบัญชีปลอมเลียนแบบเหยื่อ เพื่อหวังยอดคนดู หลายคนต้องปิดบัญชีหรือหลบออกจากโลกออนไลน์ เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินคดีในข้อหา "หลอกลวง" และ "เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวโดยไม่ได้รับอนุญาต"
6. ประเด็นเรื่อง “กล้องแอบถ่าย” และอาชญากรรมดิจิทัล ปัจจุบันกล้องแอบถ่ายมีขนาดเล็กลง ซ่อนในอุปกรณ์ได้ง่าย ในจีนมีรายงานการพบคลิปหลุดจำนวนมากจากโรงแรม ร้านนวด หรือห้องน้ำ เกาหลีใต้เคยประสบปัญหาในลักษณะเดียวกันจนเรียกกันว่า “เหตุระบาดของกล้องแอบถ่าย”
7. มุมที่สังคมกำลังตั้งคำถาม เหยื่อผู้ชายก็เป็นเหยื่อ เหยื่อส่วนใหญ่ในคดีนี้คือผู้ชาย แต่บางคนกลับไม่เห็นใจ มีการกล่าวหาว่า “ไม่เสียหาย” ทั้งที่หลายคนเสียชื่อเสียงและสภาพจิตใจ สถิติจากต่างประเทศพบว่า ผู้ชายเองก็เป็นเหยื่อการล่วงละเมิดได้เช่นกัน แต่ไม่กล้าพูด เพราะกลัวถูกมองว่าอ่อนแอ
8. เสียงเรียกร้องจากสังคม ขอให้แก้ไขทัศนคติว่าเหยื่อสามารถเป็นได้ทุกเพศ เสนอให้มีกฎหมายที่รองรับการคุ้มครองเหยื่อโดยไม่จำกัดเพศ แนะนำให้เพิ่มสายด่วนช่วยเหลือและศูนย์ปรึกษาที่เป็นกลาง และบังคับใช้กฎหมายการครอบครอง-เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวอย่างเข้มข้น
หมายเหตุ: โพสต์นี้จัดทำขึ้นเพื่อสรุปข่าวจากแหล่งต่างประเทศในเชิงให้ความรู้และวิเคราะห์สังคม ไม่ได้มีเจตนาเหยียดเพศหรือซ้ำเติมผู้ใด เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเพียงกรณีศึกษาที่สะท้อนถึงปัญหาทางเทคโนโลยี สิทธิส่วนบุคคล และความเข้าใจเรื่องเพศในสังคม
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก อิป้าบ้าซีรีส์