ปิดดีล เอ็มเบอโม่, ขายทิ้งแข้งไม่ต้องการ! 5 สิ่งที่ แมนยู ต้องจัดการช่วงปรีซีซั่น
สำหรับตอนนี้ รูเบน อโมริม กุนซือชาวโปรตุกีส จะต้องเร่งทำงานอย่างหนักร่วมกับนักเตะตัวหลักของเขา เพื่อกอบกู้สถานการณ์หลังจากซีซั่นที่สุดแสนอนาถเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา พร้อมกับได้แข้งใหม่ที่ต้องการนั่นก็คือ มาเตอุส คุนญ่า แนวรุกชาวบราซิเลียน
คุนญ่า ย้ายจาก วูล์ฟส์ มาเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ด้วยค่าตัว 62.5 ล้านปอนด์ (ราว 2,750 ล้านบาท) ขณะที่ ดีเอโก้ เลออน กลายเป็นการเสริมทัพรายที่สองของ "เร้ด เดวิลส์" ในช่วงซัมเมอร์นี้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าการเสริมทัพจะยังไม่จบเพียงเท่านี้
อโมริม ยังต้องการผู้เล่นตำแหน่งปีก และกองหน้า มาเสริมทัพ โดยพวกเขามีลิสต์รายชื่อนักเตะที่ต้องการแล้ว แต่การปิดดีลเหล่านี้จะสำเร็จเมื่อไหร่ แฟนผีโปรเจกต์ยังต้องลุ้นกันต่อไป
ตอนนี้เหลือไม่ถึงสองสัปดาห์ก่อนที่ แมนยูไนเต็ด ต้องลงเล่นเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นพบ ลีดส์ ยูไนเต็ด ดังนั้น อโมริม จะต้องรีบเร่งเดินหน้าเตรียมทีมโดยเร็ว ดังนั้นต้องมาดูกันว่ามีประเด็นสำคัญเร่งด่วนอะไรบ้างที่ กุนซือมาดพี่เจ๋ง จำเป็นต้องจัดการ
1. ปิดดีล ไบรอัน เอ็มเบอโม่
สตาร์แนวรุกเบรนท์ฟอร์ด เป็นเป้าหมายที่ แมนยูไนเต็ด อยากได้มาร่วมทีมอย่างมาก ขณะที่นักเตะก็กระสันอยากย้ายมาเล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่จนแล้วจนรอดการเจรจาก็ยังไม่จบสิ้นซะที
แม้จะมีสัญญาณบ่งบอกอย่างชัดเจนว่า แมนยู จะสามารถปิดดีลนี้ได้ในเร็ววันนี้ แต่พวกเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งอย่าง สเปอร์ส ที่ต้องการ เอ็มเบอโม่ เช่นกัน แม้นักเตะยืนกรานว่าจะย้ายไปสวมเครื่องแบบ "ผีแดง" เท่านั้น
พวกเขาเคยยื่นข้อเสนอไปแล้ว 2 ครั้งแต่โดย เบรนท์ฟอร์ด ปฏิเสธเรียบวุธ และตอนนี้ก็พยายามที่จะยื่นข้อเสนอครั้งที่สามพร้อมตัวเลขประมาณ 65 ล้านปอนด์ (ราว 2,860 ล้านบาท) และหากทุกอย่างเป็นไปตามแผน แมนยูไนเต็ด ก็น่าจะปิดดีลได้ในเร็วๆ นี้
2. ขายนักเตะที่ไม่ต้องการให้สำเร็จ
หาก แมนยู ปิดดีล เอ็มเบอโม่ ได้สำเร็จนั่นจะทำให้พวกเขาใช้เงินในช่วงซัมเมอร์นี้ไปประมาณ 130 ล้านปอนด์ (ราว 5,720 ล้านบาท) นั่นหมายความว่าพวกเขาจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องขายนักเตะบางรายเพื่อนำรายได้มาชดเชยค่าใช้จ่ายดังกล่าว และในขณะนี้ก็มีนักเตะหลายคนที่มีโอกาสจะถูกปล่อยออกจากทีมอยู่แล้ว
เจดอน ซานโช่, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อันโตนี่ ซึ่งถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา อยู่ในลิสต์รายชื่อที่จะต้องขายทิ้งในช่วงซัมเมอร์นี้ ดังนั้น อโมริม หวังว่าจะสามารถปล่อยสามแข้งนี้ออกไปได้พร้อมกับได้รับค่าตัวในราคาที่เหมาะสม
นอกจากนี้ยังมีแข้งอีกหลายรายที่จะย้ายทีม อาทิเช่น อันเดร โอนาน่า ผู้รักษาประตู อาจถูกปล่อยยืมตัว ขณะที่ ไทเรลล์ มาลาเซีย แบ็กซ้าย ก็ไม่น่าจะมีอนาคตกับสโมสร หลังจากที่ใช้เวลาทั้งฤดูกาลไปเล่นกับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น แบบยืมตัว
ในรายของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ น่าจะโดนขายทิ้งให้กับ เชลซี หรือ นาโปลี โดย อโมริม ต้องการให้อนาคตของนักเตะเหล่านี้ได้ข้อสรุปก่อนที่ทีมจะออกเดินทางไปทัวร์ปรีซีซั่น อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อาจไม่ใช่เรื่องง่ายในการจัดการให้เสร็จสิ้นทันเวลา
3. การตัดสินใจเรื่องนายทวารมือ 1
ดูเหมือนว่าอนาคตของ โอนาน่า ยังไม่มีความแน่นอน หลังมีรายงานอย่างต่อเนื่องว่าจะโดนปล่อยตัวในช่วงซัมเมอร์นี้ หลังเจ้าตัวไม่สามารถสร้างผลงานที่คงเส้นคงวานับตั้งแต่ย้ายมาจาก อินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัว 47 ล้านปอนด์ (ราว 2,068 ล้านบาท เมื่อปี 2023
ช่วงที่ผ่านมา แมนยูไนเต็ด พร้อมปล่อย โอนาน่า ไปเล่ยแบบยืมตัวโดย โมนาโก แสดงความสนใจอยากใช้บริการ ในขณะเดียวกับพวกเขาก็มีข่าวกับ เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ โกลจอมหนึบจาก แอสตัน วิลล่า และ จอห์น วิคเตอร์ นายด่านโบตาโฟโก้
อโมริม ต้องรีบตัดสินใจเรื่องผู้รักษาประตูมือ 1 ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ถ้าเขาเลือกที่จะปล่อย โกลชาวแคเมอรูน ออกไป ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาคนมาแทนที่ แต่ถ้าหากเลือกเสี่ยงใช้งานต่อไป กุนซือชาวโปรตุกีส ต้องแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเขาคือเชื่อมั่นและไว้วางใจในตัว โอนาน่า
4. ชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์กองหน้า
นอกจากเรื่องที่ อโมริม ต้องตัดสินใจเกี่ยวกับตำแหน่งผู้รักษาประตู แล้วเขายังต้องตัดสินใจเรื่องตำแหน่งหน้าเป้าด้วย โดย คุนญ่า และ เอ็มเบอโม่ (ถ้าหากย้ายมาร่วมทีมสำเร็จ) ถือเป็นการเสริมทัพที่ยอดเยี่ยมในแนวรุกของแมนยู แต่ทว่าอาจยังไม่ใช่ตัวหลักที่จะยืนหน้าเป้าในซีซั่นนี้
สำหรับตำแหน่งหน้าเป้าถือเป็นเป้าหมายหลักที่ แมนยูไนเต็ด ต้องการมานานแล้ว โดย วิคตอร์ โยเคเรส เคยมีข่าวพัวพันกับ "ผีแดง" มาตลอด แต่ตอนนี้ดูเหมือนนักเตะอยากย้ายไปเป็นสมาชิกใหม่ของ อาร์เซน่อล มากกว่า
การหากองหน้าที่เด็ดขาดและเฉียบคมเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างยากลำบากสำหรับ แมนยู เนื่องจากพวกเขาไม่มีงบประมาณในการหาดาวยิงคนใหม่ ซึ่งอาจทำให้ อโมริม จำเป็นต้องฝากความหวังเอาไว้กับ ราสมุส ฮอยลุนด์ ต่อไป
5. ส่งดาวรุ่งไปพัฒนาฝีเท้ากับทีมอื่น
ช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา แมนยูไนเต็ด สร้างผลงานไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาทำได้ดีเยี่ยมนั่นก็คือการให้โอกาสนักเตะดาวรุ่งได้ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ โดยแข้งอย่าง ค็อบบี้ เมนู และ โทบี้ คอลลีเยอร์ โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามการที่ "เร้ด เดวิลส์" ไม่มีโปรแกรมฟุตบอลถ้วยยุโรปในฤดูกาล 2025/2026 นั่นทำให้โอกาสที่ดาวรุ่งในอะคาเดมี่จะได้เฉิดฉายจึงมีน้อยมาก ดังนั้นการส่งบรรดา "ลูกกรอกคะนอง" ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์แบบยืมตัวกับสโมสรอื่นจึงเป็นแนวทางที่ดีที่สุด
นักเตะอนาคตไกลอย่าง แดน กอร์, แฮร์รี่ อามาสส์ และ อีธาน วีทลีย์ รวมทั้งแข้งดาวรุ่งอีกหลายคน มีโอกาสที่จะโดนส่งไปเล่นแบบยืมตัวเพื่อพัฒนาและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ลูกหนัง ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นประโยชน์กับตัวดาวรุ่งเหล่านี้และสโมสรด้วย
ขณะเดียวกับ อโมริม ต้องทำงานร่วมกับ จอนนี่ อีแวนส์ ซึ่งเพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ผู้จัดการฝ่ายดูแลนักเตะยืมตัว เพื่อวางแผนและตัดสินใจว่านักเตะคนไหนควรถูกส่งไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์
TOMMY TEE.