ซีพี กรุ๊ป : ข้อได้เปรียบเฉพาะของห่วงโซ่อุปทาน ‘จีน’ ส่งเสริมการพัฒนาบริษัทต่อเนื่อง
× กรุณาติดต่อทีมงานเพื่อดาวน์โหลดคลิป
ปักกิ่ง, 20 ก.ค. (ซินหัว) — เซวียเจิงอี รองประธานอาวุโสของกิจการอาหารเกษตรและสัตวบาลประจำประเทศจีน สังกัดเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี กรุ๊ป (CP Group) กล่าวว่าซีพี กรุ๊ป มีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งในงานมหกรรมห่วงโซ่อุปทานนานาชาติจีน (CISCE) ติดต่อกันเป็นปีที่สาม และได้รับประโยชน์มหาศาลจากการเข้าร่วมงานครั้งก่อน
ซีพี กรุ๊ป มีบทบาทอย่างลึกซึ้งในด้านเกษตรกรรม สัตวบาล และอาหารมาเป็นเวลากว่า 40 ปี และเป็นประจักษ์พยานถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของประชาชนชาวจีน จากการกินอิ่ม จนถึงการกินดี และมาสู่การกินเพื่อสุขภาพ
เซวียกล่าวว่าซีพี กรุ๊ป ได้ฝังรากในจีนมานานกว่า 40 ปีและได้รับประโยชน์จากความต้องการของตลาดภายในประเทศจีนที่มีอยู่อย่างมหาศาล การก่อสร้างและยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โลจิสติกส์ห่วงโซ่ความเย็นที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในจีน ก็เป็นแรงผลักดันให้กำลังการผลิตของโรงงานของซีพี กรุ๊ป เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่นโยบายและเทคโนโลยีต่างๆ ก็ช่วยกระตุ้นพลังให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันซีพี กรุ๊ป ให้บริการผลิตภัณฑ์และบริการจัดเลี้ยงครบวงจรแก่ผู้บริโภคทั่วโลก ตั้งแต่ฟาร์มไปจนถึงโต๊ะอาหาร
“โครงการห่วงโซ่อุตสาหกรรมไก่เนื้อ 50 ล้านตัว” (50 Million Broiler Industry Chain Project) ในเมืองอวี๋ซู่ ของซีพี กรุ๊ป ประสบความสำเร็จในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไก่ต่อปีมากกว่า 1 แสนตัน นับตั้งแต่ก่อตั้งในมณฑลจี๋หลินทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีนเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าผลผลิตต่อปีมากกว่า 3 พันล้านหยวน (ราว 13.53 หมื่นล้านบาท) และสร้างการจ้างงานให้ประชาชนกว่า 2,000 คน
ซีพี กรุ๊ปได้สร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมการเกษตรแบบครบวงจรตั้งแต่ฟาร์มถึงโต๊ะอาหาร แผ่ขยายสู่อำเภอและเมืองโดยรอบในฉางชุน และขับเคลื่อนทั่วทั้งจี๋หลิน ซึ่งฐานการแปรรูปทางการเกษตรเชิงลึกสมัยใหม่แห่งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากห่วงโซ่อุปทานของจีน
เซวียกล่าว่าแพลตฟอร์มจัดจำหน่ายที่สะดวกสบายและเครือข่ายโลจิสติกส์ที่กว้างขวางในจีน ทำให้ซีพี กรุ๊ป สามารถมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพดียิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภคและธุรกิจต่างๆ ได้
ปัจจุบันซีพี กรุ๊ป วางแผนขยายโครงการธุรกิจค้าปลีกในจีนอย่างครอบคลุมครบถ้วน โดยมีตั้งแต่เครือร้านอาหาร มหาวิทยาลัย โรงอาหารของบริษัท โรงแรม รวมถึงการร่วมมือกับร้านค้าปลีกหลายแห่ง เช่น แซมส์คลับ (Sam’s Club) ฟู่ตี๋ (Fudi) คอสต์โก (Costco) ซึ่งจะช่วยขยายความครอบคลุมในตลาดของผลิตภัณฑ์ของซีพี กรุ๊ป และมอบโซลูชันห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพและสะดวกสบายให้กับหุ้นส่วน
ณ พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการเกษตรสีเขียวของในมหกรรมห่วงโซ่อุปทานนานาชาติจีน แบรนด์ผลไม้ของซีพี กรุ๊ป ได้นำเสนอความร่วมมือด้านห่วงโซ่อุปทานระหว่างจีนและไทยเกี่ยวกับทุเรียน โดยซีพี กรุ๊ปได้คัดสรรทุเรียนจากสวนทุเรียนที่มีความร่วมมือและได้รับการรับรองมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP: Good Agricultural Practice) และใช้ระบบการจัดการแบบดิจิทัล ทั้งการชลประทาน การติดตามการเจริญเติบโต ความสมบูรณ์ของทุเรียนแต่ละต้น ฯลฯ
เซวียทิ้งท้ายว่างานมหกรรมฯ กลายเป็นช่องทางสำคัญในการส่งเสริมแนวคิดธุรกิจของบริษัทต่างๆ รวมถึงเป็นเวทีในการเสนอแบบจำลองเชิงปฏิบัติเพื่อยกระดับการเกษตรสมัยใหม่ พร้อมสำทับว่าซีพี กรุ๊ป หวังจะดึงดูดผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งต้นน้ำและปลายน้ำของห่วงโซ่อุตสาหกรรม ให้เข้าร่วมแพลตฟอร์มห่วงโซ่แบบเปิดที่ซีพี กรุ๊ปได้สร้างขึ้น และแสวงหาการพัฒนาร่วมกันในอนาคต