ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้!เงินบาทพลิกแข็งค่า หุ้นไทยพุ่งแรง จับตาผลเจรจาภาษีทรัมป์
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 14-18 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท มีการแกว่งตัวเป็นกรอบ แต่พลิกแข็งค่ากลับมาอีกครั้งช่วงปลายสัปดาห์ ทั้งนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์ ก่อนจะพลิกอ่อนค่าลงในเวลาต่อมา สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่ขยับแข็งค่าขึ้น หลังจากที่ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ เดือนมิถุนายน 2568 ออกมาสูงกว่าที่คาด ซึ่งทำให้ตลาดประเมินว่า เฟดอาจต้องระมัดระวังมากขึ้นในการประเมินจังหวะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะถัด ๆ ไป
นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีแรงประคองต่อเนื่อง หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมากล่าวปฏิเสธข่าวการเตรียมพิจารณาปลดนายเจอโรม พาวเวล ออกจากตำแหน่งประธานเฟด อย่างไรก็ดี เงินบาทกลับมาพลิกแข็งค่าผ่านแนว 32.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงท้ายสัปดาห์ตามการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกและการแข็งค่าของเงินหยวนและสกุลเงินเอเชียอื่น ๆ ส่วนแรงหนุนเงินดอลลาร์ฯ ยังคงชะลอลง หลังตอบรับปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด อาทิ ยอดค้าปลีกและตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ไปมากแล้ว
ขณะเดียวกัน ดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นจากสัปดาห์ก่อนท่ามกลางความหวังต่อผลการเจรจาการค้าระหว่างไทยและสหรัฐฯ ซึ่งปรับตัวขึ้นเกือบตลอดสัปดาห์ โดยดีดตัวขึ้นกว่า 80 จุดภายในสัปดาห์เดียว ท่ามกลางแรงหนุนหลัก ๆ จากความหวังว่าไทยจะบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ หลังจากทีมเจรจาไทยได้พยายามปรับข้อเสนอโดยการเปิดการค้าให้สหรัฐฯ มากขึ้น ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่าไทยน่าจะรับการปรับลดอัตราภาษีนำเข้าใหม่ในอัตราที่ใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้านที่บรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ ไปแล้วก่อนหน้านี้
โดยปัจจัยบวกข้างต้นกระตุ้นแรงซื้อหุ้นไทยทุกกลุ่ม โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่กลุ่มแบงก์บวกได้เพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนประเมินว่าผลประกอบไตรมาส 2/2568 ที่กำลังทยอยประกาศออกมานั้นอาจจะไม่ได้เติบโตมากนัก ประกอบกับมีความกังวลว่าจะเห็นการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมจากกระแสข่าวเกี่ยวกับการเสนอชื่อผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คนใหม่ ทำให้ดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นต่อเนื่องในช่วงท้ายสัปดาห์ โดยขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนที่ 1,210.01 จุด ตามแรงซื้อของกลุ่มต่างชาติ แต่นักลงทุนก็ยังคงติดตามประเด็นการเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ระหว่างวันที่ 21-25 กรกฎาคม 2568 Kbank ประเมินว่า กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.30-32.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ซึ่งปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นเกี่ยวกับการเจรจาการค้าของสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า (รวมถึงไทย) การเสนอชื่อผู้ว่าการธปท. คนถัดไปต่อ ครม. ตัวเลขการส่งออกเดือนมิถุนายน ของไทย ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ รวมไปถึงทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนกรกฎาคมของสหรัฐฯ อังกฤษ ยูโรโซนและญี่ปุ่น ท่าทีต่อทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ของประธานเฟดและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด การประกาศดอกเบี้ย LPR ของจีน และผลการประชุม
อย่างไรก็ดี KSecurities คาดหุ้นไทยแนวรับที่ 1,160 และ 1,125 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,230 และ 1,255 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนมิถุนายนของไทย ผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ของบจ.ไทย โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ ประเด็นเกี่ยวกับมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนี PMI เดือนก.ค. (เบื้องต้น) ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยูโรโซนและอังกฤษ ตลอดจนผลการประชุม ECB
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เงินบาทแข็งค่ากลับมา หุ้นไทยพลิกกลับปิดเหนือ 1,200 จุดช่วงท้ายสัปดาห์
บล.เอเชีย พลัส หุ้นไทย SET อาจขยับขึ้นน้อย แต่ก็ยังหวังให้ขึ้น
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ชี้!เงินบาทพลิกแข็งค่า หุ้นไทยพุ่งแรง จับตาผลเจรจาภาษีทรัมป์
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com