เปิดปมเหตุพ่อค้ายิงดับ 5 ราย บาดเจ็บ 2 ในตลาดชื่อดัง ก่อนทำร้ายตัวเองดับหนีความผิด

จากเหตุสะเทือนขวัญหนุ่มใหญ่กราดยิงที่บริเวณ ตลาด อตก.เมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ (28 ก.ค.68) ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 6 ราย (รวมผู้ก่อเหตุปลิดชีพตัวเองดับในที่เกิดเหตุ)

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเวลา 12.30 น. ตำรวจ สน.บางซื่อได้รับแจ้ง จากพนักงานรักษาความปลอดภัยในตลาด อตก. ว่าคนร้ายใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิงพนักงานรักษาความปลอดภัยเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอีกหลายคน ทางตำรวจสถานีตำรวจนครบาลบางซื่อจึงนำกำลังตำรวจ เข้ามาปิดล้อมภายในตลาด พร้อมทั้งอพยพประชาชนที่เข้ามาซื้อของออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน

ทราบชื่อผู้ก่อเหตุภายหลัง ชื่อนายน้อย อายุ 61 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นเจ้าของแผงขายของภายในตลาด อตก. ใกล้ใช้อาวุธปืนปลิดชีพตัวเองเสียชีวิต

จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุของตำรวจ สน.บางซื่อ พบว่า นายน้อย ลงมือก่อเหตุจุดแรกที่บริเวณประตูทางเข้าสำนักงานตลาด อตก. ซึ่งเป็นประตูฝั่งตรงข้ามกับสวนจตุจักร ซึ่งบริเวณประตูทางเข้าพบศพ รปภ. 1 ศพ และบริเวณลานจอดรถพบร่าง รปภ.อีก 2 ศพ

นอกจากนี้ในป้อมยามยังพบร่างผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่จึงทำการ CPR ใช้เวลานานกว่า 30 นาที แต่ไม่เป็นผลเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่ภายในตลาดพบแม่ค้าถูกยิงอีก 3 ราย โดยเสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บ 2 ราย

ระหว่างที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในกองปราบปราม เดินทางเข้ามาในที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบสถานการณ์

ต่อมา พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พร้อมด้วยนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในนครบาล ทั้งฝ่ายสืบสวน และสอบสวน ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบที่เกิดเหตุเช่นเดียวกัน ก่อนนำตัวภรรยาของนายน้อย ซึ่งเป็นแม่ค้าอยู่ภายในตลาดไปสอบปากคำ ด้านหน้าตลาด อตก. นานกว่า 2 ชั่วโมง

ก่อนออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลา 12.00 น. ของวันนี้ สำหรับคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุคือ นายน้อย ได้ขึ้นรถแท็กซี่บริเวณแยก SC park ให้มาส่งที่ตลาด อตก. โดยคนร้ายบอกกับคนขับรถแท็กซี่ว่าจะมายิง รปภ. ที่ตลาด อตก. และบังคับให้แท็กซี่ขับรถเข้ามาด้านในของตลาด บริเวณประตู 1 ซึ่งเป็นประตูฝั่งด้านหน้าสำนักงาน

เมื่อลงจากรถก็พบ รปภ. อยู่บริเวณประตูทางเข้า 3 คน นายน้อยชักอาวุธปืนยิง รปภ. 1 คนล้มลง ทำให้ รปภ.อีก 2 คนพยายามวิ่งหลบหนีหนี แต่ไม่ทัน ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณลานจอดรถห่างจากประตูประมาณ 20 เมตร จากนั้น นายน้อย เดินไปถามหานายนัน จนทราบว่านายนัน อยู่ในตู้ยาม ด้านหน้าธนาคารกรุงไทย จึงตามเข้าไปยิง ส่วนอาวุธปืนที่นายน้อย ใช้ก่อเหตุนั้นพบเอกสารใบทะเบียนปืนหรือใบ ป.4 มีชื่อนายน้อย เป็นผู้ครอบครอง ระบุ cz 9 มม. ออกให้โดยนายทะเบียนปืนจังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่ปี 2561

ทั้งนี้ภรรยาของนายน้อย เล่าว่า นายน้อย มีความไม่พอใจและมีเรื่องกับ รปภ.ที่ชื่อนัน มาก่อนหน้านี้ ช่วงปี 2562 จากการตรวจสอบภาพวงจรปิดพบว่า หลังยิงนายนันแล้ว กระสุนหมดปืนนายน้อยได้มานั่งบรรจุกระสุน ก่อนเดินเข้ามาภายในตลาดและยิงแม่ค้าอีก 3 คน ซึ่งมีร้านติดกับร้านของภรรยาตัวเอง ทำให้แม่ค้าเสียชีวิตทันที 1 ราย ส่วนอีก 2 รายได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นนายนัน ได้นั่งอยู่บริเวณม้านั่งตรงกลางตลาด ก่อนใช้อาวุธปืนปลิดชีพตัวเอง

นอกจากนี้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยังระบุอีกว่า จากการสอบปากคำฝั่งภรรยา ยังให้การอีกว่าสามีเป็นคนรักรถมาก โดยสาเหตุของความโกรธเคืองนั้นเนื่องจากนายน้อย ขับรถมาส่งตนเองขายของและเป็นคนรักรถมาก เมื่อนำรถมาจอดที่ตลาด พบว่ารถถูกมีดกรีดเป็นทางยาว นายน้อยจึงปักใจเชื่อว่าเป็นฝีมือของ รปภ. เคยร้องเรียนกับทางศูนย์รับร้องทุกข์ของตลาด แต่ตอนที่ร้องเรียนนั้นนายน้อยมีสภาพมึนเมา เจ้าหน้าที่จึงไม่รับเรื่องพร้อมขอให้มาร้องเรียนใหม่ในวันทำการ ประกอบกับนายน้อยเวลาดื่มเหล้า เรื่องนี้จะถูกขุดคุ้ยมาตลอด และจะมีมีอารมณ์รุนแรงมาก ซึ่งเคยลงมือทำร้ายตนประจำ ส่วนเหตุการณ์ในวันนี้ตนมาขายของตามปกติ โดยก่อนเที่ยงยังได้มีการโทรศัพท์พูดคุยกัน และไม่มีเค้าลางว่าจะก่อเหตุ

ด้าน นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุภายหลังเกิดเหตุการณ์ ระบุว่า รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยหลังจากนี้จะมีการดูแลเรื่องของสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ตายและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมนำเหตุการณ์ดังกล่าวมาถอดบทเรียน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดูแลความปลอดภัยในอนาคต พร้อมกับยืนยันว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องความขัดแย้งส่วนบุคคล ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตลาดแต่อย่างใด ส่วนแม่ค้าที่ได้รับบาดเจ็บอีกสองรายนั้นเบื้องต้นได้นำตัวส่งโรงพยาบาลพญาไท พหลฯ โดยทั้งสองคนปลอดภัย มีเพียงบาดแผลถูกกระสุนปืนเฉี่ยวที่แขน