"นิติธร” ลั่น 'ศึกการเมือง-การทูต-การทหาร' รุนแรง ชี้ต่างชาติแทรกแซงอธิปไตยไทย
"นิติธร” ลั่น 'ศึกการเมือง-การทูต-การทหาร' รุนแรง ชี้ต่างชาติแทรกแซงอธิปไตยไทย จวกสนธิสัญญาอินโด-แปซิฟิก เปิดช่องต่างชาติเข้าไทย นิติธรชี้รัฐบาลพลาด!
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 2 ส.ค. 2568 ที่ บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายนิติธร ล้ำเหลือ ได้กล่าวถึงสถานการณ์ของประเทศไทยในขณะนี้ว่า กำลังเผชิญกับ “สงครามสามด้าน” ซึ่งได้แก่ ด้านการเมือง การทูต และการทหาร พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนรวมพลังเป็นหนึ่งเดียวเพื่อรับมือกับความท้าทายดังกล่าว
วันนี้ ประเทศไทยมีเพียงด้านการทหารที่ยังคงทำหน้าที่ปกป้องชาติ ขณะที่ด้านการเมืองและการทูตกลับอ่อนแอ ไม่สามารถสนับสนุนภารกิจของทหารได้อย่างเต็มที่ นายนิติธรกล่าว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ข้อเรียกร้องให้หยุดยิงในการปะทะตามแนวชายแดน ไม่ได้เกิดจากเจตจำนงของประชาชนไทยหรือทหารไทย หากแต่เป็นแรงกดดันจากต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา
นายนิติธร ระบุว่า ประเทศไทยอาจตกเป็นเหยื่อในเกมการเมืองระหว่างประเทศ โดยกล่าวถึง “บันทึกข้อตกลงอินโด-แปซิฟิก” และ “สนธิสัญญาไมตรี การค้า และพาณิชย์ ฉบับที่สอง” ที่เปิดช่องให้อเมริกาเคลื่อนย้ายกองกำลังและยุทโธปกรณ์เข้ามาในไทย ซึ่งเขาเห็นว่าอาจกระทบต่ออธิปไตยของชาติ พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าประชาชนไม่เคยได้รับข้อมูลเกี่ยวกับข้อตกลงเหล่านี้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้ นายนิติธร ยังพาดพิงไปถึงนักการเมืองและพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะนายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งเขาเชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร ทั้งในแง่บทบาททางการเมืองและการเจรจาระหว่างประเทศ
นายนิติธร ยังได้ตั้งคำถามถึงบทบาทของฝ่ายค้านที่ยังคงเงียบงันต่อประเด็นดังกล่าว พร้อมย้อนไปถึงเหตุการณ์ในอดีต เช่น การเคลื่อนไหวของพรรคอนาคตใหม่ที่ต่อต้านการจัดซื้ออาวุธของกองทัพ ซึ่งเขาเห็นว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ประเทศไทยขาดแคลนอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยในปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน นายนิติธร ยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการกลับมาของ นายทักษิณ ชินวัตร โดยมองว่าเป็นการใช้อำนาจฝ่ายบริหารในการขอพระราชทานอภัยโทษ ไม่เป็นไปตามกลไกประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ และกล่าวยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่าเป็นผู้ที่ยืนหยัดปกป้องหลักนิติธรรม
ตอนท้ายของการปราศรัย นายนิติธร ได้เรียกร้องให้ประชาชนออกมาแสดงพลังและให้กำลังใจกองทัพไทยในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมย้ำว่าประชาชนไทยทุกคนคือ "นักรบ" ที่ยืนเคียงข้างกองทัพ ไม่ใช่เพียงต่อสู้กับประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น แต่รวมถึงการรักษาเอกราชจากอิทธิพลของมหาอำนาจด้วย