เปิดสาเหตุ "น้ำท่วมเท็กซัส" สร้างหายนะร้ายแรงสุดในรอบ 100 ปี
เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งค้นหาผู้สูญหายและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง เมื่อรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ ต้องเผชิญกับเหตุน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่จนถูกนิยามว่าเป็น "หายนะในรอบ 100 ปี" หลังฝนตกลงมาอย่างหนักเมื่อคืนวันที่ 4 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น
ความเสียหายที่เกิดขึ้น 'ร้ายแรง' แค่ไหน
ประชาชนหลายคนยืนยันว่าพวกเขาไม่เคยเห็นระดับน้ำที่ท่วมสูงเท่านี้มาก่อน แต่นั่นยังไม่สร้างปัญหาเท่าความเร็วของกระแสน้ำที่เอ่อล้นออกมาจากแม่น้ำกัวดาลูเปจนท่วมสูงถึง 8 เมตร ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง และเกิดขึ้นในยามกลางดึกที่ทุกคนยังคงนอนหลับอยู่ในบ้านจนไม่สามารถหลบหนีได้ทัน
แม้จะยังยืนยันตัวเลขที่แน่ชัดไม่ได้ แต่ก็มีรายงานมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 รายแล้ว ในจำนวนนั้นยังรวมถึงเด็กผู้หญิงกว่า 27 ราย ที่กำลังเข้าค่ายฤดูร้อนบริเวณใก้กับริมแม่น้ำ และจนถึงตอนนี้ยังมีผู้สูญหายอย่างไม่ทราบชะตากรรมอีกเป็นจำนวนมาก
บ้านเรือนและอาคารธุรกิจจำนวนมากถูกน้ำซัดพังเสียหาย จนแม้แต่ทางการก็ยอมรับว่า การจะทำความสะอาดเมืองให้กลับมานั้นอาจต้องใช้เวลานาน ยังไม่ต้องพูดถึงการฟื้นฟูให้กลับมาเหมือนเดิม
ขณะที่หน่วยงานอุตุนิยมวิทยายังคาดว่าจะมีฝนตกเพิ่มขึ้นในเท็กซัสตอนกลาง และยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมฉับพลันอีกครั้งในหลายพื้นที่
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้น้ำท่วมอย่างรุนแรง
- ผลกระทบตกค้างจากพายุลูกก่อน
อิทธิพลที่ยังหลงเหลืออยู่จากพายุโซนร้อนแบร์รีที่พัดขึ้นฝั่งของเม็กซิโกเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งแม้พายุจะสงบลงแล้ว แต่ยังทิ้งความชื้นปริมาณมากไว้ในอากาศ เมื่ออากาศที่มีความชื้นถูกดันขึ้นไปด้านบน จึงก่อให้เกิดเมฆพายุขนาดใหญ่ ส่งผลให้มีฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้าง อีกทั้งยังพบว่าระบบนี้พายุครั้งนี้เคลื่อนตัวช้า ทำให้มีปริมาณน้ำฝนในบริเวณเดิมมากขึ้น จนทำให้น้ำปริมาณมากเอ่อล้นจากแม่น้ำกัวดาลูเปและไหลบ่าด้วยความเร็วที่ไม่เคยมีมาก่อน
- ภูมิประเทศ
พื้นที่เท็กซัสฮิลล์คันทรีซึ่งเกิดน้ำท่วมหนักในครั้งนี้ มักถูกเรียกกันว่า "พื้นที่น้ำท่วมฉับพลัน" เนื่องจากเป็นพื้นที่ลาดชันและไม่มีพืชพรรณที่ช่วยต้านกระแสน้ำ เมื่อเกิดพายุฝนฟ้าคะนองที่ทำให้ระดับน้ำบริเวณเนินเขาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว น้ำสามารถไหลเร็วมากจากพื้นที่ระบายน้ำด้านบนลงสู่แอ่งน้ำ ทำให้ระดับน้ำด้านล่างท่วมสูงขึ้นได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
- การแจ้งเตือน
ผู้รอดชีวิตบางส่วนเผยว่าพวกเขาไม่ได้รับคำเตือนฉุกเฉินใดๆ แม้ทางการจะพยายามส่งแจ้งเตือนน้ำท่วมฉุกเฉินผ่านระะบบข้อความของโทรศัพท์ แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนนอนหลับและกระชั้นชิดกับช่วงเวลาที่น้ำท่วมอย่างฉับพลัน
นอกจากนี้พวกเขายังไม่มีระบบไซเรน แม้ว่าจะมีการเรียกร้องกันมานานหลายปี เพราะเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบางคนรู้สึกว่าการติดตั้งระบบนี้มีค่าใช้จ่ายสูงเกินไป และรัฐบาลกลางภายใต้การนำของประธานาธิบดีทรัมป์ ก็มีนโยบายลดการใช้จ่ายสำหรับการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติธรรมชาติ
- โลกร้อน
แม้จะไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่าปัญหาโลกร้อนเป็นสาเหตุของภัยพิบัติที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่แน่ชัดคือพายุโซนร้อนและเฮอริเคนจะยิ่งมีความรุนแรงมากขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากอุณหภูมิของมหาสมุทรที่สูงขึ้นส่งผลให้เกิดการระเหยของไอน้ำมากขึ้น ทำให้ความชื้นในอากาศเพิ่มขึ้น และนำไปสู่พายุที่รุนแรงและสร้างความเสียหายร้ายแรงในที่สุด
น้ำท่วมฉับพลันครั้งนี้ยังนับเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนมากว่า หากโลกร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราจะต้องเผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้บ่อยขึ้นเรื่อยๆ
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การที่ปัจจัยหลายประการมาบรรจบกันนี้ ได้ก่อให้เกิดภัยพิบัติน้ำท่วมที่สร้างหายนะเกินกว่าจะมีใครคาดการณ์ล่วงหน้าได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังระบุด้วยว่า มีแนวโน้มที่จะเกิดน้ำท่วมอีกครั้งในปีหน้า และอาจจะยังมีเหตุการณ์น้ำท่วมที่เลวร้ายยิ่งกว่านี้ในอนาคต