‘ไต้ฝุ่น KPN’ เผยชีวิตหลังแต่งงานแฮปปี้ ความสุขไร้การเปลี่ยนแปลง แง้มแพลนเบบี๋ 2ปีข้างหน้า!
เรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวข่าวดีที่หลายคนไม่ค่อยรู้ สำหรับนักแสดงหนุ่ม “ไต้ฝุ่น-กนกฉัตร มรรยาทอ่อน” หรือ “ไต้ฝุ่น KPN” ได้สละโสดควงแขนแฟนสาวนอกวงการ “นิว ตรีทิพยนิภา” ถือฤกษ์ดีจูงมือกันเข้าพิธีวิวาห์อย่างงดงามแบบประเพณีชาวเหนือล้านนา ตามที่ตั้งใจไว้นั้น
ล่าสุด ไต้ฝุ่น ได้มาร่วมงานที่ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส มีพิธีบวงสรวงละครใหม่ 3 เรื่อง แซนดี้ ครูแสนดี, วิชาทุก(ข์)พื้นฐาน และ อาชญาโกง2 พร้อมทั้งอัปเดตชีวิตหลังแต่งงานและแพลนการมีเบบี๋ โดยไต้ฝุ่น เผยว่า "สำหรับชีวิตหลังแต่งงานก็ดีครับ มีความสุขมาก ๆ ถือเป็นอีกขั้นหนึ่งของชีวิตเลย หลายคนไม่รู้ว่าเราแต่งงานแล้ว หลาย ๆ เรื่องที่ผ่านมาหลังแต่งงาน ชีวิตก็ยังเหมือนเดิมเลยครับ แต่ก็มีความสุขมากขึ้น ผมบอกกับแฟนว่าอะไรที่มันดีอยู่แล้ว เราคบกันมา 10 กว่าปี พอแต่งงานไปก็คงไม่ต้องเปลี่ยนอะไรมาก ซึ่งหลาย ๆ เรื่องก็คือเหมือนเดิมเลยครับ แค่เรารู้สึกว่าเราคอมมิตกันแล้ว อย่างที่บอกครับ อะไรที่ทำให้เราอยู่ด้วยกันมา 10 กว่าปีได้ แสดงว่ามันดีอยู่แล้ว ไม่ต้องเปลี่ยน ทำเหมือนเดิมต่อไป ตอนนี้ไปไหนคนก็จะรู้ว่าเราแต่งงานแล้ว เพื่อนก็แซว
พอแต่งงานกับแฟน เขาไม่ชอบให้ผมเรียกเขาว่าภรรยาหรือเมียครับ คือเขาเขิน เขาให้เรียกเหมือนเดิม สรรพนามที่ใช้เรียกกันก็เหมือนเดิมทุกอย่าง ซึ่งก่อนแต่งงานผมก็รู้สึกว่าทุกอย่างมันต้องเปลี่ยนไปแน่ ๆ แต่พอทุกอย่างเกิดขึ้นกับตัวเอง อาจจะเป็นเฉพาะคู่ผมนะครับ รู้สึกว่ามันเหมือนเดิมเลยครับ รู้สึกมีความสุขดี ส่วนเรื่องเบบี๋ยังไม่ได้นึกถึงเรื่องนั้นเลยครับ เพราะมีอะไรหลายอย่างที่เราอยากทำ ความฝันที่อยากทำให้สำเร็จด้วยกันก่อน แล้วค่อยว่ากัน อีกสักสองปี ถ้าไม่มีก็คงไม่แล้วครับ
ตอนนี้ก็ทำธุรกิจเล็ก ๆ น้อย ๆ ครับ อย่างแฟนผมทำโฮมสเตย์ที่เชียงใหม่ ก็กำลังเริ่ม เราไม่ได้เป็นนักธุรกิจก็พยายามกันอยู่ครับ อาจจะเหนื่อยหน่อยเพราะบริหารกันเอง ตอนนี้ก็เป็นธุรกิจเล็ก ๆ ค่อย ๆ เริ่มครับ คือมันใหญ่สำหรับเรา แต่มันอาจจะเล็กสำหรับคนอื่น คือมันอยู่ในหุบเขา ไม่ได้ใหญ่โตมากแต่เป็นที่พักที่สบายใจ จุดเริ่มต้นที่ทำธุรกิจคือผมกับแฟนชอบเที่ยวมาก ๆ ครับ แล้วแฟนมีที่อยู่ตรงนั้นพอดี วันหนึ่งได้กลับบ้านไปตรงนั้นแล้วรู้สึกว่ามันมีวิวเป็นของตัวเอง อยู่ในทำเลที่ดีมาก ๆ เลย ซึ่งมันก็ไม่ได้ใหญ่มาก ชื่อว่า ฮีลใจ๋ ก็เลยลองเริ่มทำดู เผื่อใครอยากจะมาพักเพื่อฮีลใจ ซึ่งการทำธุรกิจครั้งนี้ก็ลงทุนไปไม่เยอะครับ พอดีมีที่อยู่แล้วก็เลยไม่จำเป็นต้องลงทุนอะไรมาก ยังไม่เกินหลักล้านครับ ธุรกิจอันนี้แฟนผมก็เป็นคนดูแล จะไปเดือนละครั้ง ซึ่งเราก็เพิ่งเข้าใจว่ามันจะมีทั้งไฮซีซั่น โลว์ซีซั่น ประเภทของคนเที่ยว กับระยะเวลากว่าจะคืนทุน เราก็เป็นเหมือนโฮมสเตย์ชาวบ้าน คงไม่สามารถที่จะคืนทุนได้ภายในหนึ่งปี สองปีครับ
ส่วนปัญหาหลัก ๆ ที่เจอก็คือคนจะเหมือนกลัวมิจฉาชีพครับ หลายคนจะกลัวว่าเป็นมิจฉาชีพ เพราะเราไม่ได้อยู่ในระบบแพลตฟอร์มอะไรเลย บางคนก็จะตรวจสอบเยอะมาก ซึ่งเราเข้าใจและพยายามทำทุกอย่างให้เขาเห็นว่า สามารถจ่ายได้ทุกช่องทางผ่านแพลตฟอร์มนู่นนี่นั่น หรือไลฟ์ให้ดู ถ่ายวิดีโอให้ดูว่านี่ของจริงนะ ซึ่งเราก็มีทั้งเพจของเรา ตอนนี้ก็ประสานงานกับเทศบาลตำบลแม่ไล เราเข้าไปดูให้เขาเช็กได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเพจปลอมมันก็มีเยอะครับ เพราะบางคนก็เคยโดนมา ที่ว่าจ่ายไปแล้วเหมือนของจริงเลย แต่ไม่ใช่ของเรานะ ของคนอื่น
สำหรับตอนนี้เรียกว่าโลว์ซีซั่นสำหรับที่เที่ยวของผมครับ เพราะมันเป็นหน้าฝน คนจะห่วงเรื่องดินสไลด์หรือน้ำท่วม แต่มันเป็นจังหวะทองมาก ๆ เลยครับ เพราะเวลาฝนตกหมอกก็จะขึ้น ก็จะมีคนสองประเภทเลยครับ ภาคเหนือก็จะมาตอนฤดูหนาว แต่ตอนนี้ก็อาจจะต่ำลงนิดนึง เพราะว่าคนอาจจะไม่ได้เที่ยวมาก แต่ยืนยันว่าที่ของเราฝนตกแล้วสวย ทางก็เป็นดินดำแล้วลาดยาง ไม่ใช่ดินแดง
ช่วงนี้การท่องเที่ยวมันซบเซา ถามว่าของเราคูณสองเลยไหม ก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกันครับ เชียงใหม่เป็นเมืองที่น่าเที่ยวมาก แต่ว่าอย่างที่ทุกคนรู้กันก็คือหน้าหนาวเป็นช่วงทองที่ทุกคนเที่ยว แต่ก็ต้องระวังเรื่อง PM2.5 นี่คือสิ่งที่เราอยากให้เขาแก้มากเลยครับ เพราะว่าอย่าว่าเป็นเรื่องการท่องเที่ยวเลย คนเฒ่าคนแก่ พ่อแม่ผม หรือพ่อแม่แฟนผมที่อยู่ที่นั่น เราเห็นเราก็ยังสงสารเลยครับ เพราะเขาอยู่ในที่ที่มีควัน แต่ก็มีคนไปเที่ยวนะครับ ทุกอย่างก็กำลังเริ่มดีขึ้น ก็เห็นได้ชัดว่ามีคนสองประเภทอย่างที่ผมบอก เที่ยวช่วงฤดูฝนหรือช่วงฤดูหนาว ทุกคนมาที่นี่ก็แฮปปี้กันหมด เพราะว่าเหมือนได้พัก ก็สนับสนุนให้ทุกคนไปเที่ยวกันนะครับ จะได้พักจากความเครียดจากทุกวันบ้าง ส่วนชาวต่างชาติก็มีมาเหมือนกันครับ แต่ส่วนใหญ่ก็จะมากับเพื่อน อาจจะเป็นเพื่อนกับคนไทยที่พาเขามา"