‘เบลล่า’ เปิดใจวงการผ้าเหลือง ชี้ อย่ายึดติดที่ตัวบุคคล ยันไม่เสื่อมศรัทธาแต่ต้องรอบคอบขึ้น!
เรียกได้ว่าวงการผ้าเหลืองสั่นสะเทือนเลยทีเดียว หลังจากที่มีข่าวฉาวอย่างหนัก จนทำเอาหลายคนรวมไปถึงคนบันเทิงได้ออกมาแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวกันมากมายนั้น
ล่าสุดในงาน "ROYAL IVY REGATTA x MONET" เปิดตัวคอลลาบอเรชั่นใหม่ นางเอกสายบุญอย่าง “เบลล่า ราณี” ได้เผยถึงมุมมองของตนเองเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว
โดย เบลล่า เผยว่า “สำหรับเรื่องทำบุญ มีโอกาสทุกครั้งคือต้องเข้าวัดเลย ก็มีไปฟังธรรมช่วงวันแม่ประมาณนี้ แต่ก็ถ้ามีโอกาสก็ทำ แต่ไม่ใช่ว่าว่างแล้วต้องไปๆ แบบนี้ก็ไม่ใช่ ช่วงนี้ต้องหันมาเป็นเรื่องการปฏิบัติมากขึ้นซะมากกว่า คือตอนนี้ก็ยังทำทุกอย่างสม่ำเสมอเรื่อยๆ อย่างที่บอกตามวาระโอกาสด้วย ซึ่งตอนนี้มีเรื่องวิกฤตของพระสงฆ์ เรื่องวัดวาอารามค่อนข้างจะแรง ถามว่าเรามองเรื่องนี้ยังไงบ้าง ก็อย่างครูบาอาจารย์ที่เคยสอนเบล อย่ายึดติดที่ตัวพระ อย่ายึดติดที่ตัวบุคคล แต่ว่าให้ยึดติดที่เรื่องธรรมะ หรือเรื่องคำสอนของพระพุทธเจ้า อย่างที่บอกถ้าใครสะดวกจะทำแบบไหนก็ทำแบบนั้น ซึ่งก่อนหน้านั้นคือเบลสะดวกทำแบบนี้ แล้วเบลรู้สึกว่าเบลได้สละ อันนั้นเป็นสิ่งที่เราได้รับแล้ว คือการได้สละทรัพย์ส่วนตัวแล้วก็ไม่ยึดติดกับทรัพย์ส่วนตัว อย่างที่บอกช่วงนี้ก็คือหันมาทำในเรื่องของการปฏิบัติให้มากขึ้น ที่จริงการปฏิบัติคือเรื่องทั้งการสวดมนต์ นั่งสมาธิ หรือวิปัสสนาอะไรต่างๆ เขาเรียกว่าเป็นบุญที่ยั่งยืน เป็นบุญที่เราได้รับและเห็นผลในทันที เราก็จะได้รับการเห็นผลทางด้านจิตใจในทันทีด้วย ส่วนใครที่ เหมือนรู้สึกผิดหวังหรือหมดศรัทธา คือเบลอยากให้ลองหันมาลองปฏิบัติดู ลองเปลี่ยนแนวคิดในเรื่องนี้ดู อาจจะไม่ต้องไปทำบุญหรืออะไรที่คุณไม่สบายใจก็ได้ แต่ว่ายังไงการปฏิบัติกับตัวเองหรือว่าวิปัสสนาอย่างเนี้ยได้บุญทางใจอย่างแน่นอน
คือความจริงแล้วเบลทำบุญทุกรูปแบบ ไม่ได้ทำแค่ที่วัดอย่างเดียวก็จะทำกับโรงพยาบาล ทำกับเด็ก ทำหลายอย่าง กับสัตว์อะไรอย่างนี้ คือทำครบหมดเลย วัดก็เป็นแค่อีกพาร์ตนึงที่เรารู้สึกว่าเราอยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการสืบทอดพระพุทธศาสนา ให้อยู่ต่อไปให้ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องทำบุญด้วยเงินสด ความจริงแล้วมันลงด้วยอะไรก็ได้แหละ ด้วยแรงก็ได้ ด้วยศรัทธาอนุโมทนาก็ได้ แต่อย่างที่บอกเรามีกำลังในตรงนี้ เราก็เลยมีโอกาสได้ทำ ทุกคนเห็นอาจจะมากหน่อย ซึ่งตัวเราไม่ได้เสื่อมศรัทธาในพระพุทธศาสนา แต่ว่ายอมรับจริงๆ ว่าอาจจะต้องเช็กให้มากขึ้น
มันก็จะมีอีกมุมนึงพระดีๆ ก็มีวัดดีๆ ก็มีแต่ว่าโดนผลกระทบหมด ซึ่งก็น่าเห็นใจพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เบลเห็นเหมือนครูบาอาจารย์หลายๆ ท่านก็ช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือผู้คนเยอะมาก บางวัดในต่างจังหวัดอะไรอย่างนี้ โดยเฉพาะวัดป่า เขาจะเป็นศูนย์กลางเลยในการกระจายความช่วยเหลือไปสู่ชุมชน คือเหมือนการจะต้องรอในเรื่องของอะไร คือชาวบ้านขอวัดง่ายกว่าอะไรอย่างนี้ ซึ่งทางวัดก็คือจะกระจายแล้วก็ช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป อันนี้ถ้าเราเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเหลือได้เบลก็รู้สึกว่ามันก็เป็นส่วนที่ดี เพราะว่าเราไม่ได้แค่จบที่การทำบุญให้เงินหรือให้วัดอะไรอย่างนี้ แต่ว่ามันได้กระจายไปสู่ชุมชนด้วย หลายคนก็มองในมุมว่า บุญมันจบที่เราทำแล้ว ส่วนใครจะไปทำอะไรต่อก็กรรมของคนนั้น เบลก็มองแบบเดียวกัน เบลก็เชื่อในเจตนาของตัวเอง เรามีเจตนาแบบไหนเราก็ทำออกไป แล้วเราก็จบแค่ตรงนั้น แต่ถ้าเรายังยึดติดว่าทำไปแล้วเงินจะไปไหน มันก็ทำไประแวงไป แต่ก็ต้องดูดีๆ ล่ะค่ะ จริงๆ แล้วยิ่งทุกวันนี้โลกมันอาจจะเปลี่ยนไปหรืออะไรเบลก็ไม่ทราบเหมือนกัน”
ถามเรื่องช่วยบริจาคของจำเป็นให้พี่ๆ ทหารชายแดน ก็เหมือนเดิมค่ะ อยากเป็นส่วนหนึ่งคือรู้สึกว่าเราก็มีกำลัง แล้วเราเห็นเราก็ทนไม่ได้ เราอยากจะช่วยในส่วนไหนที่แบบเราสามารถช่วยได้ ก็จะมีแบบเหมือนหาของจำเป็นให้กับพี่ๆ ทหารหรือว่าส่งขนมไปอะไรอย่างนี้ แล้วต่อไปจะมีโครงการคือเป็นพี่ๆ ที่รู้จักเขาทำแล้วเดี๋ยวเบลอาจจะไปช่วย เกี่ยวกับเรื่องเด็ก สตรี หรือว่าคนชรา ที่เขาสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักแล้วก็ไม่มีหนทางในการส่งตัวเองในเรื่องของการเรียน หรือว่าไม่มีครอบครัว แล้วก็อาจจะมีโครงการต่อไป ซึ่งเป็นโปรเจ็กต์ที่เราจะรันต่อจากนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่อาจจะไปช่วยรณรงค์ เดี๋ยวรออัปเดตออกมาอีกทีหนึ่ง"