ม่านหมอกแห่งสันติภาพ: ภารกิจลับของทรัมป์กับเป้าหมายที่เหนือกว่ายูเครน
ท่ามกลางไฟสงครามที่ยังคงโหมกระหน่ำในยูเครน ภูมิทัศน์ทางการเมืองระหว่างประเทศกลับดูเหมือนจะเป็นภาพสะท้อนของความสับสนและไร้ซึ่งทางออกที่ชัดเจน เสียงปืนในสนามรบดูเหมือนจะสอดคล้องกับเสียงถกเถียงที่ดังในหมู่ผู้นำโลก และการกลับมาของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในทำเนียบขาว และเดินเกมอย่างมีเป้าหมาย ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้หมากกระดานสงครามทั้งหมดต้องถูกจัดวางใหม่
ฉากทัศน์ที่หนึ่ง: สองแผนสันติภาพที่ไม่มีวันบรรจบ
ในหมากกระดานสงครามยูเครน แต่ละฝ่ายมี "สูตรสำเร็จ" ของตัวเองที่ยากจะหาจุดบรรจบได้ ประธานาธิบดีเซเลนสกี แห่งยูเครนได้นำเสนอ แผนสันติภาพ 10 ข้อ อย่างหนักแน่น ซึ่งมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การฟื้นฟูอำนาจอธิปไตยของยูเครนอย่างสมบูรณ์ และการลงโทษรัสเซียสำหรับอาชญากรรมสงครามที่ได้ก่อขึ้น พูดง่ายๆ คือยูเครนต้องการให้รัสเซีย "ถอย" และ "ชดใช้" อย่างไร้เงื่อนไข
ในทางกลับกัน รัสเซีย ยังคงยืนกรานในจุดยืนเดิมที่แข็งกร้าว ไม่เพียงแต่ปฏิเสธแผนสันติภาพของยูเครนอย่างสิ้นเชิง แต่ยังต้องการให้ยูเครนยอมรับการผนวกดินแดนที่รัสเซียยึดครองไปแล้วอย่างเป็นทางการ นี่คือเกมที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมลดราวาศอก และดูเหมือนจะไม่มีใครคิดที่จะถอยจากเส้นแบ่งที่ลึกและกว้างขนาดนี้
ฉากทัศน์ที่สอง: ยุโรปที่รับบทหนักและต้องเผชิญหน้า
ขณะที่ ยุโรป ได้ผนึกกำลังกันเป็นหนึ่งในการใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย และให้การสนับสนุนยูเครนอย่างมหาศาล ทั้งในด้านการทหารและเศรษฐกิจ พวกเขาต้องรับมือกับวิกฤตพลังงานและปัญหาผู้ลี้ภัยที่ตามมา ความมุ่งมั่นของยุโรปดูเหมือนจะไม่มีวันสั่นคลอน แม้จะมีความเห็นที่แตกต่างกันอยู่บ้างในหมู่ประเทศสมาชิก แต่การกลับมาของทรัมป์ในฐานะผู้นำสหรัฐ ได้สร้างแรงกดดันใหม่ที่ทำให้ยุโรปต้องพิจารณาแผนการของตัวเองอีกครั้ง
เอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ได้สร้างกระแสความสนใจด้วยการพูดถึงความเป็นไปได้ที่จะใช้ มาตรการภาษีทุติยภูมิ (Secondary Sanctions) ซึ่งเป็นมาตรการที่มุ่งเป้าไปที่บริษัทหรือประเทศที่ยังคงทำการค้ากับรัสเซียอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการซื้อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ นี่คือหมากที่อันตรายแต่ทรงพลังที่ยุโรปกำลังพิจารณาในขณะที่ต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนจากพันธมิตรข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก
ฉากทัศน์ที่สาม: แรงผลักดันจากทำเนียบขาวที่ต้องการรางวัล
การกลับมาของ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในทำเนียบขาว สร้างความกังวลอย่างมากในหมู่ผู้นำยุโรป จุดยืนของทรัมป์ที่มักจะเสนอให้ยุติสงครามอย่างรวดเร็ว โดยอาจต้องมีการประนีประนอมกับรัสเซีย ทำให้ผู้นำยุโรปมองว่านี่อาจจะเป็นการบั่นทอนความพยายามร่วมมือที่ผ่านมา และอาจเป็นการส่งสัญญาณที่ผิดไปยังเครมลิน
อย่างไรก็ตาม ท่าทีที่มุ่งมั่นของประธานาธิบดีทรัมป์ในเวลานี้ มีเป้าหมายที่เหนือกว่าการแก้ปัญหาความขัดแย้งในยูเครน นั่นคือ รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ จากมุมมองของนักวิเคราะห์หลายคน ความพยายามของทรัมป์ในการเข้าหาผู้นำยุโรปและเสนอแนวทางการเจรจาที่ไม่เหมือนใคร อาจเป็นไปเพื่อสร้างผลงานชิ้นโบว์แดงที่จะนำไปสู่การได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ การยุติสงครามครั้งใหญ่ในยุโรปจะเป็นมรดกที่ยิ่งใหญ่ในสมัยการดำรงตำแหน่งของเขา และเป็นผลงานที่ไม่มีประธานาธิบดีสหรัฐ คนใดเคยทำสำเร็จมาก่อนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ดังนั้น ฉากทัศน์ของสงครามยูเครนในปัจจุบันจึงเป็นภาพที่ซับซ้อนและน่าสับสน ยูเครนยังคงยืนหยัดด้วยความกล้าหาญ ส่วนรัสเซียก็ยังคงมุ่งมั่นในเป้าหมายทางการทหาร ในขณะที่ยุโรปต้องรับมือกับความไม่แน่นอนจากพันธมิตรสำคัญอย่างสหรัฐ นี่คือสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยอุปสรรค และยังไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าจุดสิ้นสุดของโศกนาฏกรรมครั้งนี้จะมาถึงเมื่อไหร่และในรูปแบบใด แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือแรงผลักดันจากวอชิงตันในครั้งนี้ มีเดิมพันที่สูงกว่าแค่สันติภาพในยูเครน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
เซเลนสกีกร้าว “รัสเซียต้องยุติสงคราม” ทรัมป์ย้ำยูเครนไม่มีวันได้เข้านาโต
ทรัมป์เผยหารือเซเลนสกี-ผู้นำยุโรป “คืบหน้า” เตรียมคุยไตรภาคีกับปูติน
มาครงแย้มยุโรปพร้อมหวนคว่ำบาตรรัสเซีย ชี้ไม่ควรจำกัดขนาดกองทัพยูเครน
เซเลนสกีลั่นพร้อมเจอปูติน เผยข้อตกลงกับสหรัฐรวมถึง “ต้องซื้ออาวุธ”
รัสเซียเผยทรัมป์ต่อสายถึงปูติน หารือแนวทางคุยกับเซเลนสกีในอนาคต