24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 5 สิงหาคม 2568
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 5 สิงหาคม 2568
>> บช.ก. ลุย “กวาดลานวัด” ค้น 200 จุดทั่วไทย จับพระเอี่ยวแก๊งข้ามชาติ
06.00 น. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) สั่งเปิดปฏิบัติการ “กวาดลานวัด” ทั่วประเทศ โดยระดมกำลังตรวจค้น 200 จุด เป้าหมายจับพระและอดีตพระรวม 181 ราย พัวพันคดีอาญาหลายคดี ทั้งฟอกเงิน ยาเสพติด และองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
เบื้องต้นสามารถจับกุม พระภิกษุ 1 รูป อายุ 45 ปี พระลูกวัดแห่งหนึ่ง ย่านคลองหก จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีร่วมองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเพื่อฟอกเงินยาเสพติด จับได้ขณะบิณฑบาต ก่อนนำลาสิกขาทันที
ตรวจพบใช้บัญชีธนาคารรับโอนเงินค่ายา เจ้าตัวอ้างมีคนมาขอยืมบัญชีโดยไม่รู้เจตนา เบื้องต้นให้การภาคเสธ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังเร่งติดตามจับกุมเป้าหมายรายอื่น และจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการภายหลัง
>> ช่วงค่ำคืนถึงเช้า สถานการณ์ชายแดนไทย ปกติ ไม่มีเหตุรุนแรง
07.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เผย รายงานสถานการณ์ภาพรวมบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาว่า เหตุการณ์ทั่วไป ตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 4 ส.ค. ถึง เช้าวันนี้ ยังคงเป็นปกติ ไม่มีรายงานเหตุรุนแรงบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในทุกพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ขณะที่ หน่วยงานความมั่นคงยังคง เฝ้าระวัง วางกำลังตามแนวปฏิบัติการตามแผน
ทั้งนี้ ไทยและกัมพูชา ยังอยู่ในห้วงการประชุม GBC ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม 68 โดยวันที่ 4-6 ส.ค.68 เป็นการประชุมฝ่ายเลขานุการ และวันที่ 7 ส.ค.68 เป็นการประชุมหลัก
>> รถกระบะ กำลังเครื่องหมดตอนขึ้นเขา ทำให้รถไหลถอยหลังลงข้างทาง คนงานที่บรรทุกมาบาดเจ็บระนาว
08.38 น. มูลนิธิพุทไธสวรรย์จังหวัดลำพูน รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถกระบะเสียหลักตกเขา และมีผู้บาดเจ็บหลายราย บนถนนภายในสวนบ้านป่าไผ่ ต.ป่าไผ่ อ.ลี้ จ.ลำพูน
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า ไฉลักซ์ สีเขียว ป้ายทะเบียน ลำพูน ลักษณะตกอยู่บริเวณข้างทาง พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย ทางอาสาสมัครกู้ชีพ - กู้ภัยให้การช่วยเหลือและนำส่ง รพ.ลี้
เบื้องต้นทราบว่า รถกระบะคันดังกล่าว บรรทุกคนงานมา เมื่อถึงจุดที่เกิดเหตุ รถกลับไม่มีกำลัง ทำให้ไหลถอยหลังและเสียการควบคุม ทำให้รถตกลงข้างทางดังกล่าว ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลี้
>> จับรถกระบะ ขนแรงงานชาวเมียนมา เกือบ 10 คน รับยอมจ่ายเงินคนละ 9,000 บาท ให้กับนายหน้า
09.38 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงกาญจนบุรี-สุพรรณบุรี ขับรถออกตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อถึงบริเวณ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
พบรถยนต์ต้องสงสัย ลักษณะเป็นรถบรรทุกสิ่งของหนัก จึงเปิดสัญญาณไฟและส่งเสียงคำสั่งให้หยุดรถบริเวณพื้นที่ปลอดภัยข้างทาง จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย แต่เมื่อตรวจค้นภายในรถอย่างละเอียด กลับพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาจำนวนเกือบ 10 คน ซ่อนตัวอยู่ภายในรถ ทั้งในห้องโดยสารและกระบะท้าย บางคนมีเอกสารยืนยันตัวตนแต่หมดอายุ บางคนไม่มีหนังสือเดินทางแต่อย่างใด
จากการสอบสวน คนขับรับสารภาพว่าได้รับว่าจ้างให้ไปรับแรงงานต่างด้าวทั้งหมดจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อนำไปส่งที่ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้ค่าจ้างหัวละ 2,000 บาท ขณะที่แรงงานต่างด้าวให้การว่า ยอมจ่ายเงินคนละ 9,000 บาท ให้กับนายหน้าชาวเมียนมา เพื่อให้พาเข้ามาหางานทำในประเทศไทย
ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาและควบคุมตัวคนขับพร้อมแรงงานต่างด้าวทั้งหมดไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
>> รมว.ศึกษาฯ ย้ำ เปิดโรงเรียนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ฟังคำแนะนำฝ่ายความมั่นคงเป็นหลัก ครู นักเรียน และผู้ปกครอง ต้องปลอดภัยก่อน
11.13 น. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า การเปิดเรียนของโรงเรียนตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของฝ่ายความมั่นคง ที่ยังไม่อนุญาตให้ประชาชนกลับเข้าไปในพื้นที่ ที่ยังเฝ้าระวัง ฉะนั้นโรงเรียนยังต้องเป็นศูนย์พักพิง ดูแลประชาชนต่อไป ในส่วนโรงเรียนที่เป็นศูนย์พักพิง เราไม่ได้เร่งเปิด ต้องดูความปลอดภัยของครูนักเรียน และผู้ปกครองด้วย
ส่วนรูปแบบการเรียนการสอน นั้น มีระบบออนไลน์พร้อม เพียงแต่ในช่วงที่ยังไม่สงบจึงยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถใช้เครื่องมือ ได้แค่ไหน เพราะนักเรียนจะต้องเข้าถึงอุปกรณ์ได้ด้วย และส่วนใหญ่ตอนนี้เป็นเรื่องของการจัดกิจกรรมให้เด็ก ๆ ในศูนย์พักพิง
>> พบร่าง "จ่าสิบเอก" ลอยน้ำเจ้าพระยา ดับปริศนา คาดเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 2 วัน
11.30 น. สน.ปากคลองสาน รับแจ้งพบศพลอยน้ำบริเวณท่าเรือวัดอรุณ ใต้สะพานพุทธ เขตคลองสาน กรุงเทพฯ จึงรุดตรวจสอบ พร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่ ปภ. ใช้เรือลากศพชายลอยคว่ำหน้า มาผูกไว้ที่ท่าน้ำ ตรวจสอบเอกสาร พบเป็นทหาร ชั้นยศ จ่าสิบเอก อายุ 41 ปี สังกัดหนึ่งของกองทัพบก แต่งกายสุภาพ ไม่มีร่องรอยถูกทำร้ายหรือบาดแผล คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 48 ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่ส่งร่างไปตรวจละเอียดที่นิติเวช รพ.ศิริราช พร้อมเร่งติดตามญาติเพื่อนำร่างกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตยังอยู่ระหว่างการสอบสวน
>> "สมศักดิ์" สั่ง กรมอนามัย-ควบคุมโรค ส่ง N95 ให้ทหารชายแดน แก้ปัญหากลิ่นศพ
11.36 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศพทหารกัมพูชา ที่ส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง โดยเฉพาะบริเวณชายแดนพื้นที่ภูมะเขือ ว่า ตนได้สั่งการกรมอนามัย กรมควบคุมโรค เข้าไปดูแล ซึ่งปัญหาเรื่องกลิ่นมีวิธีป้องกันด้วยหน้ากากอนามัย N95 ซึ่งได้มอบให้เจ้าหน้าที่และผู้อพยพ โดยปฎิกิริยาทางเคมี 2 ชนิดที่เกิดขึ้นกับเรื่องของศพ "ส่งผลให้เกิดกลิ่นเหม็น แต่ไม่ได้ทำให้ติดเชื้อโรคแต่อย่างใด" เพียงแต่จะวิงเวียนศีรษะ ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา สำหรับคนที่แพ้กลิ่นพวกนี้ การใช้หน้ากากN95 หรือใช้น้ำยาสเปรย์ ก็อาจช่วยให้ดีขึ้น ไม่มีอะไรน่ากังวล
"ส่วนการเข้าไปแก้ปัญหาฝั่งกัมพูชาคงทำไม่ได้ เพราะอาจมีกับระเบิดหรืออะไรต่างๆ แต่ถ้าเป็นเรื่องข้อมูลวิชาการก็ส่งผ่านกระทรวงกลาโหมไปได้ ทั้งนี้ ในส่วนของโรคระบาดอื่นๆ ที่จะตามมานั้น ถ้าเป็นทหารเป็นคนที่แข็งแรง ก็ไม่มีเชื้ออะไรที่น่ากลัวมากมายตามที่กรมอนามัยได้แจ้งให้ทราบ"
>> ตำรวจนครนายก บุกทลายปาร์ตี้มั่วยากลางพูลวิลล่า
12.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร จ.นครนายก บุกทลายปาร์ตี้มั่วยากลางพูลวิลล่า ภายใต้นโยบายปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาดของ พล.ต.ต.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.นครนายก เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.สส.ภ.จว.นครนายก ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพูลวิลล่าแห่งหนึ่งใน ต.สาริกา อ.เมืองนครนายก หลังรับแจ้งเบาะแสจากสายลับว่ามีกลุ่มวัยรุ่นมั่วสุมเสพยาเสพติดและเปิดเพลงเสียงดัง
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบกลุ่มวัยรุ่น 5 คน กำลังจัดปาร์ตี้อย่างครึกครื้น เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัวและทำการตรวจค้น พบของกลางเป็นยาเสพติดและสิ่งของผิดกฎหมายจำนวนมาก ประกอบด้วย ยาเสพติดประเภท 2 (คีตามีน) 13.65 กรัม, บุหรี่ไฟฟ้า 4 อัน, รถยนต์ 2 คัน และ รถจักรยานยนต์ 1 คัน
ผู้ต้องหาทั้งหมด 5 ราย รับสารภาพว่าได้ร่วมกันเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) และมีการครอบครองยาเสพติดผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครนายก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
>> ครม. เคาะจ่ายเยียวยาผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา ทหาร 10 ล้าน ประชาชน 8 ล้าน
12.45 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงวาระสำคัญของรัฐบาล “ก้าวผ่านสองวิกฤต เดินหน้าไปด้วยกัน” โดยระบุว่า
"ในห้วงเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ก้าวผ่านสถานการณ์สำคัญ 2 ประการ ที่ท้าทายและส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพด้านความมั่นคง และเศรษฐกิจของประเทศ เราเผชิญกับสถานการณ์ความรุนแรงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา นับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2568 ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยได้อดทนอดกลั้นต่อการยั่วยุ การนำเสนอข่าวปลอมที่ทำลายความไว้วางใจทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ ที่สำคัญ รัฐบาลยึดมั่นในการเลือกใช้แนวทางสันติวิธีภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ และตามหลักมนุษยธรรมมาโดยตลอด พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่าน เราชาวไทยมีเอกลักษณ์ที่สืบทอดกันมา คือ ความเป็นคนที่รักสงบ อยู่ร่วมกันบนพื้นฐานของความเข้าใจในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่มีต่อกันและกัน แต่เมื่อเกิดความขัดแย้งที่นำไปสู่การสูญเสียของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ด้วยปฏิบัติการที่ไร้มนุษยธรรม
รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินมาตรการตอบโต้ในทันที ทั้งทางการทหาร การข่าว และการต่างประเทศอย่างรอบด้าน และเด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตย และชีวิตของประชาชนในชาติ และทำให้สถานการณ์กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้เหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนได้สิ้นสุดลงแล้วเบื้องต้น และได้เริ่มเข้าสู่การเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหานี้ร่วมกันผ่านการประชุม GBC ตามหลักสันติวิธี ซึ่งประเทศไทยของเราได้ยึดมั่นมาโดยตลอด
รัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัวทุก ๆ ครอบครัว และพี่น้องประชาชนทุกท่านในจังหวัดชายแดนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ ซึ่งแม้ว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้น "จ่ายเงินเยียวยา ทหารเสียชีวิต 10 ล้าน ประชาชน 8 ล้าน" จะประเมินเป็นมูลค่ามิได้ แต่รัฐบาลจะขอผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน เพื่อชดเชยความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และรายได้ของพี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้รับผลกระทบ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวทหารและข้าราชการที่เสียชีวิต รวมรายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รวมรายละ 8 ล้านบาท
>> กฟภ. เข้าตัด-เก็บสายไฟ ที่เชื่อมต่อส่งไปปอยเปต กัมพูชา
13.00 น. บริเวณหน้าด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จังหวัดสระแก้ว สาขาอรัญประเทศ
นายทวีศักดิ์ เกิดทรัพย์ ผู้จัดการ กฟภ.สาขาอรัญประเทศ ได้นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการและเจ้าหน้าที่ กฟภ. เข้าดำเนินการตัดสายส่งไฟฟ้า ที่บริเวณหน้าด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ใกล้กับสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ติดกับอาคารด่าน ตม.อรัญประเทศ บริเวณศาลประตูชัย ซึ่งมีการวางสายส่งไฟฟ้าแรงสูงข้ามไปฝั่งปอยเปต จ.บันเตียนเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ก่อนหน้านี้ทางการกัมพูชาฝั่งปอยเปต ได้เข้าดำเนินการตัดวงจรสายส่งไฟฟ้าดังกล่าวบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ฝั่งปอยเปต ในช่วงที่ประเทศกัมพูชาประกาศงดการพึ่งพิงพลังงานจากประเทศไทย ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาไฟตกในพื้นที่เมืองปอยเปตระยะหนึ่ง ทำให้บริษัทเอกชนหรือบ่อนคาสิโนหลายแห่ง ต้องหันไปใช้เครื่องปั่นไฟแทนระยะหนึ่ง ซึ่งหลังทางรัฐบาลไทยมีนโยบายยกเลิกสัญญาการขายไฟฟ้าให้กับประเทศกัมพูชา จึงมีแผนตัดสายส่งที่มีการตัดทำสัญญาไว้กับหน่วยงานประเทศกัมพูชา
ล่าสุด เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า สาขาอรัญประเทศ ได้เข้าดำเนินการเก็บสายอุปกรณ์เชื่อมต่อไฟฟ้าไปยังกัมพูชา ทั้งหมด รวมทั้งตู้วัดมิเตอร์ไฟฟ้า อุปกรณ์สายส่ง ถูกถอนออกไปทั้งหมด เหลือเพียงสายไฟเปลือยเปล่าเท่านั้น ไม่สามารถส่งไฟฟ้าข้ามไปยังกัมพูชาได้อีกต่อไป
ผู้จัดการ กฟภ. สาขาอรัญประเทศ กล่าวว่า การตัดไฟดังกล่าวเริ่มต้นจากฝั่งกัมพูชาตัดก่อน และรัฐบาลมีนโยบายตัดไฟชายแดนไทย-กัมพูชาทั้งหมด จึงนำเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการจัดเก็บออกมาทั้งหมด
>> ครม.ไฟเขียว ซื้อเครื่องบินกริพเพน 1 ฝูงบิน 4 เครื่อง และเรือดำน้ำ เสริมความแข็งแกร่ง ปกป้องอธิปไตยไทย
13.16 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในการจัดซื้อเครื่องบินกริพเพน 1 ฝูงบิน จำนวน 4 เครื่อง พร้อมกับเรือดำน้ำ ตามที่กองทัพอากาศและกองทัพเรือเสนอ
สำหรับโครงการจัดซื้อซื้อเครื่องบินขับไล่แบบ Saab JAS 39 Gripen หรือ กริพเพน รุ่น E และ F จากประเทศสวีเดน ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง มูลค่า 19,500 ล้านบาท ตามที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นำเสนอตามความต้องการของกองทัพอากาศ(ทอ.) ภายหลังจัดทำรายละเอียดทุกขั้นตอนการจัดซื้อทั้ง 3 เฟสเสร็จ
ทั้งนี้ มีรายงานว่า โครงการจัดซื้อเครื่องบินกริพเพนมีกำหนดการเข้าครม.ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่ติดปัญหาเรื่องเอกสารจึงขยับมาเข้าวันที่ 5 ส.ค.นี้เพื่อขออนุมัติ
สำหรับ รูปแบบการจัดซื้อเครื่องบินเป็นการซื้อผ่านรัฐบาลสวีเดน หรือ จีทูจี โครงการฯ แบ่งเป็น 3 ระยะ ในกรอบระยะเวลา 10 ปี (ภายในปี 2578) ระยะที่ 1 จำนวน 4 ลำ มูลค่า 19,500 ล้านบาท ส่งมอบภายในปี 2572 (4 ปี)
>> ไฟไหม้บ้านพักครู วอด 4 หลัง ลุกลามบ้านเรือนประชาชนอีก 2 หลัง เบื้องต้นคาดไฟฟ้าลัดวงจร
14.43 น. สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านพักครูของโรงเรียนแห่งหนึ่ง อยู่ติดกับ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านปรก และที่พักสายตรวจตำบลบ้านปรก พื้นที่ ม.6 ต.บ้านปรก อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม
ที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นอาคารไม้ 2 ชั้น ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เจ้าหน้าที่ต้องทำงานแข่งกับเวลา เพราะเปลวเพลิงเริ่มลุกลามไปติดบ้านใกล้เคียง กระทั่งใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่เพลิงก็เผาผลาญบ้านพักครูวอด 4 หลัง และบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายอีก 2 หลัง นอกจากนี้ยังมี รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ ฮอนด้า HR-V ทะเบียน กทม. และรถจักรยานยนต์ ไม่ทราบยี่ห้ออีก 1 คัน ได้รับความเสียหาย เช่นกัน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บ้านพักเพราะออกไปทำงานกันหมด จึงสันนิษฐานว่าสาเหตุอาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง และจะหาแนวทางช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยต่อไป ส่วนมูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้
>> “วราวุธ” กำชับ เยียวยาจิตใจกลุ่มเปราะบาง ในศูนย์พักพิงชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมฟื้นฟูอาชีพ หนุน ครอบครัวผู้สูญเสียให้ก้าวต่อไปได้
14.54 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ให้สัมภาษณ์กรณีมีผู้อพยพจบชีวิตเนื่องจากภาวะเครียดที่ต้องอพยพออกจากบ้าน ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิตระบุจะได้เงินเยียวยาจากเทศบาลตำบลตามหลักเกณฑ์ เพียง 6,000 บาท ว่า ศูนย์พักพิงชั่วคราวมีแรงกดดันสูง ทั้งสภาพความเป็นอยู่ และสภาพจิตใจ
ทั้งนี้ กระทรวง พม. มีงบประมาณในการเยียวยาสภาพจิตใจ รวมทั้งเรื่องการส่งทีมสหวิชาชีพเข้าไปพูดคุยกับผู้เสียหาย หรือครอบครัวของผู้เสียหาย เป็นสิ่งที่เราทำกันมาโดยตลอด และต้องทำความเข้าใจว่า พี่น้องประชาชนที่อยู่ในศูนย์ฯ มีจำนวนมาก เป็นหมื่นคน ซึ่งเจ้าหน้าที่ของกระทรวง พม. ตั้งใจทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมง โดยร่วมกับกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข และอีกหลายหน่วยงาน
ดังนั้น การเยียวยาสภาพจิตใจ ที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การพูดคุยให้กำลังใจ และดูว่ากลุ่มของครอบครัวบุคคลที่เหลืออยู่มีสภาพจิตใจเป็นอย่างไร และจะต้องเยียวยาอย่างไร โดยเฉพาะเรื่องอาชีพ และเรื่องเงิน ซึ่งทุกคนย่อมต้องการได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา เมื่อสถานการณ์สิ้นสุดแล้ว สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้น คือการฟื้นฟูอาชีพ จะต้องทำให้ครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิต สามารถเดินหน้าต่อไปได้ นี่คือสิ่งที่ทีมสหวิชาชีพของกระทรวง พม. เรายังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
>> ไฟฟ้าลัดวงจรภายในบ้าน ซอยพหลโยธิน 52 อาสาสมัครใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ
16.42 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุไฟฟ้าลัดวงจร สถานที่เกิดเหตุ ภายในซอยพหลโยธิน 52 แยก 3 ถนนพหลโยธิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์คอนกรีต 2 ใช้เป็นที่พักอาศัย ชั้นต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้นล่าง (ภายในห้องน้ำ) เพลิงลุกไหม้เสียหายเฉพาะอ่างล้างหน้าและกระจก ไม่ส่งผลกระทบต่อตัวอาคาร อาสาสมัครใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงทำการระบายควัน
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากการจุดเทียนทิ้งไว้ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยสายไหม
>> "อ.บ่อไร่" จ.ตราด จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว "สกัดโดรน" ลาดตระเวนเข้มพื้นที่ ตำบลนนทรีย์
19.00 น. นายสุเมธ ตะเพียนทอง นายอำเภอบ่อไร่ สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงอำเภอบ่อไร่ นำกำลังเจ้าหน้าที่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนบ่อไร่ที่ 7 บูรณาการร่วมกับชุดปฏิบัติการที่ 21 พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอาสาสมัครรักษาความสงบหมู่บ้าน (ชรบ.) ตำบลนนทรีย์ ออกปฏิบัติการสอดส่องเฝ้าระวังอากาศยานไร้คนขับ (Drone) ในพื้นที่
หลังได้รับรายงานว่ามีอากาศยานไร้คนขับ บินเข้ามาในหลายพื้นที่จังหวัดตราด อำเภอบ่อไร่ จึงได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วออกลาดตระเวนทุกหมู่บ้านในตำบลนนทรีย์อย่างเข้มงวด เพื่อเฝ้าระวังและสกัดกั้นอากาศยานไร้คนขับที่บินเข้ามาในพื้นที่ ลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงและสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนในเขตอำเภอบ่อไร่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม หากผู้ใดพบเห็นอากาศยานไร้คนขับ (โดรน)สามารถแจ้งเจ้าหน้าที กำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้ทันที
>> ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชาเข้ามาตัดรั้วลวดหนาม “ช่องอานม้า” เป็นความจริง และได้ผลักดันออกไปแล้ว
19.20 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากที่มีการนำเสนอภาพทหารกัมพูชาได้มารื้อลวดหนามหีบเพลงบริเวณช่องอานม้าที่ทางทหารไทยได้ล้อมไว้นั้น ยืนยันว่าเป็นความจริง โดยเหตุเกิดในช่วงเวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ทหารได้ตรวจพบ ทหารกัมพูชาจำนวน 5 นาย เข้ามาตัดลวดหนามหีบเพลง ในบริเวณตลาดช่องอานม้า ที่ฝ่ายไทยได้กางไว้ เพื่อเป็นแนวเขต จำนวน 2 แถวลวดหีบเพลง
จากนั้น เจ้าหน้าที่กองร้อยทหารพรานที่ 2310 (ร้อย.ทพ.2310) ได้สั่งให้ยุติและให้ ทหารกัมพูชาจึงได้ถอยออกจากพื้นที่ดังกล่าว ต่อมา จนท.ร้อย.ทพ.2310 ได้เข้าไปกางลวดหีบเพลง ให้เข้าสู่สภาพเดิม ส่วนทหารกัมพูชาได้ออกจากพื้นที่ดังกล่าวไปแล้ว และฝ่ายเรายังคงตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการแดนไกล เหตุการณ์ทั่วไปปกติ
>> รถกระบะเฉี่ยวชนคนกลางถนน สาวนิรนาม บาดเจ็บสาหัส ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
20.50 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิมิราเคิล ออฟไลฟ์ (ขุนรัตนาวุธ) มีอุบัติเหตุรถกระบะชนคนข้ามถนน และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บนถนนเส้นทางพระแท่น - ท่ามะกา บริเวณทางเข้าบ้านหนองงู ม.11 ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ มิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว จอดอยู่ในสภาพหน้ารถพังเสียหาย ห่างออกไปบนเกาะกลางถนน พบร่างของผู้บาดเจ็บ 1 ราย มีอาการสาหัส ทางอาสาสมัครเร่งช่วยเหลือด้วยการปั๊มหัวใจ แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเป็นผู้หญิง อายุประมาณ 20 - 25 ปี ยังไม่พบเอกสารติดตัว ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่ามะกา
>> หนุ่มขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักชนเสาไฟฟ้า เสียชีวิตริมถนนหมายเลข 21 จ.เพชรบูรณ์
21.00 น. รับแจ้งจาก อาสากู้ภัยกกไทร ศรีเทพ มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ชนเสาไฟ และมีผู้เสียชีวิต บนถนนหมายเลข 21 ใกล้เคียงวัดศรีเทพ อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีดำ ป้ายทะเบียน 4191ล้มคว่ำอยู่ข้างเสาไฟฟ้าสภาพรถพังเสียหาย ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 35 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีเทพ
>> ไฟไหม้บนโรงแรมเก่าแก่กลางเมือง จนท.พร้อมรถดับเพลิงระดมฉีดน้ำป้องกันการลุกลาม จ.สระบุรี
22.30 น. รับแจ้งจาก อาสากู้ภัยสว่างรัตนตรัย เกิดเหตุเพลิงไหม้ โรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสระบุรี จ.สระบุรี
ที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ประกอบกิจการโรงแรม บริเวณชั้นล่าง เปิดบริการตู้ซักผ้า ส่วนด้านบนเป็นที่พัก พบเพลิงไหม้อยู่บนชั้นที่ 2 เจ้าหน้าที่พร้อมด้วยดับเพลิงเทศบาลเมืองสระบุรี อาสากู้ภัยสว่างรัตนฯ อาสาบรรเทาเทพนิมิตร เร่งใช้หัวฉีดน้ำช่วยควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายทั้งชั้น ขณะเกิดเหตุยังไม่พบผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสระบุรี
>> แผ่นดินไหว ที่เมียนมา
01.18 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 2.8 ความลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศเหนือของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 158 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย