“ประชาชน“ ไม่กังวล หลัง ”กัน จอมพลัง“ ยุติเปิดเครื่องเสียง ถาม นักสิทธิมนุษยชน ตอนทหารได้รับบาดเจ็บขาขาด
“ประชาชน“ ไม่กังวล หลัง ”กัน จอมพลัง“ ยุติเปิดเครื่องเสียง ถาม นักสิทธิมนุษยชน ตอนทหารได้รับบาดเจ็บขาขาด ไปมุดรูอยู่ไหน ขอ ประชาชนเชื่อมือกองทัพ-จนท.ที่เกี่ยวข้อง ยัน ทุกคนทำงานเต็มที่
วันที่ 14 ต.ค. 68 ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ความเคลื่อนไหวเช้านี้ที่บ้านหนองจานพบว่าฝนตกหนักทั้งวัน ตั้งแต่ช่วงเช้าไม่มีท่าทีจะหยุดตก และบรรยากาศเงียบเหงากว่าทุกวัน เนื่องจากฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ขณะนี้ยังไม่พบกลุ่มมวลชน เข้ามาในพื้นที่ มีเพียงแค่ร้านอาหารไม่กี่ร้าน ที่เข้ามาเป็นประจำอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามชาวบ้านที่เข้ามาจับตาการอพยพของขาวกัมพูชาออกจากพื้นที่บ้านหหนองจานและทำอาหารแจกจ่ายให้กับทหาร ในประเด็นเรื่องของ กัน จอมพลัง ประกาศยุติการนำรถแห่เข้าไปในพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว โดย นางศิริพร ทิพยสุข ชาวบ้านจากปราจีน กล่าวว่า ตนเดินทางมาจากจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งได้อยู่ในพื้นที่มานานและจับตาดูอยู่ทุกวัน ตอนนี้ตนไม่ได้คิดอะไรมากมาย รู้แค่ว่าเจ้าหน้าที่ ทั้งแม่ทัพภาคที่หนึ่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ทำงานจริง และมีกระบวนการขั้นตอนอยู่แล้ว ตนจึงไม่ได้หนักใจ
ซึ่งตอนแรกก็ยอมรับว่าไม่เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ มีการต่อว่าเจ้าหน้าที่ไปบ้าง เพราะมีการทำงานแบบไม่ทันใจ แต่พอเราอยู่ในพื้นที่นาน เรารู้ว่าหน่วยงานทำงานกันจริง ซึ่งการถอนรถแห่ออกไปนั้นเราไม่ได้กังวล นอกจากนี้ตนยังมีความเชื่อมั่นในทีมของ กัน จอมพลัง และเชื่อมั่นในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วย
ส่วนกระแสที่นักสิทธิมนุษยชนออกมาพูดถึงการทำงานของ กัน จอมพลัง นั้น นางศิริพร มองว่าอยากให้นักสิทธิมนุษยชนมานั่งดูในพื้นที่บ้างว่าเป็นอย่างไร
“จึงอยากถามย้อนกลับว่า ทีฝั่งของประเทศกัมพูชา ยังมาทำร้ายประชาชน ทั้งในเรื่องของการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล จนทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บขาขาด แล้วทำไมนักสิทธิมนุษยชนถึงไม่ออกมาบ้าง ไปมุดรูอยู่ไหน”นางศิริพร กล่าว
ส่วนตัวไม่ได้อยากให้เขาช่วยเหลือ แต่ขอให้ออกมาแหกตาดูหน่อยว่าในพื้นที่เขาทำงานกันอย่างไร ทำงานเพื่อปกป้องประเทศชาติอย่างไร วันๆนั่งอยู่ในห้องแอร์ แต่กลับมาขัดขวางการทำงาน ถ้าไม่มาทำก็อยู่เฉยๆ
นางศิริพร กล่าวว่า สรุปถ้าแน่จริงอยากให้นักสิทธิมนุษชนเหล่านี้มาอยู่ในพื้นที่กับเราสักสองคืน ให้มาดูว่า กัน จอมพลัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนทำงานกันอย่างไร คนในพื้นที่มีความยากลำบากขนาดไหน จะได้รู้ว่าคนรักชาติรักแผ่นดินเป็นอย่างไร ไม่ใช่รักแต่กัมพูชา ซึ่งถ้าหากว่ารักและใส่ใจก็ให้ไปอยู่ประเทศกัมพูชาได้เลย เราอยู่ในพื้นที่เราเห็นการทำงานจริงๆและพวก สว. ก็ไม่ได้มีอิทธิพลกับเรา
นายอุดมธานี ผาเจริญ ชาวบ้านอรัญประเทศ กล่าวเสริมว่า การเปิดเครื่องเสียงได้มีการเปิดในพื้นที่ประเทศไทย จะไปเดือดร้อนถึงใครและทำไมถึงเปิดไม่ได้ ส่วนการจะผลักดันอะไรเพิ่มเติมหรือไม่นั้นก็ขอให้เป็นยุทธวิธีทางทหาร ซึ่งพวกตนก็พร้อมให้กำลังใจและมั่นในกองทัพเสมอ
ส่วนในเรื่องของการใช้เสียงที่อาจจะไปผิดหลักข้อตกลงจะมีความคิดเห็นอย่างไร นางศิริพร มองว่า จริงๆก็ผิด แต่ก็ต้องดูด้วยว่า สว. และนักสิทธิมนุษยชนที่พูดนั้นก็พูดถูก แต่ต้องดูเวลาด้วยว่าควรพูดเวลาไหน จึงอยากจะถามกลับว่าการไปเปิดเครื่องเสียงจะทำให้ใครตาย ซึ่งตนและประชาชนก็อยากจะเผื่อแผ่ให้กับเพื่อนบ้านที่ไม่มีงบประมาณได้ฟัง จะได้ขยายข้อมูลความรู้ให้กับชาวบ้านกัมพูชา ว่าพ่อแม่ของคุณเกิดที่ไหน จะได้รู้ว่าการที่คุณเกิดแผ่นดินไทยแล้วมาเนรคุณ ในแผ่นดินจะได้รู้ประวัติความเป็นมาอะไรที่ไม่เคยเห็นจะได้เห็นอย่างเช่น ผีกระสือก็จะได้เห็น อะไรไม่เคยรู้ก็จะได้รู้
ในส่วนของภาคประชาชนอยากจะฝากอะไรให้ประชาชนได้รับทราบถึงขั้นตอนการทำงานของกองทัพในขณะนี้บ้าง นางศิริพร กล่าวว่า เราเป็นประชาชนตอนนี้ไม่ต้องไปรับรู้หรอกว่าทางกองทัพทำอะไรเพราะเป็นยุทธวิธีทางทหาร ส่วนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ก็ให้กำลังใจทหารอย่างเต็มที่ ขอแค่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพูดกับประชาชนว่าได้มีการลงพื้นที่จริง และเห็นแล้วว่าจะไม่ยอมเสียอธิปไตยไปให้ใคร ซึ่งตนเชื่อว่าทางกองทัพทำได้ ในส่วนของภาคประชาชนได้แค่ส่งกำลังใจและจะไม่สร้างปัญหา เชื่อฟังว่าเราอยู่ในเขตไหนได้บ้าง ดูแลในเรื่องของอาหารการกินให้กับเจ้าหน้าที่ รวมถึงมวลชนที่เข้ามาติดตามสถานการณ์ รวมถึงอธิบายสถานการณ์ให้กับประชาชนที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เข้าใจได้ดีขึ้น