24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 3 สิงหาคม 2568
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 3 สิงหาคม 2568
>> ตร.พังงา ทลายเครือข่ายยาบ้าในพื้นที่ รวบ 3 ผู้ต้องหา ของกลางเกือบแสนเม็ด ขนมาจากภาคเหนือนำมาเก็บไว้ในพื้นที่ ท้ายเหมืองก่อนกระจายให้ลูกค้า
08.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดพังงา สนธิกำลังร่วมฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วทุ่ง จับกุมเครือข่ายลำเลียงยาเสพติดข้ามภาค ได้ที่บริเวณริมถนนสายพังงา - ภูเก็ต หมู่ที่ 1 ตำบลกะไหล อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา โดยผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นางเอ, น.ส.บี และ นายซี (นามสมมุติ) พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 97,500 เม็ด
โดยตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ว่า จะมีการนำยาเสพติดจากพื้นที่ จ.เชียงราย มาจำหน่ายให้กับผู้ค้าในพื้นที่ จ.พังงา โดยมี นายซี ทำหน้าที่เก็บและนำยาเสพติดมาจำหน่าย ส่วน นางเอ และ นส.บี ทำหน้าที่ลำเลียงยาเสพติดมาจากทางภาคเหนือ
ภายหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลในทางสืบสวน และนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ตะกั่วทุ่ง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
>> จับตาประชุมร่วมผู้ว่าฯ ภาคอีสาน 20 จังหวัด กำชับมาตรการเข้มกำจัดโดรน จัดชุดลาดตระเวน
10.51 น. พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า วานนี้ (2 ส.ค.) มีการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 20 จังหวัดในภาคอีสาน ผ่านระบบ VTC เรื่องมาตรการกำจัดโดรน โดยให้ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดในฐานะ ผอ.กอ.รมน.จังหวัด ให้แต่ละหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและภาคเอกชน ประชาชน จัดหาเครื่องแอนตีโดรน ป้องกันจังหวัดของตัวเอง
โดยเฉพาะเพ่งเล็งในพื้นที่สำคัญ อาทิ ศาลากลางจังหวัด สนามกีฬา คลังอาวุธ สถานีตำรวจ สถานีขนส่ง และสนามบิน ตลอดจนให้จัดชุดลาดตระเวนพิสูจน์ทราบบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ หากสามารถควบคุมตัวได้ให้ดำเนินคดีตามข้อกฏหมายให้ถึงที่สุด ในทุกประเด็น เช่น ก่อการร้าย ไส้ศึก โดยโทษหนักสุดถึงขั้นประหารชีวิต
ในที่ประชุมได้กำชับ ห้ามปล่อยตัวง่าย ๆ ต้องตรวจสอบไปถึงต้นตอ คนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งคาดว่าน่าจะมีมือที่สาม ที่ได้รับผลกระทบมาจากการปราบปราม แก๊งคอลเซนเตอร์ บ่อนการพนัน ประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อมาข่มขู่ ซึ่งเป็นไปได้ทั้งหมด หากพบว่าเป็นคนต่างชาติ ให้ดำเนินคดีถึงที่สุดในไทยก่อน หลังสิ้นสุดคดีให้เนรเทศ ขึ้นแบล็กลิสต์ ไม่ให้สามารถเข้าประเทศไทยได้อีก
พล.ท.บุญสิน ยังกล่าวถึงสถานการณ์ในภาพรวมชายแดนไทยกัมพูชา หลังทหารกัมพูชามีการเพิ่มเติมกำลังต่อเนื่องว่า กำลังฝ่ายไทยมีความเตรียมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง
>> "จิรายุ" ยันไทยไม่ใช้โดรนรุกล้ำประเทศอื่น เพราะล้าสมัยแล้ว ขอกัมพูชาเลิกบิดเบือนข้อมูล
12.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยขอเตือนกองกำลังของกัมพูชาที่ใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน บินเข้ามาในอาณาเขตอธิปไตยของประเทศไทย จะดำเนินการทำลายทันทีเมื่อรุกล้ำอธิปไตย
รัฐบาลไทย ยกระดับมาตรการแอนตี้โดรนอย่างเป็นรูปธรรม โดยเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้ง 20 จังหวัด ผ่านระบบ VTC เพื่อกำชับมาตรการป้องกันและควบคุมการใช้โดรนในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณศาลากลางจังหวัด คลังอาวุธ สถานีขนส่ง สถานีตำรวจ สนามกีฬา และสนามบิน ทั้ง สำนักการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ยังได้ออกประกาศ ห้ามบินโดนทั่วประเทศ ด้วย ไทย ดำเนินการแอนตี้โดรน จัดตั้งชุดลาดตระเวนเพื่อตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย รวมถึงดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด หากพบพฤติการณ์ที่เข้าข่ายก่อการร้ายหรือเป็นสายลับ ซึ่งมีโทษร้ายแรงถึงขั้นประหารชีวิต
กรณี พลโท มาลี โฆษกกลาโหมกัมพูชา ออกมาเบี่ยงเบน กล่าวหาว่าไทยมีการส่งอากาศยานไร้คนขับ หรือ “โดรน” ล่วงล้ำน่านฟ้ากัมพูชา นั้น ยืนยันว่าประเทศไทยดำเนินมาตรการควบคุมการใช้โดรนอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดน และไม่มีนโยบายใช้โดรนเพื่อรุกล้ำอธิปไตยของประเทศเพื่อนบ้าน อีกทั้งเทคโนโลยีสมัยใหม่ไม่จำเป็นต้องไปใช้โดรนเหมือนเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วอย่างแน่นอน ไทยดำเนินการทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง และมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะรักษาความสงบเรียบร้อยโดยเคารพอธิปไตยของทุกประเทศ พร้อมกันนี้ ประเทศไทย ได้ตรวจพบกระสุนปืนใหญ่ วัตถุระเบิดและPM 21 จำนวนมากในพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งหน่วยเก็บกู้ระเบิดดำเนินการทำลายล้างเพื่อความปลอดภัย โดยแจ้งล่วงหน้าต่อฝ่ายกัมพูชาในกรณีการทำลายวัตถุระเบิดในพื้นที่ยอดภูเขือ เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิดทุกครั้ง
ทั้งนี้ รัฐบาลไทยขอเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาแสดงความจริงใจในการสื่อสารระหว่างกัน หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลที่บิดเบือนต่อสื่อหรือประชาคมโลก และร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ในการคลี่คลายสถานการณ์ชายแดน เพื่อประโยชน์ร่วมกันของประชาชนทั้งสองประเทศ
>> กองกำลังผาเมือง ปะทะกลุ่มค้ายาเสพติด ยึดยาเสพติดและวิสามัญฯ คนร้ายหลายราย
13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน จากกรณี กองร้อยทหารม้าที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวในพื้นที่ ว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากแนวชายแดนโดยใช้ช่องทางธรรมชาติเข้ามาในพื้นที่ หน่วยจึงจัดกำลัง กองร้อยทหารม้าที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ จำนวน 2 ชุดปฏิบัติการ ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันและสกัดกั้นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติด บริเวณเส้นทางพระธาตุดอยอ่างขาง และเส้นทางแยกบ้านหลวง ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568
วันนี้ พันเอก อำนาจ วชิรศักดิ์โสภานะ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ เป็นผู้แทน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ เพื่อตรวจสอบการตรวจยึดยาเสพติดดังกล่าว สรุปผลการสกัดกั้นยาเสพติด ในห้วงตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงปัจจุบัน หน่วยสามารถสกัดกั้นยาเสพติดได้ 360 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหาได้ 381 คน ตรวจยึดยาบ้าได้ 153,702,011 เม็ด, เฮโรอีน 145.8 กิโลกรัม, ไอซ์ 8,192 กิโลกรัม, ฝิ่น 93.5 กก. และ คีตามีน 696 กิโลกรัม
จากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ จำนวน 49 ครั้ง กลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 33 ศพ ซึ่งหากยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ดังกล่าว ถูกลำเลียงเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานคร จะสร้างความเสียหาย ทางเศรษฐกิจจากมูลค่าของยาเสพติดที่จำหน่ายถึง 32,093 ล้านบาท (32,093,428,650 บาท)
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้นำของกลางส่งให้กับสถานีตำรวจภูธรฝาง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
>> "ธีรรัตน์" มอบเงินกองทุนฯ ผู้ได้รับผลกระทบ บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา กรณีทุพพลภาพ
13.30 น. นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มอบเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นเงิน 700,000 บาท ให้กับนายปอด ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา กรณีทุพพลภาพ ตามที่คณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีมติอนุมัติในหลักการให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อ.เมืองอุบลราชธานี จ.อุบลราชธานี
นางสาวธีรรัตน์ ได้กล่าวให้กำลังใจผู้ประสบภัยและครอบครัวถึงความห่วงใยของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมให้คำมั่นว่า รัฐบาลจะได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ให้ความช่วยเหลือเยียวยาและดูแลคุณภาพชีวิตผู้ได้รับผลกระทบและครอบครัวทั้งด้านความเป็นอยู่และสภาพจิตใจด้วยความต่อเนื่องอย่างดีที่สุด
>> หนุ่มใหญ่ขับเก๋ง เกิดวูบหลับใน รถเสียหลักชนเสาตอม่อทางด่วน ริมถนนเทพรัตน บาดเจ็บทั้งคัน
14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปะกง รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถนั่งส่วนบุคคลชนตอม่อทางด่วน ถนนเทพรัตน (บางนา ตราด) ฝั่งขาเข้า กทม. ช่วงหลัก กม.48 ในช่องทางหลัก ในพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล โตโยต้า โซลูน่า สีเขียว ป้ายทะเบียน ตราด ลักษณะชนกับเสาตอม่อทางพิเศษ ตรวจสอบพบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน ที่เบาะหน้าด้านซ้ายมี หญิงไทย อายุ 41 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนคนขับ เป็นชายไทย อายุ 44 ปี และผู้โดยสารที่นั่งมาด้วยที่เบาะหลังคือ หญิงไทย อายุ 29 ปี และ ชายไทย อายุ 26 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
สาเหตุเบื้องต้น คนขับเกิดอาการวูบหลับใน ก่อนที่รถจะเสียหลักลงข้างทางแล้วชนเข้ากับเสาตอม่อ
>> ตำรวจนครบาล สรุปหลังการชุมนุมวานนี้ เหตุการณ์ไม่มีความรุนแรง จับผู้ก่อกวนได้ โดยรวมปกติดี
15.46 น. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. แถลงขอขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ร่วมปฏิบัติภารกิจดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย การชุมนุมเมื่อวานนี้ ไม่มีความรุนแรงหรือเหตุร้าย โดยการชุมนุมในวันที่ 2 สิงหาคม 2568 บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถนนพหลโยธิน กรุงเทพมหานคร ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ประชุม เตรียมการ และวางแผนการรักษาความเรียบร้อยในการชุมนุมอย่างเข้มข้นในห้วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งได้นำเทคนิค แนวทางการปฏิบัติ และผลการปฏิบัติในอดีต มาปรับใช้ภายใต้กรอบของกฎหมาย เพื่อให้การชุมนุมดำเนินไปได้ ด้วยความปลอดภัย และไม่กระทบต่อประชาชนในพื้นที่หรือที่สัญจรผ่าน ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง
ความเข้มข้นในการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลทุกนายตลอดระยะเวลาการชุมนุมส่งผลให้ ภาพรวมการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตามแผนและแนวทางที่ได้วางไว้ ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น อีกทั้งสามารถป้องกันอาชญากรรมบริเวณพื้นที่การชุมนุมและรอบพื้นที่ใกล้เคียง สามารถตรวจสิ่งผิดกฎหมายได้หลายรายการ เช่น ยาเสพติด อาวุธปืน และอาวุธมีด รวมถึงจับกุมบุคคลตามหมายจับและบุคคลเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายหลายราย ซึ่งเป็นมาตรการที่บังคับใช้เพื่อความสงบเรียบร้อยของการชุมนุมและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนโดยรวม การปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นมาตรฐานในการรับมือกับการชุมนุม และสถานการณ์ต่างๆ ของกำลังพลสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้อย่างดี แสดงถึงความพร้อมในการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและปลอดภัยให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่อาศัย และเดินทางมาในกรุงเทพมหานคร
พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ขอแสดงความชื่นชม และขอบคุณข้าราชการตำรวจทุกนายที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความอดทน สุภาพ รอบคอบ และยึดหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาความปลอดภัยของประชาชนทุกฝ่าย สะท้อนให้เห็นถึงความเสียสละ ความมีวินัย และจิตสำนึกในหน้าที่ของตำรวจไทยในการธำรงไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมือง ภายใต้กรอบของกฎหมายและสิทธิเสรีภาพของประชาชน และขอขอบคุณในความมุ่งมั่นและความทุ่มเทของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนาย และขอส่งกำลังใจไปยังผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกพื้นที่ ขอให้ทุกท่านปฏิบัติหน้าที่ด้วยความปลอดภัย และรักษาขวัญกำลังใจอันเข้มแข็ง เพื่อปฏิบัติภารกิจเพื่อประชาชนต่อไป
>> เพลิงลุกไหม้ห้องเก็บของ ย่านซอยลาดพร้าว 107 เสียหายวอดทั้งห้อง
15.57 น สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ซอยลาดพร้าว 107 แยก 22 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 5 ชั้น ประกอบกิจการให้เช่าพักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 1 ภายในห้องเลขที่ 102 เพลิงลุกไหม้ห้องเก็บของเสียหายทั้งหมด พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 16 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้น สาเหตุเพลิงไหม้เกิดการชาร์จแบตเตอรี่รถบังคับทิ้งไว้ ที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย (รายที่ 1) เป็นเพศชาย อายุประมาณ 25 ปี กระโดดลงมาจากชั้น 2 มีอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่และขาข้างขวา อาสามัครนำส่งโรงพยาบาลลาดพร้าว (รายที่ 2) เป็นเพศหญิง อายุประมาณ 22 ปี มีอาการสำลักควัน อาสามัครนำส่งโรงพยาบาลลาดพร้าว พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยหัวหมาก
>> หนุ่มเก็บของเก่า พบหัวกระสุนปืนแล้วนำมาแกะ เกิดระเบิดบึ้มเจ็บสาหัส เพื่อนบ้านโดนสะเก็ดเจ็บด้วย จ.ลพบุรี
18.00 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู จ.ลพบุรี ตรวจสอบเหตุระเบิดและมีผู้บาดเจ็บ จุดเกิดเหตุ ม.6 ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.ลพบุรี
ที่เกิดเหตุ ลักษณะเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว พบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย โดยเป็นชายไทย อายุ 29 ปี เจ้าของบ้าน อาชีพเก็บของเก่าขาย ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาขวาฉีกขาดจากแรงระเบิด ส่วนอีก 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 56 ปี พักอาศัยอยู่ห้องข้างเคียง ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บบริเวณขา อาสาสมัครกนำตัวส่งโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราชตามไป
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบ และ จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ชายไทยคนดังกล่าว มีอาชีพเก็บของเก่าขาย คาดว่าอาจเก็บหัวกระสุนปืนมาจากสนามซ้อมยิงปืนของทหาร แล้วนำมาแกะภายในบ้าน หวังแยกชิ้นส่วนขาย แต่เกิดพลาดจนระเบิดขึ้นและมีผู้บาดเจ็บดังกล่าว
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) เข้าตรวจสอบและเก็บกู้หัวกระสุนที่ยังหลงเหลือในพื้นที่
>> เพลิงไหม้รถยนต์ ซอยร่มเกล้า 38 เสียหายหมดทั้งคัน
19.37 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ ซอยร่มเกล้า 38 ถนนร่มเกล้า แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถตู้ สีดำ หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันเบนซินและแก๊สแอลพีจีเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งคัน รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ไม่ทราบสาเหตุเนื่องจากเพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งคัน ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยร่มเกล้า
>> หนุ่มวัย 35 ปีถูกคู่อริดักยิงดับคาสวนยางพารา เจ้าหน้าที่เร่งหาสาเหตุ เพราะไม่ใช่คนในพื้นที่
19.41 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระแสง รับแจ้งเหตุยิงกันและมีผู้เสียชีวิต ภายในสวนยางพารา หมู่ที่ 2 ต.ไทรขึง อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี
ที่เกิดเหตุ พบร่างของ นายศิริโชค อายุ 35 ปี ชาว จ.นนทบุรี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่ลำตัว ในสภาพนอนตะแคงขวาสวมเสื้อยืดแขนยาวสีแดง กางเกงขาวลายพราง สวมรองเท้าบูทสีดำ ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ของผู้ตายล้มคว่ำอยู่
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบสาเหตุว่าผู้ตายมีความขัดแย้งกับใคร หรือมีปัญหากับใครเนื่องจากขณะเกิดเหตุในพื้นที่ไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ และผู้ตายไม่ใช่คนในพื้นที่ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจะได้ติดตามญาติหรือครอบครัวของผู้ตายมาสอบปากคำ เพื่อจะได้ติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> โฆษกกองทัพบก แจงไม่มีคำสั่งอพยพชาวสุรินทร์ ปัดข่าวลือเตรียมโจมตีกัมพูชา
20.29 น. กองทัพบก ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่แพร่สะพัดบนโซเชียลมีเดีย หลังมีการอ้างว่า “สมเด็จฮุนเซน” อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แชร์โพสต์ของโฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ระบุว่ากองทัพบกไทยสั่งอพยพชาวจังหวัดสุรินทร์ภายในคืนนี้ เพื่อเตรียมเปิดฉากโจมตีกัมพูชาก่อนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC)
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงปัจจุบันในพื้นที่ไม่ได้มีการสั่งอพยพด่วนชาวสุรินทร์อย่างที่ระบุไว้ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด ที่ผ่านมา การนำเสนอข้อมูลของโฆษก กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอ ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวทางการ และไม่หลงเชื่อหรือแชร์ข้อมูลเท็จที่อาจสร้างความตื่นตระหนกในสังคม
ทั้งนี้ กองทัพบกยังคงเคารพข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดแต่ก็ได้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิดจากการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่มีแนวโน้มละเมิดข้อตกลงหยุดยิงบ่อยครั้ง รวมถึงมีการพบว่ามีการเพิ่มเติมกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้ามาในพื้นที่
>> หนุ่มขี่รถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุกน้ำ เสียชีวิตกลางถนนนครอินทร์
21.45 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถบรรทุกน้ำ และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บนถนนนครอินทร์ ฝั่งขาออก ลงสะพานข้ามคลองบางกอกน้อย ประมาณ 50 เมตร ในช่องทางหลัก พื้นที่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีเทา ป้ายทะเบียน กทม. ลักษณะชนกับ รถ 6 ล้อบรรทุกน้ำ อีซูซุ สีฟ้า-ขาว ป้ายทะเบียน นนทบุรี ใกล้กันพบร่างของผู้บาดเจ็บสาหัส อาสากู้ชีพ - กู้ภัยพยายามช่วยเหลือ แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 35 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกรวย
>> แผ่นดินไหว ขนาด 1.8 ที่ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
04.45 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 1.8 ความลึก 1 กม. ภายในพื้นที่ของ ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย (17.67°N,99.68°E) ยังไม่มีรายงานการรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน