ผนึกกำลังฝึกซ้อมรับมือสึนามิ 6 จว.อันดามัน ยกความพร้อมตามมาตรฐานสากล
วันที่ 27 มิ.ย.68 ณ หอประชุมราชประชาร่วมใจ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 36 จังหวัดภูเก็ต นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีปิดการฝึกกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ระดับส่วนกลาง) ภายใต้รหัส “Crisis Management Exercise: C-MEX 25” โดยมี นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พลโท อนุสรณ์ โออุไร แม่ทัพน้อยภาคที่ 4 กองทัพภาค 4 พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดอีก 5 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดตรัง ระนอง สตูล กระบี่ และพังงา รวมทั้งผู้แทนกรมในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนจากกงสุล 9 ประเทศ และภาคประชาชน รวมกว่า 1,000 คนร่วมชมและติดตามการฝึกซ้อมในครั้งนี้ด้วย
การฝึก C-MEX 25 จัดขึ้นโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อทดสอบความพร้อมในการบริหารจัดการสาธารณภัยในทุกระดับ ทั้งเชิงนโยบาย อำนวยการ และปฏิบัติการ ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือแบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยกิจกรรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ อาทิ การเสวนา การฝึกซ้อมอพยพ การแจ้งเตือนภัย การค้นหาและกู้ภัย การตั้งศูนย์พักพิง รวมถึงการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีสนับสนุน อาทิ เฮลิคอปเตอร์ KA-32 เรือความเร็วสูง โดรนกู้ภัย และหอเตือนภัยจำลองสถานการณ์จริง
อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระบุว่า การฝึกครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญในการยกระดับขีดความสามารถของประเทศไทยในการบริหารสถานการณ์วิกฤต โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงที่เคยประสบภัยพิบัติจากสึนามิในปี 2547 ซึ่งยังคงเป็นบทเรียนสำคัญของประเทศ
นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า “รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมด้านสาธารณภัยอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามันที่มีความเสี่ยง แม้จะไม่เกิดเหตุซ้ำบ่อยครั้ง แต่ต้องไม่ประมาท เราต้องพร้อมรับมือเสมอ”
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะสรุปบทเรียนจากการฝึกครั้งนี้ไปพัฒนาแนวทางปฏิบัติ คู่มือ และแผนเผชิญเหตุให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ พร้อมส่งเสริมให้แต่ละจังหวัดมีขีดความสามารถในการบริหารจัดการภัยพิบัติในระดับพื้นที่ได้อย่างเป็นรูปธรรม