ฮุนเซน กร้าว กัมพูชา มีอาวุธยิงได้ถึงกทม. เปิดปมลึกอัดเสียง อิ๊งค์ โว เป็นคนพา ยิ่งลักษณ์หนี
ฮุน เซน กร้าว กัมพูชา มีอาวุธยิงได้ถึง กทม. เปิดปมลึกอัดเสียง นายกฯอิ๊งค์ โว เป็นคนพา ยิ่งลักษณ์หนี
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายนKampuchea Thmey Daily รายงานว่าสมเด็จฯฮุน เซน ประธานวุฒิสภา ได้เข้าร่วมการประชุมกับสมาชิสภาเทศบาล สภาเขต และสภาเมือง 464 คน ใน จ.พระวิหาร เมื่อช่วงเช้าวันนี้ โดยได้กล่าวถึงประเทศไทยในหลายช่วงว่า ไม่เคยมองว่าประเทศไทย หรือประชาชนไทยเป็นศัตรู เพราะประชาชนไทยส่วนใหญ่ก็ต้องการสันติภาพ มิตรภาพ กับกัมพูชา แต่ก็ยังมีกลุ่มหัวรุนแรง โจมตี จึงถูกบังคับให้สู้กลับ
“ข้าพเจ้าเป็นคนมีศีลธรรม และข้าพเจ้าไม่เคยทรยศใครมาก่อน ข้าพเจ้าเคยยินดีที่จะถูกทรยศมาก่อน ตอนนี้ถึงเวลาที่พวกเขาจะทรยศข้าพเจ้าแล้ว”
สมเด็จฯฮุน เซนกล่าวถึงกรณีคลิปเสียงที่รั่วไหล กับน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯไทย โดยว่า คลิปเสียงที่หลุดออกมานั้น ไม่ใช่ความตั้งใจของตน แต่เพราะผู้นำกัมพูชาคนอื่นไม่พอใจฝ่ายไทย จึงได้ปล่อยคลิป สาเหตุก็เพราะฝ่ายไทยรุกล้ำดินแดนกัมพูชาและปิดพรมแดนฝ่ายเดียว
ส่วนเหตุผลที่บันทึกเสียงนั้น สมเด็จฯฮุน เซนอ้างว่า เพราะนายกฯไทยเคยโกงมาครั้งหนึ่ง “ข้าพเจ้าเคยถูกโกงมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงต้องบันทึกไว้” และย้ำว่า กัมพูชาพร้อมที่จะทำให้สถานการณ์ชายแดนและการค้ากับไทยเป็นปกติเพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองฝ่าย แต่ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับนายกฯของไทย
นอกจากนี้ สมเด็จฯฮุน เซนยังระบุด้วยว่า หลังจากที่มีการปรับกำลังทหารที่สามเหลี่ยมมรกตแล้วนั้น ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ และแพทองธาร ก็ได้โทรศัพท์ไปขอบคุณเขา แต่ในทางการกรุงเทพฯ กลับใช้คำว่า “กัมพูชาถอนทหารออก” ที่เป็นถ้อยคำแสดงถึงการหักหลัง และเป็นสิ่งที่ทำให้ตัดสินใจบันทึกเสียงเอาไว้
เฟรช นิวส์ ได้รายงานว่า สมเด็จฯฮุน เซนยังระบุว่า การที่นายกฯของประเทศหนึ่งพูดคุยกับชาวต่างชาติ และกลับมาโจมตีผู้บัญชาการทหารของตนเอง เพื่อเอาใจชาวต่างชาติคนนั้น ถือเป็นการกระทำที่ทรยศต่อชาติ
“เพื่อเอาใจ นายกฯไทยถึงกับด่าผู้บัญชาการทหารของตัวเอง เรื่องนี้ถือเป็นอาชญากรรมในประเทศไทยหรือไม่? แต่ในกัมพูชา นี่คืออาชญากรรมทรยศชาติ คือการสมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติเพื่อด่าผู้บัญชาการทหารของตัวเอง ในประเทศไทย เรื่องนี้อาจถือเป็นเรื่องปกติ แต่กัมพูชาไม่อนุญาตให้ใครมาด่าทอและดูหมิ่นกองทัพของตนได้” สมเด็จฯฮุน เซนกล่าว
สมเด็จฯฮุน เซนยังกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา ตนไม่เคยพูดถึงผู้บัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ของไทยเลย เว้นแต่วันนี้ เหตุผลที่ตนไม่เคยพูดถึงนายพลไทยท่านนี้ ก็เพราะตนเข้าใจถึงพันธกิจของนายพลที่ต้องปกป้องประเทศ เพราะไม่ว่าจะเป็นผู้บัญชาการกองทัพกัมพูชา หรือของประเทศใดก็ตาม จะต้องมีจุดยืนที่ไม่อาจยอมก้มหัวให้ใครได้
สมเด็จฯฮุน เซนยังบอกอีกว่า ฝ่ายไทยได้แอบเปิดเผยข้อมูลมาว่า เมื่ออำนาจของนายกฯแพทองธารแข็งแกร่งขึ้น ผู้บัญชาการกองทัพภาคที่ 2 อาจถูกตัดสินจำคุก ทั้งนี้ สมเด็จฯฮุน เซนย้ำว่า ตนไม่เคยดูหมิ่นหรือโจมตีผู้บัญชาการทหารไทยคนใดเลย และตนรู้สึกประหลาดใจมากว่า เหตุใดนายกฯไทยจึงกล้าดูหมิ่นผู้บัญชาการของตนเองเพื่อเอาใจตน ทั้งที่ตนไม่ได้ต้องการรับรู้เรื่องกิจการภายในของไทยเลย
ช่วงตอนหนึ่ง สมเด็จฯฮุน เซนยังระบุว่า เรามีสิทธิที่จะปกป้องตัวเอง และมีสิทธิที่จะต่อสู้ตอบโต้การรุกรานใดๆ ก็ตาม แม้ว่าเราจะตัวเล็ก แต่เราก็มีสิทธิที่จะปกป้องตัวเอง ไม่เพียงแต่สิทธิที่จะปกป้องตัวเองเท่านั้น แต่ยังมีสิทธิที่จะต่อสู้ตอบโต้ด้วย
“เราไม่มีเจตนาที่จะโจมตีกรุงเทพฯ แม้ว่าขีดความสามารถด้านอาวุธของเราอาจไปถึงที่นั่น แต่เราจะไม่ยิง ฉันไม่ได้คุยโวเกี่ยวกับอาวุธของเรา” สมเด็จฯฮุน เซนระบุ พร้อมเตือนว่า อย่ากดดันกัมพูชา กัมพูชาได้เตรียมไว้ทุกวิถีทาง ทั้งการทหารและอาวุธ
ขณะที่เรื่องสายสัมพันธ์ระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ถูกพูดถึง สมเด็จฯฮุน เซนยังได้เปิดเผยด้วยว่า ตนเป็นผู้ช่วยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ หนีการจับกุมในประเทศไทย ผ่านกัมพูชาไปยังสิงคโปร์ โดยใช้หนังสือเดินทางกัมพูชา ที่สมเด็จฯฮุน เซน ต้องการให้หลบหนีอย่างปลดภัย
เมื่อเดินทางไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัยแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้โทรศัพท์ไปขอบคุณทั้งน้ำตา พร้อมกันนั้น สมเด็จฯฮุน เซนก็ได้ขอโทษที่โกหกนายกฯมาเลเซีย ที่ถามถึงเส้นทางหลบหนีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย และได้ย้ำว่า กัมพูชานั้นไม่ได้ใช้ดินแดนโจมตีประเทศอื่น เพียงแต่ช่วยเหลือด้วยคุณธรรม
พร้อมว่า หากประเทศไทยต้องการทราบว่า นายทักษิณดูหมิ่นสถาบันอย่างไร ให้ส่งทูตพิเศษไปสอบถามรายละเอียดได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ฮุนเซน กร้าว กัมพูชา มีอาวุธยิงได้ถึงกทม. เปิดปมลึกอัดเสียง อิ๊งค์ โว เป็นคนพา ยิ่งลักษณ์หนี
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th