โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

เปิดมุมมอง 3 โบรกฯ ส่องกลยุทธ์ลงทุน พร้อมเสิร์ฟหุ้นเด่นวันนี้

ทันหุ้น

อัพเดต 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

#ทันหุ้น - บล.ฟินันเซียไซรัส คาดแนวโน้มตลาดวันนี้ มองแนวโน้มตลาดวันนี้ คาดว่า SET Index จะยังคงแกว่งตัว Sideways to Sideways Up ในกรอบ 1,100-1,120 จุด โดยปัจจัยต่างประเทศยังมีแรงหนุนอ่อนๆจากความคาดหวังเรื่องการลดดอกเบี้ยของ FED ที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามปัจจัยการเมืองในประเทศสัปดาห์หน้าที่ต้องติดตามคาดยัง Overhang ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมา GDP 1Q25 ถูกปรับลงจาก -0.2% เป็น -0.5% q-q SAAR โดยมีการปรับลดตัวเลขการใช้จ่ายลงและต่ำสุดตั้งแต่ช่วงโควิด ทำให้ตลาดคาดหวังมากขึ้นว่า FED มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยมากกว่า 2 ครั้งในปีนี้ (สูงกว่า Dot Plot ที่มอง 2 ครั้ง) ส่งผลให้ Bond Yield ขยับลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันราว 20 bps

โดยคืนนี้ติดตามตัวเลขสำคัญคือเงินเฟ้อ PCE เดือน พ.ค. ตลาดคาด Core PCE +0.1% m-m, +2.6% y-y ขยับขึ้นจากเดือนก่อน ส่วนปัจจัยในประเทศประเด็นหลักยังคงอยู่ที่การเมืองที่ยังมีความไม่แน่นอน โดยสัปดาห์หน้าต้องติดตามว่าศาลรัฐธรรมนูญว่าจะรับ/ไม่รับคำร้องปมคลิปสนทนาของนายกฯ รวมถึงจะสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ขณะที่สภาฯจะเปิดสมัยประชุมอีกครั้ง นอกจากนี้ยังเข้าใกล้กำหนดวันที่สหรัฐฯจะเริ่มเก็บภาษีตอบโต้ 9 ก.ค. ซึ่งยังไม่เห็นพัฒนาการในด้านการเจรจาการค้าระหว่างไทย-สหรัฐฯมากนัก โดยยังไม่ได้มีการระบุวันเจรจาอย่างเป็นทางการ ภาพรวมวันนี้คาดว่าการเคลื่อนไหวของดัชนีจะยังจำกัด โดยรวมเรายังเน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว แนวโน้มกำไรแข็งแรง และกระทบจำกัดจากความเสี่ยงต่างๆ

กลยุทธ์ : เลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและมีแนวโน้มผลการดำเนินงานแข็งแกร่ง

หุ้นเด่นเดือน มิ.ย. : CPALL, MTC, OSP, SJWD, STECON

FSSIA Portfolio : BA, CPALL, KBANK, MTC, NSL, OSP, PR9, STECON

หุ้นเด่นวันนี้ : KTC

• แนะนำ “เก็งกำไร” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus ราว 35 บาท

• ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงแรง 50% YTD และ 34% MTD จากประเด็นการถูก Force Sell เปิดโอกาสให้หุ้น Rebound ในระยะถัดไปจากสัญญาณเทคนิคที่ Oversold และปัจจัยพื้นฐานที่ไม่เปลี่ยนแปลง

• ตลาดประเมินกำไรปี 2025-26 ราว 7.6 พันลบ.และ 7.8 พันลบ. ตามลำดับ เติบโตได้เล็กน้อย โดยราคาหุ้นปัจจุบัน เทรดบน PER เพียง 8.5 เท่า และให้ Dividend Yield สูงราว 5% ซึ่งน่าสนใจเป็นอันดับต้นๆของกลุ่มไฟแนนซ์

• แนวรับ 24//23 บาท แนวต้าน 27-27.75//29.50 บาท

ด้าน บล.ดาโอ คาดดัชนีฯ แกว่งกรอบแคบ อิง 3 ตัวแปรการเมือง ขณะที่ตลาดโลกมีข่าวบวก สหรัฐฯ-จีน คุยจบแล้ว โดยตลาดหุ้นไทย เริ่มแผ่วลง มีกลายปัจจัยการเมืองที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันหยุด โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมือง กอรปกับดัชนีฯขึ้นมามาก อาจเกิดการขายทำกำไรขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตาม ในตลาดต่างประเทศ ได้ข่าวดี ทั้งในเรื่องของการจบสงครามอิหร่าน-อิสราเอล จีนลงนามข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ และดอลล่าร์อ่อนค่า

• การเมืองไทย การปรับคณะรัฐมนตรีในรัฐบาล คาดว่าจะแล้วเสร็จและได้ข้อสรุปภายในวันที่ 27 มิถุนายน ท่ามกลางวิกฤตการณ์ทางการเมืองหลายด้าน ทั้งความขัดแย้งกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิม และแรงกดดันจากคดีความต่างๆ

• ประเด็นการเมืองที่ถูกจับตามองมากที่สุดคือการที่ สมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้ประกาศผ่านสื่อว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ นายทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 27 มิถุนายน นี้ โดยอ้างว่าเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับการวางแผนเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีของไทยและมีการพาดพิงสถาบันฯ

• กลุ่ม "คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย" และกลุ่มนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้ นัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 28 มิถุนายน เพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก … เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ของช่วงวันหยุด นักลงทุนอาจมีความกังวล และชะลอการซื้อหุ้นในวันนี้ได้

• สถานการณ์ อิหร่าน-อิสราเอลคลี่คลาย เป็นเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้ดัชนีฯ ดีดตัวกลับ โดยก่อนการเริ่มโจมตีอิหร่านโดยอิสราเอล ดัชนีฯ อยู่ที่ระดับ 1122 จุด ….. เรามองว่า สงครามที่ยุติลง เป็นผลดีต่อหุ้น กลุ่มปิโตรเคมี ผู้ใช้น้ำมัน และโรงไฟฟ้า

• สหรัฐฯ-จีน คุยกันจบแล้ว ทั้งนี้ Howard Lutnick รมว.พาณิชย์ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สหรัฐฯ และจีนได้บรรลุข้อตกลงความเข้าใจ (understanding) ด้านภาษีศุลกากรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ข้อตกลงดังกล่าวซึ่ง "ลงนามและประทับตราเมื่อสองวันก่อน" ….. ข่าวนี้ เป็นข่าวบวกของตลาดโลก โดยเฉพาะจีน ส่วนอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์ คือ EV และ สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน

• Dollar Index ล่าสุด 97.3 จุด ตลาดกำลังมองว่า ดอลล่าร์กำลังอ่อนค่าลงได้อีก 4-5% เหตุผลหลักๆ คือเชื่อว่า Fed จะผ่อนคลายนโยบายการเงินในเร็วๆนี้ ……. ข่าวนี้ บวกต่อราคาสินค้า Commodity (น้ำมัน+ปิโตรเคมี) และ Crypto Currency

• การสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF และเงินเข้าใหม่ที่จะลงทุนกองทุน TESGX วันสุดท้าย 30 มิ.ย. 68 โดยเบื้องต้นคาดเม็ดเงินเข้าใหม่อาจไม่ถึงเป้า (นายกฯ สมาคมบลจ. เคยประเมินไว้ที่ 2- 3 หมื่นล้านบาท) เนื่องจากสถานการณ์ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีความเชื่อมั่นต่ำลงจาก MSCI rebalance ความกังวลด้านการเมืองและชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน LTF ณ สิ้นเดือนพ.ค.เม็ดเงินคงเหลือ 1.38 แสนล้านบาท คาดสิ้นมิ.ย.นี้เงินส่วนนี้จะโยกไป TESGX แต่ก็มีบางส่วนที่ขายออกไปด้วย

• วันนี้ เป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายของสัญญาซีรีส์ S50M25 ซึ่งจะหมดอายุและมีการเปลี่ยนไปใช้ซีรีส์ S50U25 แทน (Rollover) เหตุการณ์นี้มักจะสร้างความผันผวนให้กับตลาดในช่วงท้ายของการซื้อขายภาคบ่าย

• Event วันนี้ : US PCE (May) ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ของ EA จำนวน 14 รุ่น

Technical : BCH, KAMART

ขณะที่ บล.คิงส์ฟอร์ด ประเมินดัชนี SET ทรงตัวในกรอบแนวรับ 1,090 – 1,100 แนวต้าน 1,115 – 1,120 รอประเมินสถานการณ์ชุมนุมทางการเมืองในช่วงสุดสัปดาห์นี้ แนะนำทยอยซื้อ SCC,SCGP,IVL คาดกำไรปีนี้มีโอกาสฟื้นตัวจากฐานต่ำปีก่อน/ กลุ่มธนาคาร BBL,KBANK,SCB,KTB คาดกำไร Q2/68 ยังได้เติบโตได้ระดับ YoY และมี Dividend Yield > 5%

BCPG* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 8.30 บาท) คาดกำไรปกติในช่วงที่เหลือของปีจะกลับมาเติบโตจาก Hydro power plant ที่ปริมาณน้ำมากขึ้น ประกอบกับการทยอย COD โครงการพลังงานลม Monsoon (290Mwe ถือหุ้น 48%) ในลาวที่จะเริ่มช่วง 2H68 ปัจจัยบวกที่เหลือมาจาก BCPG มีสัดส่วนกำลังการผลิตไฟฟ้าในไทยน้อย ทำให้ได้รับผลกระทบอย่างจำกัดจากการแทรกแซงโดยภาครัฐ ขณะที่โรงไฟฟ้าในสหรัฐได้รับประโยชน์จากการเติบโตของธุรกิจ Data center ส่งให้ราคาขายไฟฟ้า (ค่าความพร้อมจ่าย) ในตลาดเสรีของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68 ที่ 1.42 พันล้านบาท และปี 69 ที่ 1.8 พันล้านบาท +27%YoY

SYNEX* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 14.23 บาท) Nintendo Switch2 เข้าไทยแล้ว เป็นบวกต่อ SYNEX* ที่เป็น Nintendo Authorized Store และจะช่วยหนุนสินค้า Gaming ที่มีมาร์จิ้นดี ส่วนภาพรวมการดำเนินงานในช่วงปี68 คาดว่ากลุ่มสินค้าไอทียังมีปัจจัยบวกจากDemand การเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ให้ทันกับเทคโนโลยี(4g>5g>AI) รวมถึงการใช้งาน cloud/อุปกรณ์IoT ที่แพร่หลายขึ้น นอกจากนี้ การสนับสนุนสําหรับ Windows 10 ก็จะถูกยกเลิก หลังวันที่ 14 ต.ค.68 ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68และ69 กำไรสุทธิของ SYNEX* จะอยู่ที่ระดับ 704 ลบ.(+12%YoY) และ 795 ลบ.(+13%YoY)

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

Facebook คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews
Youtube คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ทันหุ้น

GULF โบรกมีมุมมองเชิงบวก ต่อการลงทุนในโรงไฟฟ้า GUNKUL

36 นาทีที่แล้ว

โบรกฯ คาดแนวโน้มหุ้นบ่าย แนะกลยุทธ์การลงทุน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

หุ้นไทยพักเที่ยงวันนี้(27 มิ.ย.) ลบ 19.53 จุด ขายบิ๊กแคป ADVANC-DELTA-AOT

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

หุ้นปิโตรเคมี หาจังหวะสะสมหุ้นไตรมาส 3/68 บล.บัวหลวงคาดเริ่มฟื้นตัวในไตรมาส 4/68

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

“จากต้นกล้าสู่รากแก้วแห่งการอนุรักษ์” Dow ปลุกพลังเยาวชนผ่านค่าย ‘Child-Len’ เรียน รักษ์ ป่าชายเลน

สยามรัฐ

กลุ่ม PTT ผนึก Centrica เสริมศักยภาพการแข่งขันในตลาด LNG ระดับภูมิภาคเอเชีย

กรุงเทพธุรกิจ

'ทรีนีตี้' ส่องกำไร Q2/68 หุ้น BBL คาดอ่อนตัวจาก Non-NII ที่ลดลง

ทันหุ้น

ภัยใกล้ตัวผู้สูงวัย

The Bangkok Insight

GULF โบรกมีมุมมองเชิงบวก ต่อการลงทุนในโรงไฟฟ้า GUNKUL

ทันหุ้น

บีโอไอดัน THECA 2025 รับคลื่นทุนโลก เปิดเวที Thailand Electronics Circuit Asia (THECA 2025) ปลุกทุนอุตสาหกรรมขั้นสูง

สยามรัฐ

ทรูมันนี่ และ ทรู จับมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในแคมเปญ “รีบโอน โจรยิ้ม” เสริมเกราะคนไทยสู้ภัยไซเบอร์ พร้อมสร้างสังคมดิจิทัลที่ยั่งยืน

Wealthy Thai

INETREIT จัดประชุมผู้ถือหน่วยทรัสต์ ไฟเขียวเพิ่มทุนครั้งที่ 2 เสริมแกร่งกองทรัสต์ เดินหน้าลงทุน Data Center ส่วนขยาย

Wealthy Thai

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...