อดีตรองแม่ทัพภาค 2 ปูด! เพื่อน "ฮุน มาเนต" เป็นที่ปรึกษา "ทรัมป์"
จากกรณี นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย, ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ได้ร่วมกันแถลงผลการเจรจาหารือยุติเหตุปะทะชายแดน โดยผลการเจรจาหยุดยิงทันทีไม่มีเงื่อนไขนั้น
ล่าสุด พล.ท.กนก เนตระคะเวสนะ อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 2 และอดีตผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เปิดเผยว่า ลักษณะการไปเจรจาโดยมีตัวกลางแบบนี้ ถือว่าข้ามขั้นตอน ตามปกติแล้ว เมื่อทหารทั้ง 2 ฝ่าย เกิดการสู้รบกัน หากต้องการคลี่คลายสถานการณ์ จะต้องหยุดยิงปะทะกันก่อน ถึงจะเข้าสู่กระบวนการเจรจา
โดยศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์เรือนชายแดนไทย -กัมพูชา (ศบ.ทก.) จะต้องเตรียมตัวเก็บข้อมูลการสู้รบ ทั้งเรื่องที่ทหารกัมพูชาเริ่มทำร้ายประชาชน จนบาดเจ็บล้มตาย หรือ ความเสียหายต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อนำไปพูดคุยบนเวทีเจรจา ไม่ใช่หารือกันก่อนหยุดยิงแบบนี้
อีกทั้งหากเปรียบเทียบตัวแทนที่จะเข้าไปเจรจา ระหว่าง นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี กับ ฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มองว่า นายภูมิธรรมสู้ไม่ได้ เพราะฮุนมาเนต เป็นผู้บัญชาการรบทางทหารมาตลอด ทำให้สามารถบรรยายเหตุการณ์ โยงสิ่งต่างๆมาต่อสู้ได้ ถึงแม้จะไม่ใช่ข้อมูลจริงก็ตาม ขณะที่นายภูมิธรรม อาจจะรู้เพียงกรอบกว้างๆ ของการสู้รบ ที่ได้รับข้อมูลมาจากทหารเท่านั้น
พล.ท.กนก แนะนำว่า คณะที่เข้าไปเจรจาครั้งนี้ จะต้องไม่ตอบรับหรือตกลงข้อเสนอใดๆ เพราะทุกอย่างถือเป็นอธิปไตยของประเทศไทย จะต้องใช้วิธีการนำเรื่องที่เจรจามานั้น มาพูดคุยหารือกับผู้มีอำนาจในประเทศไทยร่วมกันอีกครั้ง
พล.ท.กนก มองว่า การเจรจาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์สู้รบจะต้องไม่มีตัวกลาง ควรเป็นการพูดคุยสองฝั่งคือไทยกับกัมพูชาเท่านั้น ส่วนที่ฝั่งกัมพูชาบอกว่า จะพาตัวแทนประเทศจีนเข้าร่วมการเจรจาด้วยนั้น มีการตั้งข้อสังเกตว่า จีนอาจเข้าไปช่วยฝั่งกัมพูชาสู้บนเวทีเจรจาด้วยหรือไม่ พล.ท.กนก บอกว่า จีนกับกัมพูชามีผลประโยชน์ร่วมกันอยู่แล้ว เพราะจีนใช้ท่าเรือเรียมของกัมพูชาดูแลทางทหารบริเวณทะเลจีนใต้อยู่ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ประเทศไทยต้อง เจรจาบนหลักทวิภาคี ไม่ให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่คู่กรณีเข้ามาเกี่ยวข้อง อนุญาตเพียงแค่ให้นั่งฟังเฉยๆเท่านั้น เพราะมองว่าหากให้ประเทศที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องนี้จะไม่จบง่ายๆ
อย่างกรณีที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เข้ามา มีส่วนร่วมกับการแก้ไขปัญหาการปะทะครั้งนี้ พล.ท.กนก บอกว่า ตัวเองได้ข้อมูลมาจากเพื่อนว่า เพื่อนฮุนมาเนต อยู่ในทีมที่ปรึกษาของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งก็มีแนวโน้มว่าอาจเข้ามาช่วยกัมพูชา เพื่อแลกกับผลประโยชน์บางอย่าง เช่น ท่าเรือเรียมที่เป็นหนามยอกอกสหรัฐ เพราะที่มีรายงานว่า จีนขอใช้พื้นที่เตรียมสร้างฐานทัพคานอำนาจสหรัฐฯ
พล.ท.กนก บอกว่า การเจรจาหาทางลงของความขัดแย้งไทยกัมพูชาครั้งนี้ หากมีผลสรุปให้หยุดยิงปะทะในพื้นที่จริงๆ ก็ต้องกลับมาทำหนังสือสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะ “ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนี้ จนถึงขั้นเสียดินแดนให้กับกัมพูชา ก็จะถือว่าผู้สั่งการเป็นกบฏ ฉะนั้นจะสั่งด้วยปากเปล่าไม่ได้ สั่งแล้วต้องรับผิดชอบผลที่จะตามมาด้วย” อีกทั้งส่วนตัวมองว่า ควรยกเลิก MOU43 ที่ระบุไว้ว่า จะต้องไม่มีการสู้รบกัน แต่เมื่อมีการปะทะกันเกิดขึ้นก็ควรยกเลิกข้อตกลงนี้ไป ซึ่งแน่นอนว่าจะพ่วงแผนที่ 1:200,000 ที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผลเจรจายุติเหตุปะทะไทย-กัมพูชา “หยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข”
ศปก.ทภ.2 เผยแนวรบเดือด! พบไซเบอร์โจมตี PHL-03 เคลื่อนพล
จารึกชื่อวีรบุรุษ!! รายชื่อทหารกล้าพลีชีพในการสู้รบไทย-กัมพูชา
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : อดีตรองแม่ทัพภาค 2 ปูด! เพื่อน "ฮุน มาเนต" เป็นที่ปรึกษา "ทรัมป์"
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com