สวยใส ไม่ไร้สมอง! รีวิว 'HONOR 400 Pro' มือถือกล้องเทพ จัดเต็ม AI
การมาถึงของ HONOR 400 Series ได้สร้างแรงกระเพื่อมให้วงการสมาร์ตโฟนต้องเหลียวมอง ด้วยแนวคิด "AI Phone" แห่งอนาคต ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงคำโฆษณาชวนเชื่อ แต่คือการนำปัญญาประดิษฐ์เข้ามาเป็นแกนหลักเพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ในทุกมิติจริงๆ
KT Review กรุงเทพธุรกิจไอทีได้สัมผัสและใช้งาน HONOR 400 Pro รุ่นท็อปของซีรีส์นี้มาระยะหนึ่งแล้ว จนพบว่าสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ได้ทลายกำแพงความคิดเดิมๆ เกี่ยวกับสมาร์ตโฟนไปจนหมดสิ้น เพราะนี่ไม่ใช่แค่การอัปเกรดสเปกตามธรรมเนียม แต่เป็นการเปิดประสบการณ์ผู้ใช้โดยมี AI เป็นหัวใจสำคัญในทุกการทำงาน ตั้งแต่การปลดล็อกหน้าจอไปจนถึงการสร้างสรรค์ผลงานระดับมืออาชีพ รีวิว HONOR 400 Pro ชิ้นนี้คือบทสรุปของประสบการณ์อันน่าทึ่งที่เราได้รับ
ดีไซน์ยอดเยี่ยม พรีเมียมเกินตัว
เมื่อได้สัมผัส HONOR 400 Pro ครั้งแรก จะรู้สึกได้ถึงความประณีตในการออกแบบ ตัวเครื่องมาพร้อม 3 เฉดสีคลาสสิก ได้แก่ Lunar Grey, Midnight Black และ Tidal Blue การออกแบบด้วยโครงสร้างแบบ Multi-Angle อันเป็นเอกลักษณ์ และกรอบเครื่องทรงแบน ทำให้การจับถือรู้สึกเต็มไม้เต็มมือและกระชับ แม้ตัวเครื่องจะบางเพียง 8.1 มม. และหนัก 205 กรัม แต่กลับให้ความรู้สึกที่แน่นหนาและแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่และแบตเตอรี่ความจุสูง อาจทำให้ตัวเครื่องมีน้ำหนักและขนาดที่ไม่เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบสมาร์ตโฟนขนาดกะทัดรัดที่พกพาง่ายนัก การออกแบบที่สวยงามยังอาจทำให้ผู้ใช้หลายคนต้องเลือกใส่เคสเพื่อป้องกัน ซึ่งอาจบดบังความงามของตัวเครื่องไปบ้าง แต่ก็แลกมากับความทนทานต่อการตกกระแทกเพิ่มขึ้น ซึ่งอันที่จริงโดย HONOR 400 Pro ตัวเครื่องเปล่าๆ ก็ได้รับรองโดย SGS และมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 และ IP69 ที่ช่วยให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจอยู่แล้ว
กล้อง 200MP สุดเทพ จัดเต็ม AI Image Engine
จากการทดสอบในหลากหลายสถานการณ์ พบว่าระบบกล้อง 200MP Ultra-clear Advance AI ไม่ได้มาเพียงเพื่อตัวเลขที่สวยหรู ในสภาวะแสงน้อย ระบบกันสั่นคู่ OIS + EIS ที่ทำงานร่วมกันได้อย่างมหัศจรรย์ ทำให้ภาพที่ได้ยังคงนิ่งและคมชัด พลังของ AI HONOR IMAGE ENGINE ยังเห็นได้ชัดจาก Advance AI RAW Large Model ที่ช่วยเพิ่มความคมชัดของภาพได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์
เรื่องการซูมก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่น ในรุ่น Pro ซูมแบบ Advance AI Super Zoom ได้ไกลถึง 50x โดยที่ยังคงความคมชัดเลยทีเดียว
และเราต้องบอกว่านี่คืออีกหนึ่งสมาร์ตโฟนที่ถ่ายพรอตเทรตได้ดีมากๆ ซึ่งความลับของความสามารถนี้มาจากโหมด Harcourt Portrait ที่เรายังรู้สึกประทับใจเป็นพิเศษต่อเนื่องมาตั้งแต่ได้ใช้ใน HONOR Magic 7 Pro โดยเฉพาะสไตล์ Harcourt Classic ที่ให้ภาพขาวดำที่มีมิติของแสงและเงาที่ลึกซึ้ง มีอารมณ์ราวกับภาพถ่ายระดับมืออาชีพ
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ HD Moving Photo (Live Photo) ที่บันทึกคลิปสั้นๆ 3 วินาที และยังรองรับการแชร์ข้ามแพลตฟอร์มกับ iPhone ได้อย่างราบรื่น
ตัวอย่างภาพถ่ายโหมดพรอตเทรตของ HONOR 400 Pro
สตูดิโอตัดต่ออัจฉริยะในมือคุณ
HONOR 400 Series ทำให้การแก้ไขภาพกลายเป็นเรื่องสนุก ด้วย Creative Advance AI Editing ที่มีฟีเจอร์ AI ให้ใช้งานกว่า 40 รูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น
ฟีเจอร์ Advance AI Erase Passers-by ที่ลบคนเดินผ่านในฉากหลังออกไปได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส โดย AI จะเติมพื้นหลังให้เนียนจนแทบดูไม่ออก อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่าในบางสถานการณ์ที่มีฉากหลังซับซ้อนมากๆ หรือมีลายละเอียดที่ต่อเนื่องกัน การประมวลผลของ AI อาจยังไม่สมบูรณ์แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ และอาจจำเป็นต้องมีการเก็บรายละเอียดเพิ่มเติมด้วยตนเองเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แต่สำหรับสถานการณ์ส่วนใหญ่ถือว่าทำงานได้อย่างน่าทึ่ง
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือ Advance AI Outpainting ที่ช่วยขยายขอบเขตของภาพถ่ายออกไปอย่างเป็นธรรมชาติ และ Advance AI Upscale ที่ช่วยฟื้นฟูภาพเก่าหรือภาพความละเอียดต่ำให้กลับมาคมชัดอีกครั้ง
และอีกฟีเจอร์ที่โดดเด่นและเราอยากให้ทุกคนได้ลองเล่นกันในสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ คือการเปลี่ยนภาพนิ่งธรรมดาให้กลายเป็นภาพเคลื่อนไหวที่มีชีวิตชีวาด้วยพลังของ AI ในฟีเจอร์ขั้นสูงอย่าง Advance AI Image to Video ซึ่งพัฒนาร่วมกับ Google โดยใช้โมเดล Veo AI ที่ตีความคำสั่งของผู้ใช้และสร้างสรรค์วิดีโอสั้นๆ ที่สมจริงจากภาพนิ่งได้ ฟีเจอร์นี้ใช้เวลาประมวลผลประมาณ 1 นาทีในการสร้างวิดีโอความยาว 5 วินาทีในรูปแบบไฟล์ MP4 หรือ Moving Photo
นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ Moving Photo Collage ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม ให้ผู้ใช้นำภาพเคลื่อนไหวตั้งแต่ 2 ถึง 9 ภาพมารวมกันเป็นเรื่องราว พร้อมทั้งปรับแต่งเสียง ความยาว และการจัดวางได้ตามต้องการ ที่สำคัญคือผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นมาทั้งหมดนำไปแชร์ลงโซเชียลมีเดียได้ทันที
จอระดับเรือธงและเทคโนโลยีถนอมสายตา
HONOR 400 Pro มาพร้อมหน้าจอแสดงผลที่โดดเด่นไม่แพ้ส่วนอื่น ด้วยจอ OLED ขนาด 6.7 นิ้ว ที่มีอัตรารีเฟรชสูงถึง 120Hz และความละเอียด 2800×1280 พิกเซล มอบภาพที่คมชัดและลื่นไหลไร้ที่ติ หน้าจอนี้รองรับการแสดงผลสีได้มากถึง 1.07 พันล้านสี และครอบคลุมขอบเขตสี DCI-P3 ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งยังรองรับความสว่างสูงสุดเฉพาะส่วน (HDR Peak Brightness) ได้ถึง 5,000 nits ทำให้การรับชมคอนเทนต์ต่างๆ เต็มอิ่มสมจริงในทุกเฉดสี
ยิ่งไปกว่านั้น HONOR ยังให้ความสำคัญกับสุขภาพดวงตาของผู้ใช้ โดยใส่เทคโนโลยีถนอมสายตา HONOR Eye Comfort Display มาอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ Dimming แบบ 3840Hz ที่ช่วยลดการกะพริบของหน้าจอเพื่อลดอาการตาล้า, เทคโนโลยีลดแสงสีฟ้าระดับฮาร์ดแวร์ และโหมด Circadian Night Mode ที่จะปรับโทนสีหน้าจอให้อุ่นขึ้นในช่วงกลางคืนเพื่อส่งเสริมคุณภาพการนอนหลับ
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Super Rainproof Touch ซึ่งใช้ AI ช่วยให้ควบคุมหน้าจอได้แม้ในขณะที่หน้าจอเปียก และ Sunlight Display Enhancement ที่ช่วยให้หน้าจอคงความชัดเจนแม้อยู่กลางแสงแดดจ้า
ชิปเซ็ตเรือธงอันทรงพลัง
หัวใจหลักของ HONOR 400 Pro คือชิปเซ็ตเรือธง Snapdragon 8 Gen 3 ซึ่งทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผลกราฟิก Qualcomm Adreno 750 มอบประสิทธิภาพที่ทรงพลังสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมที่ต้องการกราฟิกระดับสูง หรือการทำงานแบบมัลติทาสก์ที่สลับไปมาระหว่างหลายแอปพลิเคชัน ก็ทำได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมาพร้อม RAM ขนาด 12GB และหน่วยความจำภายในสูงสุดถึง 512GB ซึ่งรองรับการจัดเก็บภาพถ่ายได้มากถึง 121,000 รูป ทำให้มีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับทุกไฟล์และทุกความทรงจำ
แบตอึด ชาร์จไว
เรื่องแบตเตอรี่คืออีกหนึ่งความประทับใจขั้นสุด เพราะ HONOR 400 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ซิลิคอนคาร์บอนความจุสูงถึง 6000mAh จากการทดสอบใช้งานอย่างหนักตลอดทั้งวัน พบว่าเมื่อถึงช่วงเวลากลางคืน แบตเตอรี่ยังคงเหลือเพียงพอสำหรับการใช้งานต่อไปอีก ทำให้เราออกจากบ้านได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการพกพาวเวอร์แบงค์ และถึงแม้แบตจะใกล้หมด ก็ยังมีระบบชาร์จเร็ว 100W HONOR Wired SuperCharge และชาร์จไร้สาย 50W HONOR Wireless SuperCharge ที่ช่วยให้ชาร์จได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งแบตเตอรี่ยังถูกออกแบบมาให้คงประสิทธิภาพมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ แม้จะผ่านการใช้งานไปนานถึง 4 ปี
MagicOS 9.0 กับประสบการณ์ AI ไม่สิ้นสุด
หัวใจสำคัญที่ทำให้ HONOR 400 Series แตกต่าง คือระบบปฏิบัติการ MagicOS 9.0 (บนพื้นฐานของ Android 15) ที่มี AI เป็นแกนหลัก นั่นทำให้สมาร์ตโฟนเครื่องนี้อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ที่จะมาช่วยให้ชีวิตของเราง่ายขึ้น เช่น Magic Portal 2.0 ซึ่งมีความสามารถในการเข้าใจเจตนาของผู้ใช้งานได้อย่างน่าทึ่ง หรือว่าจะเป็น Advance AI Notes ที่ช่วยสรุปเนื้อหาสำคัญจากการบันทึกเสียงและสร้างรายงานการประชุมให้อัตโนมัติ และ Advance AI Writing Tools ที่พัฒนาร่วมกับ Google Gemini ก็ช่วยร่างเนื้อหาหรือปรับแก้ไวยากรณ์ได้ตามที่เราต้องการ
ทั้งหมดที่เราได้สัมผัส ทำให้เข้าใจถ่องแท้ว่า HONOR 400 Pro ไม่ใช่แค่สมาร์ตโฟนที่ถ่ายรูปสวยและแบตเตอรี่ทนทาน แต่มันคือการก้าวไปสู่ยุคใหม่ของ "AI Phone" ความอัจฉริยะของมันถูกหลอมรวมเข้ากับประสบการณ์ใช้งานทั้งหมดได้อย่างราบรื่นและเป็นธรรมชาติ จนทำให้รู้สึกได้ว่านี่ไม่ใช่แค่อุปกรณ์ แต่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่ชาญฉลาดและไว้ใจได้ ในราคาที่ถือว่าคุ้มเกินราคา
ราคาและการวางจำหน่าย
HONOR 400 Pro ราคา 19,990 บาท (https://s.shopee.co.th/8pawEaEEoT)
ส่วน HONOR 400 ราคาเริ่มต้น 12,990 บาท (https://s.shopee.co.th/3qCGHQ99yb)