โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

หุ้นพุ่ง Google รอดแยกบริษัท ศาลไม่บีบขาย Chrome แต่ต้องแบ่งข้อมูลให้คู่แข่ง

MATICHON ONLINE

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว
AP

หุ้นพุ่ง Google รอดแยกบริษัท ศาลไม่บีบขาย Chrome แต่ต้องแบ่งข้อมูลให้คู่แข่ง

ศาลสหรัฐในกรุงวอชิงตัน มีคำตัดสินเมื่อวันที่ 2 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่นว่า Google จะไม่ต้องขาย Chrome หรือระบบปฏิบัติการ Android ที่บริษัทถือครองอยู่ แต่ต้องเปิดให้คู่แข่งเข้าถึงข้อมูลบางส่วน เพื่อเพิ่มการแข่งขันด้านการค้นหาออนไลน์และโฆษณา

คำตัดสินดังกล่าวถือเป็นชัยชนะที่หาได้ยากสำหรับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ในการต่อสู้กับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการผูกขาดของสหรัฐ และส่งผลให้หุ้นของ Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ Google พุ่งขึ้นกว่า 7%

นักลงทุนยังชื่นชมกับคำตัดสินของผู้พิพากษา ซึ่งอนุญาตให้ Google ยังสามารถจ่ายเงินก้อนโตราว 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีเพื่อให้ Apple ติดตั้ง Google เป็นเครื่องมือค้นหาหลักต่อไป แม้ว่าหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการผูกขาดจะระบุว่า การเป็นพันธมิตรดังกล่าวจะทำให้คู่แข่งที่เป็นเสิร์จเอนจินแบบเดียวกันถูกกีดกันการใช้งาน ขณะที่หุ้นของ Apple ก็พุ่งขึ้น 3% เช่นเดียวกัน

อมิต เมห์ตา ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐยังตัดสินว่า Google สามารถเก็บระบบปฏิบัติการ Android ไว้ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้ง Chrome และ Android ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจโฆษณาออนไลน์ ที่มีอำนาจครอบครองตลาดของ Google

ผู้พิพากษาเมห์ตาระบุว่า เขาได้ทำหน้าที่ตัดสินใจด้วยความถ่อมตน ในการกำหนดมาตรการลงโทษ Google โดยชี้ไปที่การแข่งขันใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจาก บริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ตั้งแต่คดีนี้เริ่มต้น “ที่นี่ ศาลถูกขอให้มองไปยังอนาคต ซึ่งไม่ใช่ความถนัดของผู้พิพากษาเลย”

แม้ว่าการบังคับให้ Google ต้องแบ่งปันข้อมูลกับคู่แข่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจโฆษณาของคู่แข่ง แต่การที่ Google ไม่ต้องขาย Chrome หรือ Android ทำให้นักลงทุนคลายกังวล เพราะมันล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญต่อธุรกิจโดยรวมของ Google

Google กำลังเผชิญภัยคุกคามจาก เครื่องมือ AI ที่กำลังได้รับความนิยม เช่น ChatGPT ของ OpenAI ซึ่งได้เริ่มแย่งชิงความเป็นผู้นำของ Google ไปบ้างแล้ว หากบริษัท AI ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลที่ Google ถูกบังคับให้แชร์ พวกเขาอาจสามารถพัฒนา chatbot หรือแม้กระทั่งเครื่องมือค้นหาและเว็บเบราว์เซอร์ที่แข่งขันกับ Google ได้

“จำนวนเงินที่หลั่งไหลเข้าสู่พื้นที่นี้ และความรวดเร็วที่มันเกิดขึ้น น่าทึ่งมาก” ผู้พิพากษาเมห์ตาเขียน พร้อมระบุว่าบริษัท AI ตอนนี้มีศักยภาพในการแข่งขันกับ Google ได้ดีกว่าผู้พัฒนาเสิร์จเอนจินอื่นๆ ในรอบหลายทศวรรษ โดยเมื่อปีที่แล้ว ผู้พิพากษาเมห์ตาได้ตัดสินว่า Google ได้ทำการผูกขาดที่ผิดกฎหมายในการค้นหาออนไลน์และโฆษณาที่เกี่ยวข้อง

ดีพัค มาธิวานัน นักวิเคราะห์ของแคนเตอร์ ฟิตซ์เจอรัลด์กล่าวว่า การบังคับให้แบ่งปันข้อมูลเป็นความเสี่ยงต่อการแข่งขันของ Google แต่ความเสี่ยงนั้นจะไม่ได้เกิดขึ้นทันที ผู้บริโภคจะต้องใช้เวลานานกว่าที่จะยอมรับประสบการณ์ใหม่ๆ

ด้านเกล สเลเตอร์ ผู้ช่วยอัยการสูงสุด โพสต์บน X ว่า หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการผูกขาดของสหรัฐ กำลังพิจารณาดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

ขณะที่ Google ระบุในบล็อกโพสต์ว่า แสดงความกังวลว่าการแบ่งปันข้อมูลจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้และความเป็นส่วนตัวของพวกเขา และเรากำลังพิจารณาคำตัดสินอย่างรอบคอบ

ก่อนหน้านี้ Google กล่าวว่ามีแผนจะยื่นอุทธรณ์ ซึ่งอาจทำให้ต้องใช้เวลาหลายปีก่อนที่บริษัทจะต้องปฏิบัติตามคำตัดสิน และคดีนี้มีแนวโน้มว่าจะไปสิ้นสุดที่ศาลสูง

วิลเลียม โควาซิช ผู้อำนวยการศูนย์กฎหมายการแข่งขันแห่งมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน กล่าวว่า ผู้พิพากษาเมห์ตาตระหนักดีว่าศาลสูงน่าจะเป็นปลายทางของคดีนี้ และเขาได้เลือกแนวทางแก้ไขที่มีโอกาสสูงที่จะได้รับการยอมรับจากศาล

คำตัดสินครั้งนี้เกิดขึ้นหลังการต่อสู้ทางกฎหมายที่กินเวลานานถึง 5 ปี ระหว่างหนึ่งในบริษัทที่ทำกำไรได้มากที่สุดในโลกกับรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งหน่วยงานกำกับดูแลด้านการผูกขาดและนักการเมืองได้ตั้งคำถามมาโดยตลอดถึงการครอบงำตลาดของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี คดีนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปราบปรามบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งยังมีคดีอื่นๆ เกี่ยวกับ App Store และโฆษณาออนไลน์

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : หุ้นพุ่ง Google รอดแยกบริษัท ศาลไม่บีบขาย Chrome แต่ต้องแบ่งข้อมูลให้คู่แข่ง

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...