DITP เผยปี 68 สร้างมูลค่าการค้า 1.56 แสนล้าน ปีหน้าโหมจัด 570 โครงการ บูมส่งออก
นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานด้านการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ปี 68 ว่าในปีนี้ กรมฯมีแผนดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการค้ากว่า 510 โครงการ 700 กิจกรรม ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งล่าสุดถึงเดือนส.ค.68 สร้างมูลค่าการค้าได้แล้วกว่า 156,522 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 92,363 ล้านบาท
โดยมีผู้ประกอบการกว่า ได้รับประโยชน์ 226,790 ราย และคาดว่าช่วงเวลาที่เหลือของปีจะสร้างมูลค่าเพิ่มการค้าเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท โดยผลงานสำคัญ จากการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในประเทศ 6 งาน มูลค่ากว่า 110,300 ล้านบาท เช่น ไทยเฟ็กซ์ อนูก้า เอเชีย 2025 และบางกอก เจมส์ แอนด์ เจเวลรี แฟร์
นอกจากนี้ กรมฯ ได้จัดโครงการ สเปเชียล ทาสก์ ฟอร์ซ์ ส่ง 5 คณะเจาะตลาดใหม่ใน 4 ภูมิภาค ได้แก่ ลาตินอเมริกา แอฟริกา เอเชียใต้ และตะวันออกกลาง คาดสร้างมูลค่าการค้า 1,600 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังได้จัดตั้ง ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จรวม 12 หน่วยงาน ณ อาคารกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ถนนรัชดาภิเษก เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการในการรับมือกับสถานการณ์การค้าที่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ พร้อมกันนี้ยังได้จัดโครงการใหม่เพื่อรับมือกับนโยบายการค้าสหรัฐฯ อาทิ ยูเอสเอ ไทยแลนด์ ออนไลน์ บิสซิเนส แมทชิง สร้างมูลค่า 190 ล้านบาท และ ไทยแลนด์ โกลบอล คอนเน็กท์ สร้างมูลค่าอีก 518 ล้านบาท
“ปีนี้กรมฯ ยังได้ยกระดับ ไทย ซีเล็กท์ ได้จัดระดับใหม่ติดดาวให้เทียบชั้นมิชลิน และการจัดกิจกรรมเชิงรุกทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบันมีร้านอาหารไทยในต่างประเทศที่ได้รับตราสัญลักษณ์ 582 ร้าน ใน 45 ประเทศ และผลิตภัณฑ์อาหาร 968 รายการ จาก 108 บริษัท รวมถึงส่งเสริมซอฟท์ พาวเวอร์ 3 สาขาหลัก ได้แก่ เกม หนังสือ และการออกแบบ สร้างมูลค่าการค้าแล้วกว่า 12,328 ล้านบาท”
ส่วนแผนปีงบประมาณ 69 กรมฯ เตรียมดำเนินงาน 570 โครงการ ตั้งเป้าสร้างรายได้ 141,881 ล้านบาท เพื่อช่วยผู้ประกอบการกว่า 294,475 ราย โดยมีแนวทางสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ เร่งบุกตลาดใหม่ทั่วโลก เสริมศักยภาพ เอสเอ็มอี ให้ทันสมัยในยุคดิจิทัล และปฏิรูประบบบริการสู่ดิจิทัลเต็มรูปแบบ ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการค้าระหว่างประเทศในปีหน้า
“ปี 68 กรมฯ สามารถสร้างมูลค่าการค้าได้เกินเป้าที่ตั้งไว้แล้วกว่า 1.56 แสนล้านบาท และในปี 69 จะต่อยอดความสำเร็จด้วยการขับเคลื่อนเชิงรุกเพื่อสร้างรายได้อีกไม่ต่ำกว่า 1.4 แสนล้านบาท หรืออาจจะมากกว่านั้น”