รวบแล้ว! พ่อแม่ใจโหด เผาลูกทารกในเตาเผาถ่านของชาวบ้าน
รวบแล้ว! พ่อแม่ใจโหด เผาลูกทารกในเตาเผาถ่านของชาวบ้าน หลังหลบหนีข้ามอำเภอ ผลชันสูตรชัดมีบาดแผลกระแทกที่ศีรษะ ตำรวจตั้งข้อหาหนัก
จากกรณีพบศพเด็กทารกถูกเผาในเตาถ่าน เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 17 ส.ค. 68 ร.ต.อ.ณัฐวรรธน์ แก้วหาญ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ191 สภ.บ้านฝางว่า มีชาวบ้านพบศพทารกถูกเผาอยู่ในเตาเผาถ่าน พื้นที่บ้านหินฮาว หมู่4 ต.โนนฆ้อง อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบก่อนออกตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.กรภพ เนตรไธสง ผกก.สภ.บ้านฝาง และกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน
เมื่อถึงที่เกิดเหตุ บริเวณเตาเผาถ่านกลางไร่อ้อย พบศพทารกแรกเกิดจำนวน 1 รายไม่ทราบชื่อ และเพศสภาพถูกเผาอยู่ภายในหลุมเตาถ่าน โดยยังมีสายรกติดอยู่ที่จุดเกิดเหตุ พบเลือด และไฟยังแดงฉานอยู่ เจ้าหน้าที่จึงประสานแพทย์โรงพยาบาลบ้านฝาง และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน4 ขอนแก่นร่วมตรวจสอบพื้นที่
ล่าสุดเวลา 14.00 น. วันที่ 20 ส.ค. 68 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น และเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.บ้านฝาง สามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว โดยพบว่าเป็นพ่อและแม่ของทารกดังกล่าว หลังจากก่อเหตุได้พากันหลบหนีกลับไปยังภูมิลำเนาของตน โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมพ่อ อายุ 30 ปี ชาว อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ได้ที่บ้านพัก และจับกุมแม่ อายุ 27 ปี ชาวอ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ได้ที่บ้านพัก พร้อมรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.บ้านฝาง
พ.ต.อ.กรภพ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าฝ่ายหญิงคลอดบุตรชายเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 ส.ค. 68 ภายในห้องคอนโดแห่งหนึ่ง ในเขตตัวเมืองขอนแก่นตามลำพัง ซึ่งฝ่ายชายไปทำงาน โดยเด็กเสียชีวิตในวันที่ 15 ส.ค. 68 และเมื่อวันที่ 16 ส.ค. ทั้งคู่ได้พาทารกไปยังพื้นที่บ้านหินฮาว ก่อนนำศพไปเผาทำลายที่เตาเผาถ่านของชาวบ้าน โดยทั้งสองอ้างว่า รู้จักกับเจ้าของที่ดินเมื่อหลายปีก่อนจึงรู้ว่ามีเตาเผาถ่านอยู่ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงตัดสินใจนำศพลูกมาเผา
จากผลชันสูตรแพทย์เบื้องต้นพบว่า เด็กชายมีบาดแผลกระแทกที่ศีรษะด้านหลังอย่างรุนแรง สันนิษฐานว่าจะเป็นการจับเด็กฟาดกับของแข็ง และไม่พบร่องรอยการกดทับที่หน้าอก ขัดแย้งกับคำให้การของฝ่ายหญิที่อ้างว่าหลังคลอดหน้ามืดเผลอทับลูกจนเสียชีวิต โดยตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การดังกล่าว เพราะจากผลการตรวจสอบพบว่า เด็กมีพฤติกรรมของทารกที่มีชีวิตหลังคลอดแล้ว เช่น การร้องไห้ การกินนม การขับถ่าย โดยตรวจพบขี้เทาในลำไส้ แสดงถึงระบบการย่อยอาหารได้เริ่มทำงาน
ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้งสองมีประวัติอาชญากรรมมาก่อน โดยฝ่ายชายเคยต้องโทษคดีลักทรัพย์ และยาเสพติด ขณะที่ฝ่ายหญิงเคยต้องคดีลักทรัพย์ และพ้นโทษมาแล้วหลายปี
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาต่อทั้งสองคือ “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นและร่วมกันปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ” ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติมอย่างละเอียด และรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป