Mobile World จากร้านขายมือถือ สู่เสาหลักค้าปลีกเวียดนาม
สรุปหุ้นเวียดนาม Mobile World (MWG) บริษัทค้าปลีกสินค้าไอทีและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และกำลังขยายธุรกิจบุกตลาดอาเซียน ที่ว่ากันว่าเป็น COM7 เมืองไทย โดยสามารถคว้าโอกาสการลงทุนผ่านกลยุทธ์คัดเลือกหุ้นนอกคุณภาพดี Definit Global Select (DGS)
เวียดนามคือประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่กำลังเติบโตแบบก้าวกระโดด และก็มีหลายบริษัทในตลาดหุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากยุคเฟื่องฟูในทศวรรษที่ผ่านมา จนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศได้สำเร็จ
วันนี้จะพามารู้จักกับเบอร์หนึ่งของเวียดนามในธุรกิจค้าปลีก Mobile World Investment Corporation (MWG) ที่สามารถลงทุนได้ผ่าน DR ในชื่อ MWG19 ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
Mobile World ทำธุรกิจอะไร ?
ภาพจาก: Vietnam Business Inside
MWG คือบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของประเทศเวียดนาม มีมูลค่า Market Cap. ประมาณ 1.30 แสนล้านบาท ถือเป็นหุ้นขนาดใหญ่ในดัชนี VN30 ของตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ (Ho Chi Minh Stock Exchange)
ภาพจาก: Vietnam Business Inside
จุดเริ่มต้นของ MWG เกิดขึ้นในปี 2004 โดยชายหนุ่มที่ชื่อว่า ‘Tai Duc Nguyen’ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์เล็งเห็นถึงการเติบโตของตลาดมือถือ จึงเปิดร้านขายโทรศัพท์มือถือสาขาแรกในนครโฮจิมินห์ ภายใต้แบรนด์ Thegioididong
หลังผ่านการลองผิดลองถูกในระยะแรก บริษัทก็ได้ขยายตลาดจากการขายมือถือ ไปสู่อุปกรณ์ด้านไอทีอื่น ๆ รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าในปี 2010 ตามด้วยการรุกธุรกิจมินิมาร์ทที่จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในปี 2015 ปัจจุบัน MWG มีเครือข่ายร้านค้าปลีกรวมกว่า 5,000 สาขาทั่วเวียดนาม
ราชาค้าปลีกแห่งเวียดนาม
ภาพของ MWG ทุกวันนี้ มาไกลเกินกว่าการเป็นแค่ร้านขายสินค้าไอทีแล้ว แต่คือยักษ์ใหญ่แห่งวงการค้าปลีกที่ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ พร้อมพัฒนากลยุทธ์ Omni-channel ที่ผสมผสานการขายหน้าร้านและออนไลน์เข้าด้วยกันอย่างมีประสิทธิภาพ
ฉายา COM7 เมืองไทย จึงอาจจะไม่ได้นิยามธุรกิจของ MWG ได้ชัดเจนขนาดนั้นแล้วในปัจจุบัน เพราะเราเริ่มได้ยินนักวิเคราะห์นำมาเปรียบเทียบกับหุ้นค้าปลีกอย่าง CPALL เนื่องจากทั้งคู่ต่างเป็นผู้เล่นหลักในอุตสาหกรรมค้าปลีกของอาเซียน โดยมุ่งสร้างแพลตฟอร์มค้าปลีกที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่
โครงสร้างธุรกิจค้าปลีกของ MWG แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
ภาพจาก: MWG Investor Relations
1. Dien May Xanh (DMX) 44.6% ของรายได้รวม
ร้านค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เช่น ทีวี ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ และอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัว คล้ายกับ PowerBuy ในไทย ปัจจุบัน Dien May Xanh มีสาขารวม 2,023 แห่ง ซึ่งเติบโตขึ้นมากลายเป็นธุรกิจหลักของบริษัทตามการขยายตัวของชนชั้นกลางในเวียดนาม
2. Bach Hoa Xanh (BHX) 30.7% ของรายได้รวม
ร้านสะดวกซื้อสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคที่เน้นจำหน่ายอาหารสด ผัก-ผลไม้ และของใช้ทั่วไป โดยใช้โมเดลเหมือน 7-Eleven ปัจจุบันมีจำนวน 2,184 สาขา ถือเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มเติบโตรวดเร็วมาก
3. Thegioididong (TGDD) 22.5% ของรายได้รวม
ร้านค้าปลีกอุปกรณ์เทคโนโลยี โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ โดยมีทั้งกลุ่มแบรนด์ทั่วไป Thegioididong จำนวน 930 สาขา ควบคู่กับร้าน TopZone อีก 85 สาขา ซึ่งได้สิทธิเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า Apple อย่างเป็นทางการ เช่นเดียวกับ iStudio หรือ Studio 7 ในไทย
4. ร้านค้าปลีกอื่น ๆ เช่น An Khang Pharmacy, AVAKids, EraBlue 2.2% ของรายได้รวม
กลุ่มธุรกิจใหม่ของ MWG ที่ตั้งใจขยายไปสู่ร้านค้าปลีกอื่น ๆ อาทิ ร้านขายยา สินค้าแม่และเด็ก รวมถึงการเจาะธุรกิจร้านค้าปลีกในประเทศอินโดนีเซีย และประเทศในภูมิภาคอาเซียนอื่น ๆ ที่มีศักยภาพ
ผลประกอบการของ MWG
ภาพจาก: Yuanta Securities Thailand
ภาพรวมผลประกอบการปี 2024 MWG มีรายได้รวม 134,341 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 14.0% จากช่วงปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ 3,733 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 21% YoY โดยโครงสร้างรายได้มาจากกลุ่มสินค้าโทรศัพท์มือถือและเครื่องใช้ไฟฟ้า 66.7% สินค้าอุปโภคบริโภคและอาหารสด 30.6% และอื่น ๆ อีก 6.5%
ส่วนผลประกอบการงวดล่าสุด (ครึ่งปีแรก 2025 สิ้นสุดเดือนมิถุนายน) MWG มีรายได้รวม 73,655 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 12.5% YoY และมีกำไรสุทธิ 3,205 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 54% YoY
แรงหนุนการเติบโตมาจากยอดขายสาขาเดิม (Same Store Sale) +12% สะท้อนการบริหารจัดการร้านค้าที่ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่โตต่อเนื่อง ส่วนช่องทางออนไลน์ก็เป็นแหล่งรายได้ใหม่ที่ขยายตัวได้ค่อนข้างดี คิดเป็นประมาณ 6% ของยอดขายรวม
เส้นทางการเติบโตของ MWG
ภาพจาก: MWG Investor Relations
จุดเปลี่ยนทางธุรกิจของ MWG เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2015 และเน้นเติบโตด้วยจำนวนสาขา (Quantity) จนมาถึงช่วงโควิด ทำให้หลังจากนั้นบริษัทหันมาเน้นการควบคุมคุณภาพและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมากขึ้น ด้วยกลยุทธ์ลดจำนวนร้าน แต่เน้นเพิ่มอัตรากำไร (Quality)
แผนในอนาคตของ MWG วางเป้าที่จะรุกตลาดอาเซียนมากยิ่งขึ้น หลังก่อนนี้เข้าไปจับตลาดค้าปลีกในอินโดนีเซียผ่าน EraBlue ซึ่งจะเน้นประเทศที่มีการเติบโตของกำลังซื้อชนชั้นกลาง รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เพราะเป็นปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกในระยะยาว
โอกาสลงทุนหุ้น Mobile World (MWG) ผ่าน Definit Global Select (DGS) กลยุทธ์ลงทุน DR คัดหุ้นนอกคุณภาพ จัดพอร์ตให้อัตโนมัติ ไม่ต้องจับจังหวะลงทุนเอง
สนใจลงทุน คลิกเลย
อ้างอิง: MWG Investor Relations, Yuanta Securities Thailand
คำเตือน: การลงทุนอาจมีการกระจุกตัวสูงทั้งในรายหุ้นและรายอุตสาหกรรม | การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีต และผลการเปรียบเทียบผลการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต | ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจสัญญารับฝาก DR ก่อนการลงทุน | การลงทุนผ่าน DR มีความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาของหลักทรัพย์ต่างประเทศ และความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา DR เอง | บริษัทมิได้การันตีถึงผลตอบแทนที่จะได้จากคำแนะนำการลงทุนดังกล่าว มีความเสี่ยงที่ผลตอบแทนอาจไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือมีผลขาดทุนได้ | สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เดฟินิท จำกัด ในช่วงเวลาวันทำการตั้งแต่ 09:00-17:00 น. ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-109-9933 และทาง Email support@definitinvestment.com