ชัวร์ก่อนแชร์: ฉีดวัคซีน เสี่ยงติดไข้หวัดใหญ่มากขึ้น จริงหรือ?
27 สิงหาคม 2568
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล
ข้อมูลน่าสงสัย :
มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่เผยแพร่ในสหรัฐอเมริกา เมื่อมีการอ้างอิงงานวิจัยที่พบว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ทำให้เสี่ยงติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่มากกว่าคนไม่ฉีด 27% นำไปสู่การเรียกร้องให้มีการยุติการรณรงค์ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในทันที
บทสรุป :
1.เป็นข้อกล่าวหาที่อ้างงานวิจัยที่ยังไม่ตีพิมพ์
2.Cleveland Clinic ปฏิเสธการด้อยค่าวัคซีน
3.ผู้วิจัยเน้นแค่ประสิทธิผลวัคซีนในฤดูกาลแพร่ระบาดที่ผ่านมาเท่านั้น
4.หน้าที่หลักของวัคซีนคือการป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิต
FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :
งานวิจัยต้นเรื่อง
งานวิจัยที่ถูกอ้างถึงการเปิดโปงความไร้ประสิทธิภาพของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ คืองานวิจัยของศูนย์การแพทย์ Cleveland Clinic ที่เผยแพร่ทางเว็บไซต์ medRxiv เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2025 ที่ผ่านมา
ทีมวิจัยได้ทดสอบประสิทธิผลวัคซีนไข้หวัดใหญ่กับเจ้าหน้าที่ของ Cleveland Clinic จำนวน 53,402 ราย เป็นระยะเวลา 25 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2024 เป็นต้นมา
แบ่งเป็นกลุ่มฉีดวัคซีนและไม่ฉีดวัคซีน โดยบุคลากรที่ฉีดวัคซีนมีทั้งหมด 43,857 ราย หรือ 82.1%
หลังการทดสอบพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของ Cleveland Clinic ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 1,079 ราย หรือ 2.02% และพบว่ากลุ่มฉีดวัคซีนติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่มากกว่ากลุ่มไม่ฉีดวัคซีนที่ 27% จึงประเมินว่าประสิทธิผลของวัคซีนอยู่ที่ −26.9%
ข้อจำกัดงานวิจัย
ผลวิจัยถูกกลุ่มต่อต้านวัคซีนนำไปใช้เป็นเครื่องมือโจมตีวัคซีนไข้หวัดใหญ่อย่างแพร่หลาย แต่กระนั้นผลของงานวิจัยยังขาดความน่าเชื่อถือจากข้อจำกัด 2 ข้อ ได้แก่
1.เป็นงานวิจัยที่ยังไม่ตีพิมพ์
งานวิจัยยังอยู่ในสถานะ Preprint ซึ่งยังไม่ผ่านการตรวจสอบความถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญ จึงไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงทางการแพทย์ได้ และบ่อยครั้งที่งานวิจัยแบบ Preprint จะเปลี่ยนแปลงผลวิจัยหลังการตีพิมพ์อีกด้วย
2.คนไม่ฉีดวัคซีนมักไม่แจ้งผลการติดเชื้อ
ผลการประเมินประสิทธิผลวัคซีนของผู้วิจัยวัดจากจำนวนผู้ติดเชื้อ หากผู้ติดเชื้อไม่แจ้งผลการติดเชื้อของตัวเอง ผลของงานวิจัยอาจไม่ตรงกับความเป็นจริง
เจฟฟรีย์ เอส. มอร์ริส ผู้อำนวยการศูนย์ชีวสถิติ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย วิเคราะห์ว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนมีแนวโน้มเข้ารับการตรวจหาเชื้อมากกว่าผู้ไม่ฉีดวัคซีนประมาณ 27% ปัจจัยดังกล่าวอาจเป็นตัวแปรที่ทำให้ผู้ฉีดวัคซีนติดเชื้อมากกว่าคนไม่ฉีด
Cleveland Clinic ปฏิเสธการด้อยค่าวัคซีน
แอนเดรีย พาเซตติ โฆษกของ Cleveland Clinic ชี้แจงว่า กลุ่มตัวอย่างในงานวิจัยคือเจ้าหน้าที่ของ Cleveland Clinic ส่วนใหญ่คือคนวัยทำงาน มีส่วนน้อยที่เป็นผู้สูงอายุและมีปัญหาด้านระบบภูมิคุ้มกัน และไม่มีเด็กอยู่ในการทดลอง นอกจากนี้พนักงาน 10,900 รายยังทำงานใกล้ชิดกับผู้ป่วย
ดังนั้นจึงไม่อาจนำไปผลการวิจัยไปเปรียบเทียบประสิทธิผลของวัคซีนที่ใช้งานจริงได้ โดยเฉพาะกับกลุ่มเสี่ยงที่จะป่วยหนักจากไวรัสไข้หวัดใหญ่
นาบิน เชสทา แพทย์และผู้วิจัยร่วมของงานวิจัยชิ้นนี้ ยอมรับว่า อาจจะมีตัวแปรกวนอื่น ๆ ที่ทำให้พบกลุ่มฉีดวัคซีนติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่มากกว่า แต่กระนั้น ผลวิจัยไม่ได้บอกว่าวัคซีนคือปัจจัยเพิ่มความเสี่ยง แต่ประสิทธิผลวัคซีนในฤดูกาลแพร่ระบาดที่ผ่านมาอาจไม่ดีเท่าที่ควร
ความท้าทายของการเลือกสายพันธุ์ไวรัสเพื่อผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่
ทุก ๆ ปีจะมีการรวบรวมข้อมูลการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดใหญ่โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อกำหนดสายพันธุ์ไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่เหมาะสมกับการผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลแพร่ระบาดที่จะมาถึง
แต่เนื่องจากไวรัสไข้หวัดใหญ่มีการกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา จึงเป็นความท้าทายของวงการแพทย์ในการทำนายไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่คาดว่าจะเกิดการแพร่ระบาดในแต่ละปี
ข้อมูลจาก CDC ระบุว่า หากปีใดสามารถผลิตวัคซีนตรงกับสายพันธุ์ไวรัสที่แพร่ระบาด จะสามารถลดโอกาสการป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่จนต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลถึง 40-60%
แต่หากผลิตวัคซีนไม่ตรงกับสายพันธุ์ไวรัสที่แพร่ระบาด ประสิทธิผลของวัคซีนจะลดลงอย่างชัดเจน เช่นในฤดูกาลแพร่ระบาดในสหรัฐฯ ปี 2014-2015 ที่ประสิทธิผลของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ลดลงเหลือเพียง 14%
โดยประสิทธิผลของวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฤดูกาลแพร่ระบาดในสหรัฐฯ ปี 2023-2024 อยู่ที่ 42%
หัวใจของวัคซีนคือป้องกันป่วยหนักและเสียชีวิต
ข้อมูลที่ Cleveland Clinic ชี้แจงต่อเว็บไซต์ Health.com ระบุว่า ผลการวิจัยเน้นตรวจสอบอัตราการติดเชื้อ ไม่ได้ตรวจสอบอัตราการป่วยหนักและการรักษาตัวในโรงพยาบาล ซึ่งวัคซีนมีประสิทธิผลที่ดีเสมอมา
โรเบิร์ต ฮอฟกินส์ จูเนียร์ ผู้อำนวยการการแพทย์ สถาบันโรคติดเชื้อแห่งชาติสหรัฐอเมริกา ย้ำว่า งานวิจัยของ Cleveland Clinic ไม่ได้ประเมินหน้าที่ที่แท้จริงของวัคซีนในการลดความเสี่ยงป่วยหนักและเสียชีวิตจากไวรัสไข้หวัดใหญ่ และไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการเรียกร้องให้ยุติการฉีดวัคซีน เพราะจะทำให้มีผู้คนล้มป่วยและเสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่มากกว่าที่เป็นอยู่อย่างมาก
ข้อมูลอ้างอิง :
https://www.politifact.com/article/2025/apr/11/cleveland-clinic-study-flu-vaccine-infection/
https://www.health.com/flu-shot-effectiveness-11714687