รุ่นพี่ม้าทรงกำมะลอ! ลวงล่วงละเมิดเยาวชนชาย คาดมีเหยื่อถึง 30 ราย
รุ่นพี่ม้าทรงกำมะลอ! ลวงล่วงละเมิดเยาวชนชาย คาดมีเหยื่อถึง 30 ราย ผู้ปกครองตกใจหลังทราบว่าลูกตนเองโดนด้วย
(13 ส.ค. 2568) เวลา 13.00 น. ที่ สภ.เมืองปัตตานี ด้าน น.ส.ณภัชกมล สังข์แก้ว ผู้ช่วยต้นอ้อมูลนิธิเป็นหนึ่ง ประจำ จ.ปัตตานี ได้นำ ครอบอบครัวผู้เสียหาย 13 คน เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังมูลนิธิเป็นหนึ่งของต้นอ้อได้รับการร้องเรียนจากแม่ของเยาวชนชายรายหนึ่ง ซึ่งระบุว่า บุตรชายตกเป็นเหยื่อการกระทำอนาจาร และล่วงละเมิดทางเพศ โดย นายโฟ้ (สงวนนามสกุล) ชายวัย 25 ปี ซึ่งมีพฤติกรรมแอบอ้างตัวเป็น ม้าทรง ของศาลเจ้าในพื้นที่ จ.ปัตตานี เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเข้าถึงกลุ่มเยาวชน
สำหรับจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดจากการที่ผู้ปกครองเริ่มสังเกตพฤติกรรมผิดปกติของบุตรชาย จนกลายเป็นการเปิดโปงการล่อลวงที่อาจมีผู้เสียหายไม่ต่ำกว่า 30 คน
โดยพฤติการณ์ผู้ก่อเหตุจากข้อมูลที่ได้รับ ผู้ก่อเหตุมีภูมิลำเนาอยู่ใน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เข้ามาทำงานเป็นผู้ดูแลศาลเจ้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ และใช้สถานะที่แอบอ้างว่าเป็นม้าทรงในการสร้างความน่าเชื่อถือในสายตาชาวบ้านและเยาวชน โดยอาศัยโอกาสในช่วงที่มีการจัดงานประเพณีประจำปี เช่น หามพระลุยไฟ ซึ่งดึงดูดผู้คนจำนวนมาก รวมถึงเยาวชนชายในพื้นที่
ด้วยบุคลิกที่ดูเป็นผู้ใหญ่และมีบทบาทในพิธีกรรมทางศาสนา ทำให้กลุ่มเยาวชนเกิดความศรัทธาและไว้วางใจ ผู้ก่อเหตุใช้วิธีเข้ามาพูดคุย ทำความรู้จัก และชักชวนให้ผู้เสียหายมานั่งสมาธิฝึกจิต อ้างว่าเป็นการเสริมบารมีและฝึกความเข้มแข็งทางจิตใจ เมื่อสร้างความใกล้ชิดได้มากขึ้น ก็เริ่มพูดคุยผ่านโทรศัพท์ส่วนตัวและวิดีโอคอลขอดูของลับ บางรายถูกชักชวนไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ หรือซื้อของขวัญที่ผู้เสียหายต้องการให้ เพื่อสร้างความผูกพัน ก่อนจะใช้จังหวะอยู่ตามลำพังในบริเวณศาลเจ้า กระทำการอนาจาร และมีเด็ก 2-3 ได้ถูกล่วงละเมิดเพศทางทวารหนัก เชื่อว่ายังมีเด็กอีกหลายคนที่ถูกล่วงละเมิดเพศทางทวารหนัก โดยเหตุการณ์ครั้งนี้มีเด็กผู้เสียหายอายุราว 12-15 ปี
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบปากคำผู้ปกครองของเด็กทุกคนที่ สภ.เมืองปัตตานี ทั้งหมด และหลังจากนี้จะทำการสอบปากคำเด็ก ส่วนผู้ก่อเหตุเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ฝากขังไว้แล้ว โดยทางครอบครัวย้ำว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อดำเนินคดีเอาผิดกับชายคนดังกล่าวในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็ก และข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง
ขณะเดียวกันมูลนิธิเป็นหนึ่งกำลังประสานงานอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ เพื่อเร่งรัดขั้นตอนการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมประสาน พม. เข้าดูแลฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้เสียหาย เนื่องจากเหตุการณ์นี้ไม่เพียงสร้างบาดแผลทางกาย แต่ยังส่งผลต่อสภาพจิตใจของเยาวชนและครอบครัวอย่างรุนแรง
เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความสะเทือนใจและตื่นตระหนกแก่ชุมชนใน จ.ปัตตานี เป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ก่อเหตุใช้ศรัทธาทางศาสนาเป็นเครื่องมือในการล่อลวงเยาวชน จนเกิดเป็นคดีสะเทือนใจที่สังคมจับตามอง และคาดว่าการสอบสวนในระยะต่อไปอาจพบผู้เสียหายเพิ่มเติมอีก
พ.ต.อ.เจฟรีย์ ไศลมานกุล ผู้กำกับการ สภ.เมืองปัตตานี ระบุว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างสอบปากคำผู้เสียหายและพยานแวดล้อม พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน โดยจะให้ความคุ้มครองพยานและผู้เสียหายตามขั้นตอนกฎหมายอย่างเคร่งครัด ด้านส่วนเยียวยาจังหวัดได้เข้ามาดูเคสนี้แล้ว พร้อมดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ขอให้ผู้ปกครองที่สงสัยว่าบุตรหลานอาจตกเป็นเหยื่อ เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือประสานมูลนิธิฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือโดยด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ก่อเหตุหลบหนีหรือทำร้ายเหยื่อเพิ่มเติม
ผู้ปกครองของน้องเอมและน้องเอ (นามสมมุติ) หลานชายวัย 14 และ 15 ปี เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา ระหว่างที่เด็กๆ เข้าร่วมโครงการอบรมชาณสมาธิในพื้นที่อำเภอเมืองปัตตานี ชายผู้ก่อเหตุใช้ตำแหน่ง "รุ่นพี่" ในค่ายและสถานะม้าทรงสร้างความน่าเชื่อถือกันเพื่อนออกไป และหลอกพาเข้าห้องก่อนออกอุบายแยกเด็กออกจากกลุ่ม อ้างว่าจะฝึกสมาธิขั้นสูงและทำพิธีเฉพาะบุคคล
"น้องเอ เชื่อใจ เพราะเห็นว่าเป็นรุ่นพี่ที่ค่าย ทุกคนเคารพ เมื่อเข้าไปอยู่ประมาณครึ่งชม.แต่กลับถูกล่วงละเมิด ถอดกางเกงลูบแล้วจับพร้อมอมอวัยวะเพศน้องเอ จากนั้นทำกิจกรรมสำเร็จความใคร่ กับน้องเอ จนน้องเอต้องพยายามหนีกลับบ้านไม่ยอมมาเข้าอบรมอีก ได้เล่าให้กับน้องเอมจนมาแจ้งผู้ปกครองทราบ เด็กบางคนรู้เรื่องและไม่กล้าบอกใครเพราะกลัวโดนทำร้ายหรือถูกกล่าวหาว่าโกหกอีกด้วย" ผู้ปกครอง กล่าวทั้งน้ำตา
น.ส.ณภัชกมล สังข์แก้ว ผู้ช่วยต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง วันนี้ได้รวบรวมผู้เสียงทั้งหมเพามาเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากกณีที่กลุ่มเยาวชนชายอายุ 12-15 ปี ถูกอนาจารและล่วงละเมิดทางเพศทางทวารหนัก เพราะว่ามีผู้ปกครอบบางคนก็ยังไม่ได้ทราบว่าลูกตนเองโดนกระทำ เรื่องนี้เกิดขึ้นได้มีผู้ปกครองท่านแรกได้ประสานมาขอความช่วยเหลือ กลัวว่าคดีจะไม่คีบหน้า
ส่วนสภาพจิตใจของครอบครัวจากที่ดูมาพบว่าทุกคนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและไม่คิดว่าลูกตนเองจะโดนด้วย ก็อยากจะฝากบอกกับผู้ก่อเหตุให้หยุดพฤติกรรมนี้แบบนี้ และเลิกเอาเพื่อนมาข่มขู่ครอบครัวผู้เสียหาย และไม่ต้องโทรมาเคลียร์ เพราะเป็นคดีอาญาแผ่นดินยอมความไม่ได้ สำหรับพี่ต้นอ้อทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดี และไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากจึงรีบประสานงานให้มาเข้ามาแจ้งความ