“หลวงพ่ออลงกต” เทสื่อ “สุชาติ” ขีดเส้น 10 วัน สั่งสอบทุกประเด็น
วันที่ 19 ส.ค. 68 นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังลงพื้นที่วัดพระบาทน้ำพุ ว่า วันนี้ได้มารับฟังปัญหา ซึ่งยังไม่ได้ข้อมูลอะไรมาก แต่ก็พบว่ามีข้อสังเกตหลายประการโดยเฉพาะเรื่องที่ดิน โดยได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีไปดูว่า มูลนิธิที่มีการเปิดรับบริจาคนั้น มีการรับบริจาคอย่างถูกต้องหรือไม่ มีการใช้เงินอย่างถูกต้องหรือไม่ และเกี่ยวข้องกับวัดอย่างไร เพราะการเกี่ยวข้องกับวัดก็ถือว่าเป็นสมบัติของวัด ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ต้องเข้ามาตรวจสอบด้วย
ทั้งนี้ การที่มีการตั้งมูลนิธิขึ้นมา ไม่รับบริจาคเข้าวัดโดยตรงก็เชื่อว่าเป็นเทคนิค ซึ่งจะต้องไปตรวจสอบตั้งแต่เริ่มต้นว่ามูลนิธิที่ตั้งขึ้นมาใช้อะไรจูงใจให้ประชาชนมาบริจาค มีการใช้ชื่อหลวงพ่อหรือชื่อวัดหรือไม่ ส่วนกรณี หมอบี ที่เปิดบัญชีตัวเองมารับเงินบริจาคแล้วค่อยนำเงินไปให้หลวงพ่อก็มองว่าเป็นกระบวนการที่ไม่บริสุทธิ์เท่าไหร่ โดยเรื่องช่องว่างนี้ก็จะต้องไปพิจารณาแก้กฎกระทรวงด้วย
ส่วนเรื่องที่ดิน มีข้อสงสัยเยอะมาก โดยที่ดินที่อยู่ในชื่อของมูลนิธินั้นมีอยู่ไม่กี่ร้อยไร่ แต่ที่ดินที่เป็นชื่อกรรมการในมูลนิธิถือครองนั้นมีเป็นพันไร่ ซึ่งตนก็ได้ให้ทางจังหวัดไปตรวจสอบว่าการถือครองของกรรมการดังกล่าว เป็นการถือครองในนามส่วนตัว หรือถือครองแทนมูลนิธิ หากถือครองส่วนตัวก็ต้องดูว่ากรรมการมีปัญญาจะมีทรัพย์สินขนาดนั้นหรือไม่ หรือถ้าถือครองในนามมูลนิธิก็ต้องหาเหตุผลว่าทำไมไม่ใช้ชื่อของมูลนิธิถือครองโดยตรง ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นปัญหาใหญ่
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องการใช้เงินของมูลนิธิ เงินของวัดไปสร้างอคาเดมี สร้างสนามมากมาย อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายหลายแสนต่อเดือน ก็ต้องให้สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ตรวจสอบว่า เป็นการนำเงินไปใช้โดยถูกต้องหรือไม่ สมเหตุสมผลไหม แล้วทำไมต้องสร้างใหญ่โต เพราะหน้าที่ของวัดคือการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา การก่อสร้างดังกล่าวถือว่าทำเกินหน้าที่หรือไม่
นายสุชาติ ระบุด้วยว่า ได้ตั้งกรอบระยะเวลาในการตรวจสอบประเด็นต่างๆ ไม่เกิน 10 วัน ส่วนเรื่องที่ทางตำรวจสอบสวนกลางรวบรวมพยานหลักฐานอยู่นั้น ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจ ตนไม่ก้าวก่าย แต่หากตำรวจจะมีการประสานขอข้อมูลอะไร ก็ยินดีให้ความร่วมมือ
ผู้สื่อข่าวยังถามถึงประเด็นเรื่องกระแสข่าวว่าหลวงพ่ออลงกต แอบมีความสัมพันธ์กับสีกาหรือแอบมีครอบครัว จะต้องตรวจสอบด้วยหรือไม่ นายสุชาติ จึงได้มอบหมายนายอำเภอให้ไปตรวจสอบ หาข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่และบุคคลใกล้ชิด และรายงานเรื่องนี้ให้ทราบภายใน 1-2 วัน ส่วนเรื่องวุฒิการศึกษา ก็จะให้ตรวจสอบว่าได้ใช้วุฒิในการเลือกสมณศักดิ์หรือไม่ หากใช้วุฒิปลอมหรือเอกสารราชการปลอมก็จะมีความผิด
เบื้องต้นตอนนี้ตนยังไม่ได้ติดต่อหลวงพ่อ ซึ่งหลวงพ่อก็ควรที่จะเข้าประชุม เพราะจะต้องเป็นผู้ชี้แจงทุกอย่าง ส่วนการที่หลวงพ่อไม่เข้ามาประชุมวันนี้ตั้งข้อสงสัยอะไรหรือไม่ นายสุชาติ ตอบว่า“ท่านอาจจะติดภารกิจอะไรก็ไม่ทราบ หรือท่านจะไม่อยากเจอนักข่าวเราก็ไม่ทราบ ต้องไปถามท่านเองฝากถามด้วย”
ส่วนกรณีสังคมไม่มั่นใจหากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ตรวจสอบวัด เนื่องจากมีข้อมูลว่าหลายงานมาขอความอนุเคราะห์ของหลวงพ่อลงกต ในการทำกิจกรรม ปรับปรุง สร้างอาคาร โดยเฉพาะหน่วยงานรัฐในพื้นที่
นายสุชาติ ระบุว่า ต้องไปตรวจสอบ ว่าเงินที่นำไปสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าว เป็นเงินส่วนไหน เป็นเงินส่วนตัวของหลวงพ่ออลงกตหรือไม่ หรือเป็นเงินของมูลนิธิ โดยให้ทางอำเภอเมืองลพบุรีไปตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า เงินดังกล่าวใช้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของเงินที่ได้มาหรือไม่.