จับอาการสุดเครียด ‘นายกฯอิ๊งค์’ ฟังศาล 22 ส.ค. คิว ‘ทักษิณ’ ตัดสินคดี ม.112
วันที่ 21 ส.ค. ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยานบุคคล กรณีที่ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องของ สว.จำนวน 36 คน ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของ “นายกฯ อิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 106 (4) และ (5) หรือไม่ เนื่องจากไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีคลิปเสียงบทสนทนาระหว่าง น.ส.แพทองธาร และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา
ในช่วงเช้าก่อนไปศาล นายกฯ อิ๊งค์ พร้อมคนในครอบครัว คือ “เอม” พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ พี่สาว และสามี ณัฐพงษ์ คุณากรวงศ์ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ “ปอ” ปิฎก สุขสวัสดิ์ สามีนายกฯ อิ๊งค์ และ ด.ญ.ธิธาร สุขสวัสดิ์ บุตรสาวนายกฯ เข้าเฝ้าสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในวาระวันคล้ายวันเกิดครบ 39 ปี ของนายกฯ ซึ่ง เอม พินทองทา ได้โพสต์ IG อวยพรน้องสาวด้วย
ต่อมา เวลา 10.00 น. นายกฯ ไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ ฝ่ายผู้ร้องทางประธานวุฒิสภามอบฉันทะให้ผู้แทนมาศาลประกอบด้วย 1.พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. 2.พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. 3. นายชนินทร์ แก่นหิรัญ ทนายความ (ทำคดีเขากระโดงด้วย ) 4. นายตฤณ แก่นหิรัญ 5. นายอมร สุวรรณโรจน์ ส่วนผู้ถูกร้อง คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และพยานบุคคล คือนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
ในระหว่างที่ศาลได้อ่านกระบวนวิธีพิจารณาคดี กล้องได้จับภาพมาที่สีหน้าของนายกฯ สังเกตได้ว่าค่อนข้างเคร่งเครียด กะพริบตาถี่ มองต่ำ เม้มปาก และกุมมือไว้ด้านหน้าพร้อมทั้งบีบนิ้วโป้ง
ต่อมา เวลา 13.02 น. หลังศาลรัฐธรรมนูญได้ไต่สวนพยาน ใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่า นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ แจ้งว่า ให้คู่กรณียื่นคำแถลงปิดคดีต่อศาลภายในวันที่ 25 ส.ค. เพื่อให้ศาลมีเวลาเขียนคำวินิจฉัยส่วนตัวด้วย ส่วนการนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือและลงมติ และนัดฟังคำวินิจฉัยให้เป็นไปตามกำหนดเดิม คือ 15.00 น. วันที่ 29 ส.ค.
นายกฯ ออกจากห้องพิจารณาคดี ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า กำลังใจดีหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ไม่ตอบคำถามเพียงแต่พยักหน้ารับ เมื่อถามอีกว่าทำเต็มที่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร พยักหน้ารับ
วันที่ 22 ส.ค. เวลา 10.00 น. ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ 1860/2567 ระหว่างพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง "อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร" จำเลยในความผิดตาม ป.อาญา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 จากกรณีที่นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์กับสื่อเกาหลีใต้เมื่อเดือน พ.ค. 2558
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก "มท.อ้วน" ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย มอบอำนาจ นายธงชัย พรเศรษฐ์ และนายกณวรรธน์ อรัญ ทนายความ ยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ในฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีที่กล่าวว่าให้นายภูมิธรรมลองตัดขาจะได้รู้ถึงหัวอกของทหารที่ประจำการอยู่ที่ชายแดน การพูดดังกล่าว เป็นการกระทำที่เสื่อมเสียชื่อเสียง ด้อยค่าผู้บริหารประเทศในยามที่ประเทศกำลังประสบปัญหา ศาลรับฟ้องแล้วเป็นเลขคดีที่ อ.2337/2568 นัดไต่สวนวันที่ 27 ต.ค. เวลา 09.00 น.
ที่รัฐสภา นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สว. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) แถลงปฏิเสธว่า วุฒิสภาไม่คว่ำกฎหมาย พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ซึ่งจะเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภา ในวันที่ 1-2 ก.ย.นี้ แม้จะเห็นว่า การจัดตั้งงบประมาณไม่ได้สะท้อนการแก้ปัญหาที่สำคัญเร่งด่วน
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ไม่ได้กังวลกับข่าววุฒิสภาจะคว่ำกฎหมายงบประมาณ วุฒิสภามีหน้าที่นำไปพิจารณา เดือน ก.ย. ก็ต้องจบตามหลักการ ไม่มีปัญหาอะไร เพราะมีแนวทางการปฏิบัติของทั้งสองสภาอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงการประชุมสภาเมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา หลายคนมองว่าเป็นการชิงปิดประชุมก่อนเพื่อป้องกันองค์ประชุมล่ม ในกฎหมายตั๋วร่วม ประธานวิปรัฐบาลกล่าวชี้แจงว่า การประชุมวันที่ 20 ส.ค.ไม่มีการนับองค์ประชุม แต่เพราะสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง กว่า 165 มาตรา และมีการลงมติตลอด จากนั้นพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมอีก พิจารณาไปถึง 39 มาตรา จาก 54 มาตรา
“ผมจึงเดินไปบอกกับประธานในที่ประชุมว่า ขออนุญาตปิดการประชุม เพราะวันนี้ทำงานหนักมากแล้ว นอกจากนี้ยังมีเหตุผลที่ สส.มุสลิมจะต้องประกอบศาสนกิจ หรือการละหมาด จึงขออนุญาตตนว่า ต้องออกไปตั้งแต่ 17.00 น. ตนจึงขอไว้ว่า ขอให้ถึง 18.00 น. แต่เมื่อถึงเวลากว่า 18.40 น. ก็ยังพิจารณาไม่เสร็จ สส.มุสลิมก็ต้องไปประกอบศาสนกิจ การปิดประชุมเมื่อวันที่ 20 ส.ค. ไม่ใช่เพราะประธานอยากปิด แต่ผมเป็นคนไปร้องขอ”
ที่รัฐสภา “สส.ใบพลู” รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงข้อเสนอการยกเลิก MOU 43 (พื้นที่อ้างสิทธิชายแดน) และ 44 (พื้นที่อ้างสิทธิไหล่ทวีป) ว่า อยากทำให้กลไกในการเจรจาตั้งอยู่บนพื้นฐานเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติและคนไทยเป็นสำคัญ ควรตั้ง กมธ.วิสามัญ ที่มีทั้งนักการทูต นักวิชาการ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นๆ ได้ศึกษาเรื่องนี้ และมีการตัดสินใจออกมาอย่างรอบคอบ
“MOU 44 มีเรื่องของก๊าซธรรมชาติและมีการแบ่งสันปันส่วนให้ภาคเอกชนแล้ว สมมุติถ้ายกเลิก ภาคเอกชนเหล่านี้เขาจะไปใช้วิธีการบางอย่างที่ทำร้ายประเทศไทยหรือไม่ เขาอาจจะมีรัฐบาลต่างชาติที่อยู่เบื้องหลัง ก็ต้องพิจารณาว่า เรายกเลิกฝั่งเดียวได้หรือไม่ ในส่วนของสภา มีสิทธิที่จะรู้และตัดสินใจเรื่องนี้”
ที่บริเวณลานประชาชน ข้างอาคารรัฐสภา แยกเกียกกาย เขตดุสิต กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ตั้งเวที "รวมพลังยกเลิก MOU 43-MOU44 เพื่อรักษาอธิปไตย" ย้ำจุดยืนตาม สส. พรรคภูมิใจไทย ที่เสนอญัตติให้ยกเลิก MOU43-44 เพราะ MOU 43-44 ที่ยึดแผนที่อัตราส่วน 1 ต่อ 2 แสน ทำให้เกิดข้อพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชา ทำให้กัมพูชาอ้างเป็นพื้นที่ทับซ้อน ทั้งที่ทางทหารได้ยึดตามแผนที่ 1 ต่อ 50,000 เพื่อให้เกิดความชัดเจน จึงเห็นควรให้ยกเลิก MOU 43-44 และทำกรอบการเจรจาใหม่แบบทวิภาคี ไทยควรเสนอ แผนที่ 1 ต่อ 50,000 เป็นธงหลักในการเจรจา
สภาผู้แทนราษฎรได้นัดประชุมเรื่อง MOU 43-44 หลังวาระรับทราบรายงาน นายไชยา พรหมา กล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 15.00 น. สร้างความงุนงงให้กับสมาชิก โดยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า งงว่า เหตุใดนายไชยาจึงสั่งปิดประชุม ทั้งที่วิปรัฐบาล-วิปฝ่ายค้านตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ให้ประชุมลับพิจารณา MOU 43-44 ยืนยันว่าตนไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ตกลงกันแล้วว่าจะให้มีการอภิปราย แต่ไม่ต้องตั้ง กมธ.วิสามัญ (มีคนนอกร่วม กมธ.ได้) ให้ส่งเรื่องให้ กมธ.สามัญรับไปดำเนินการ
แต่นายไชยา พรหมา ให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่สั่งปิดประชุมเพราะได้รับการประสานงานจากวิปรัฐบาลว่า ได้หารือกับวิปฝ่ายค้านเรียบร้อยแล้วว่า หากหมดวาระการรับทราบการประชุมแล้ว ให้ปิดประชุม จึงดำเนินการตามที่แจ้งมา
พรรคฝ่ายค้านร่วมกันแถลงข่าว “เอิร์ธ” ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 ส.ค. เราได้รับการประสานมาว่าจะมีการตั้ง กมธ.วิสามัญขึ้นมาศึกษาเอ็มโอยูทั้ง 2 ฉบับ จึงเตรียมรายชื่อ กมธ.วิสามัญไว้แล้ว ต่อมากลับบอกให้ยกเลิก และจะให้ส่งเรื่องไป กมธ.สามัญแทน ซึ่งตนก็ยินยอมไปตามนั้น การชิงปิดสภาโดยพวกเราไม่รู้ล่วงหน้าเป็นสิ่งที่อันตรายมากๆ ต่อระบอบประชาธิปไตย และอันตรายต่อความหวังของประชาชนที่มีต่อสภา และการเมือง
ส่วนความคืบหน้าคดีเขากระโดง ที่ดีเอสไอเตรียมจะตั้งเป็นคดีพิเศษ ในวันที่ 29 ส.ค. พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้อำนวยการกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนที่ 97/2568 ลงพื้นที่แขวงการทางรถไฟลำปลายมาศ และกล่าวว่า พบว่า แผนที่ที่ทำร่วมระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ร่วมกับสำนักงานที่ดินบุรีรัมย์ ตามคำสั่งศาลปกครองจากเดิมที่มีการพูดถึง 5,083 ไร่ วัดกันประมาณ 1 เดือน เมื่อเดือน ม.ค. 2567 พื้นที่ที่เราพบคือ 4,414 ไร่ ซึ่งเป็นการวัดในระบบใหม่
ในระวางของแผนที่ยังพบว่ามีการปลูกสิ่งปลูกสร้างทับทางสาธารณะจำนวนหนึ่ง กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีการขออนุญาตใช้หรือไม่ หรือมีการดำเนินการอย่างไร เราจะได้ดำเนินการต่อไป เรายังพบว่าในสารบบที่ดิน ทำนิติกรรมอำพรางในโฉนดหลายแปลง รวมถึงหน่วยงานของรัฐ 12 หน่วยงานที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ของ รฟท.
"ทีมข่าวการเมือง"