‘ภูมิใจไทย’ ผิดหวัง ‘วันนอร์’ ชิงปิดประชุมบ่ายสาม ไม่รับเสียงสะท้อนปัญหาคนชายแดนไทย-กัมพูชา
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 7 ส.ค. ที่รัฐสภา นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย พร้อม สส.พรรคภูมิใจไทย ร่วมกันแถลงข่าวหลังปิดประชุมสภา ว่า เป็นที่น่าเสียดายที่วันนี้ ประธานสภาชิงปิดการประชุมสภาไปก่อน ทั้งๆ ที่ สส.ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย เตรียมที่จะเสนอเรื่องการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบขจากเหตุสู้รบชายแดนไทย -กัมพูชา ซึ่ง สส. ของเราได้เตรียมรายละเอียดจากการอยู่ในพื้นที่จริง อยู่ที่หน้างานจริงตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ โดยรวบรวมปัญหาความเดือดร้อน ทุกข์ยากของประชาชนมาสะท้อนสู่ผู้บริหารในชุมสภา ซึ่งเมื่อช่วงเช้ายังดีใจที่เห็น รมช.มหาดไทย มาตอบกระทู้สดเกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาชายแดน
นายกรวีร์ กล่าวต่อว่า เรื่องปัญหาการเบิกงบที่อุบลฯ ตามที่ปรากฏเป็นข่าว ว่าเบิกได้เพียง 55,000 บาทนั้น ที่จริงเราสะท้อนปัญหาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่ไม่ถึงหูรัฐมนตรี อาจะเพราะไม่ดังพอ และอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ มองว่าที่เราพูดเป็นประเด็นทางการเมืองที่มาโจมตีรัฐบาล ซึ่งไม่ใช่เลย ล่าสุดวันนี้ตั้งแต่เช้า สส.ภูมิใจไทย ในจังหวัดที่เดือดร้อน ซักซ้อมประเด็นปัญหาของประชาชน รวมถึงปัญหาการจัดการงบประมาณที่เกิดขึ้น ซึ่งต้องบอกว่า ที่จังหวัดอุบลฯ ที่ปรากฏเป็นข่าวว่าเบิกได้ 55,000 บาทนั้น เป็นแค่จังหวัดเดียว จังหวัดอื่นก็มีปัญหาเรื่องการดูแลประชาชนเหมือนกัน เราจึงรวบรวมปัญหาที่หน้างานจริงจากการคลุกอยู่ในพื้นที่มาตั้งแต่วันแรก จนถึงวันนี้ และเชื่อโดยสุจริตใจว่าหากมีโอกาสนำเสนอมติด่วนด้วยวาจา เอาความเดือดร้อนของประชาชนสู่สภา เพื่อเวลาที่เหลือ ให้รัฐบาลรับไปแก้ไขอย่างเร่งด่วน ไม่ใช่ไปแก้ไขที่ปลายเหตุด้วยการสั่งย้ายผู้ว่าฯ ตนคิดว่า คนเป็นรัฐมนตรีในกำกับกระทรวงที่ดูแล เมื่อรู้ปัญหาแล้วก็ควรเอาปัญหานั้นไปแก้ไขโดยด่วน
แต่สิ่งที่เราเตรียม นอกจากปัญหาของแต่ละพื้นที่แล้ว ยังมีเรื่องของบทเรียนนี่ไม่ใช่ครั้งแกรที่จะทดสอบความสามารถของรัฐบาลในการรับมือภัยพิบัติของประเทศ อย่าลืม อีกไม่กี่เดือนมีการคาดการณ์ว่าจะมีพายุฝนครั้งใหญ่ แล้วพื้นที่เหล่านี้ ที่อุบลฯ จะต้องเจอปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี การรับมือกับปัญหาภัยพิบัติ และวิกฤติต่างๆ ของประเทศ ตนคิดว่า รัฐบาลควรใช้สถานการณ์นี้เป็นบทเรียนในการทบทวนเพื่อวางมาตรการใช้จ่ายเงินงบประมาณในกรณีฉุกเฉิน รวมถึงการปรับปรุงวิธีการทำงาน เพื่อสร้างสถานที่ การเตรียมการอพยพ การดูแลประชาชน การใช้จ่ายงบ เพื่อดูแลประชาชนอย่างเต็มที่
“แต่ก็ผิดหวัง ที่ สส. ทั้งหมดที่เตรียมข้อมูลกันไว้เพื่อนำเสนอความเดือดร้อนของประชาชนในวันนี้ ตนได้ลุกขึ้นเพื่อขอเสนอญัตติด่วนด้วยวาจา ก่อนจะมีการลงมติเลือกรองประธานสภาคนที่ 1 อีก ที่เราต้องทำในวันนี้ เพราะสัปดาห์หน้าจะเป็นการประชุมงบประมาณทั้ง พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ และไม่รู้จะไปถึงเสาร์ อาทิตย์ ด้วยหรือไม่ หมายความว่าเราก็เสียเวลาไปอีก 1 สัปดาห์ แล้วไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ความเดือดร้อนของประชาชนช้าไปวันหนึ่ง ชาวบ้านก็เดือดร้อนเพิ่มอีกวันหนึ่ง จึงน่าเสียดายโอกาส หากได้รับฟังความคิดเห็น ประธานไม่ชิงปิดสภาไปเสียก่อน เวลาสามโมงกว่า ถ้าจะปิดตอนหนึ่งทุ่มก็พอเข้าใจได้ แต่ปิดตอนบ่ายสามโมงกว่า ผมว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก และเสียดายโอกาสที่จะนำเสนอข้อคิดเห็นสู่คณะรัฐมนตรีต่อไป” นายกรวีร์ กล่าว.