THAI ชู Network Airline กระตุ้นยอดขนส่งครึ่งปีหลัง
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 27 สิงหาคม 2568 เวลา 18.19 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - THAI มุ่งกลยุทธ์ Network Airline กระตุ้นยอดขนส่งผู้โดยสาร ช่วงโลซีซั่นในไตรมาส 3/2568 พร้อมชูไตรมาส 4/2568 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุด จากเข้าไฮซีซั่นท่องเที่ยว คาดหนุน ASK ครึ่งปีหลังเพิ่ม 1-3% และ Cabin Factor เป็นไปตามเป้า 78-80% ขณะที่เตรียมรับมอบเครื่องบินแบบใหม่เพิ่มอีก 4 ลำ
นางเฉิดโฉม เทอดสถีรศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงินและการบัญชี (CFO) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า แนวโน้มการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้ โดยช่วงไตรมาส 3/68 ยังถือว่าเป็นช่วงของโลซีซั่นต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า ทำให้การบินไทยยังคงใช้กลยุทธ์การขยายสัดส่วนการขายตั๋วผู้โดยสารเชื่อมต่อ หรือ Network Airline เนื่องจากสามารถช่วยปิดช่องว่างในช่วงโลซีซั่นนี้ได้ สะท้อนจากการดำเนินกลยุทธ์ในช่วงที่ผ่านมา ปี 2567 มีจำนวนนักท่องเที่ยวในไตรมาส 2 และ 3 โดยรวมไม่ถึง 4 ล้านคน ขณะที่ในไตรมาส 2/2568 การบินไทยขนส่งนักท่องเที่ยวประมาณ 4 ล้านคนแล้ว ซึ่งปรับตัวดีขึ้น
อีกทั้งปัจจุบันการบินไทยมีสัดส่วนผู้โดยสาร Network Passenger เพิ่มขึ้นเป็น 21% แล้ว จากสิ้นปี 2567 อยู่ราว 15% โดยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากการขายแบบ Network เพื่อสร้างรายได้ให้เติบโต ส่วนช่องทางการขาย นอกจากขายผ่าน Agent แล้ว การบินไทยจะผลักดันการขายในส่วนของ OTA และ TG Website ซึ่งจะช่วยให้ต้นทุนการขายจะลดลง
ทั้งนี้ในครึ่งปีหลังนี้ บริษัทฯ เตรียมรับมอบเครื่องบินทั้งหมด 4 ลำ ประกอบด้วยเครื่องบิน 3 แบบ ได้แก่ A330-300 จำนวน 1 ลำ โดยได้รับมอบเข้ามาแล้วในเดือนสิงหาคมนี้ และในไตรมาส 4/2568 จะรับมอบเครื่องบินอีก 3 ลำ คือ B787-9 จำนวน 1 ลำ และ A321NEO จำนวน 2 ลำ ซึ่งจะใช้ดำเนินงานในปี 2569 ส่งผลให้สิ้นปีนี้จะมีเครื่องบินที่ใช้ดำเนินงานทั้งสิ้น 78 ลำ จากปัจจุบันมีเครื่องบินอยู่ที่ 77 ลำ
นอกจากนี้นับจากไตรมาส 4/2568 ไปจนถึงปี 2571 บริษัทฯ มีแผนรับมอบเครื่องบิน A321NEO รวมทั้งสิ้น 32 ลำ และนำมาให้บริการในปีหน้า เริ่มตั้งแต่ในไตรมาส 1/2569 ที่ถือว่ายังเป็นช่วงของไฮซีซั่นอยู่ การบินไทยจะให้บริการด้วยเครื่องบินแบบใหม่ ทำให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น
บริษัทฯ ตั้งเป้าหมาย ASK ในครึ่งปีหลังนี้ จะเพิ่มขึ้น 1-3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และครึ่งปีแรกของปี 2568 และ Yield คาดทำได้ในระดับเดียวกันกับครึ่งปีแรก ส่วน Cabin Factor วางป้าหมายไว้ที่ 78-80% จากมองว่าไตรมาส 4 นี้ จะเป็นไตรมาสที่ดีของการบินไทย ขณะที่ Operating Margin ทั้งปีคาดอยู่ที่ 21-24%
“การเพิ่มรายได้ของการบินไทย ในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของธุรกิจหลัก อย่าง การขนส่งผู้โดยสาร และการขนส่งสินค้า บริษัทพยายามดำเนินการเพื่อตอบสนองผู้โดยสาร และผู้ใช้บริการ Cargo เราพยายามที่จะเพิ่มจุดบิน หรือเที่ยวบิน ซึ่งเมื่อเทียบกับปีก่อนก็เพิ่มขึ้นมา โดยเฉพาะในทวีปยุโรป รวมถึงการที่จะไปร่วมมือทำข้อตกลงกับสายการบินอื่น เพื่อให้ผู้โดยสารมีความสะดวกสบาย และการให้บริการบนเครื่องบินที่ปรับปรุงต่อเนื่อง” นางเฉิดโฉม กล่าว
พร้อมกันนี้บริษัทฯ มีนโยบายการทำป้องกันความเสี่ยงจากราคาน้ำมันที่ผันผวน โดยมีกรอบการทำไว้ที่ 24 เดือน ไม่เกิน 60% ของปริมาณการใช้ต่อปี แต่อย่างไรก็ตามจากการกลับมาทำป้องกันความเสี่ยงดังกล่าว บริษัทได้จำกัดกรอบไว้ที่ไม่เกิน 12 เดือน และทำไม่เกิน 30% ของปริมาณการใช้ต่อปี โดยปัจจุบันมีการทยอยทำเพิ่มขึ้น แต่ยังไม่แตะกรอบ 30% คาดจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/2568 และไตรมาส 1/2569
ส่วนการทำป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ขณะนี้ได้ดำเนินการไปในระดับหนึ่งแล้ว โดยยังคงติดตามอย่างใกล้ชิด
ด้านราคาหุ้นที่ปรับตัวลงแรง บริษัทฯ อยากให้นักลงทุนพิจารณาผลประกอบการ และแผนการเติบโตของการบินไทย เพื่อพิจารณาลงทุนในหุ้นอย่างรอบคอบ