ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 16 สิงหาคม 2568 เวลา 3.55 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา
หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากพฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรงกระทบต่อสังคม เป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนีจึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ระหว่างฎีกา
ล่าสุด วันนี้ รถคุมขังของเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร นำตัว “ลุงพล” มาส่งควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม บ้านกุดข้าวปุ้น ต.ขามเฒ่า อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม โดยสาเหตุที่มีการย้ายสถานที่ควบคุม เนื่องจากที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร คุมขังนักโทษชาย-หญิงที่ต้องโทษไม่เกิน 20 ปี ส่วนเรือนจำกลางนครพนม สามารถคุมขังนักโทษได้สูงสุด 25 ปี ทั้งนี้ตามขั้นตอน เมื่อตัวลุงพลมาถึงจะต้องเข้าสู่แดนแรกรับ เพื่อการการตรวจร่างกาย และตรวจโรคตามขั้นตอนของทางเรือนจำ
“ป้าแต๋น” มาเยี่ยมสามี เอาหัวใจมากฝาก 1 ดวง
ทั้งนี้นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น ภรรยาลุงพล จำเลยที่ 2 ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง เดินทางตามมาที่เรือนจำกลางนครพนมด้วย เพื่อทำเรื่องขอเยี่ยมสามี “ป้าแต๋น” เปิดเผยกับสื่อว่า วันนี้มาให้กำลังใจ และเอาหัวใจ 1 ดวง มาฝากลุงพล 1 ดวง ยืนยัน “ลุงพล” จะต่อสู้คดีต่อในชั้นฎีกาอย่างแน่นอน โดยขณะนี้ยังไม่มีโอกาสได้เข้าไปพูดคุยกับลุงพล ส่วนกับข้าววันนี้ยังไม่ได้เอาอะไรมาฝากลุงพล
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากเมื่อวันที่ 14 ส.ค. ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิจารณาการยื่นประกันตัว นายไชย์พล จำเลยที่ 1 แล้วมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว ต่อมาเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ได้เตรียมนำตัวย้ายไปเรือนจำกลางนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูงกว่าอำนาจการคุมขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งมีอำนาจคุมขังไม่เกิน 20 ปี โดยในวันนี้ เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ผ่านมา เรือนจำกลางนครพนม ได้รับตัวนายไชย์พล ซึ่งย้ายมาจากเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนแรกรับเข้าเรือนจำฯ เจ้าหน้าที่พบว่าเจ้าตัวไม่ได้แสดงอาการเครียดแต่อย่างใด และให้ความร่วมมือในการตรวจค้น ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี และไม่มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงระเบียบข้อบังคับ การปฏิบัติตัวในการดำเนินชีวิตภายในเรือนจำฯ ซึ่งนายไชย์พล ไม่มีข้อสงสัยแต่อย่างใด
รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยอีกว่า เรือนจำฯ ได้นำตัวไปแยกกักโรคโควิด-19 เป็นเวลา 5 วัน โดยระหว่างกักโรค ยังสามารถพบทนายความได้ ส่วนญาติสามารถมาเยี่ยมที่เรือนจำได้ ตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. ซึ่งพ้นระยะกักโรคแล้ว และหลังจากครบกำหนดกักโรค จะนำตัวไปคุมขังที่แดนความมั่นคงสูงต่อไป ส่วนอาหารมื้อแรกที่เรือนจำจัดให้ เป็นเมนูข้าวต้มหมู ซึ่งรับประทานได้ปกติ.-สำนักข่าวไทย