'เท้ง' ยังไม่รู้ 'อนุทิน' มาคุย ย้ำจุดยืนรัฐบาลใหม่ 4 เดือนยุบสภา

เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2568 ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคประชาชน (ปชน.) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค ปชน. ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 เสียง สั่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากนายกรัฐมนตรี ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯอย่างร้ายแรง ประเด็นคลิปเสียงสนทนากับฮุน เซน โดยมองผลคดีเป็นบวกหรือลบ ว่า ไม่คิดว่าเป็นบวกหรือเป็นลบใด ๆ แต่คิดว่าสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในตอนนี้ คือเรื่องการทำให้ประเทศเดินหน้า ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว เพื่อที่จะได้มีรัฐบาลชุดใหม่ ที่มีความชอบธรรมในการแก้ไขปัญหาให้กับประเทศ

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีพรรคการเมืองใดติดต่อมาแล้วบ้าง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการตกลงใด ๆ อย่างเป็นทางการ ไม่ว่าจะพรรคการเมืองใดก็ตาม ก่อนหน้านี้เราเองได้มีการแถลงจุดยืนไปแล้ว วันนี้ก็ออกมาแถลงในการยืนยันจุดยืนเดิมอีกหนึ่งครั้งว่า พวกเราไม่ร่วมรัฐบาล และพร้อมจะใช้เสียงของพวกเราทุกเสียง กลไกทุกอย่างที่มีในสภา เพื่อผ่าทางตันของประเทศดังนั้น ในตอนนี้ถ้าพรรคใด ๆ ก็ตาม ที่ไม่สามารถรวมเสียงข้างมากในการตั้งรัฐบาลได้ จะต้องมาขอเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชน โดยที่เราไม่ร่วมรัฐบาล ก็ต้องยอมรับเงื่อนไข ที่ตนได้แถลงไป

ส่วนกระแสข่าว นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะเดินทางมาที่ทำการพรรคประชาชน ได้มีการติดต่อประสานงานกันหรือยัง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการติดต่อประสานงานทางการใด ๆ ไม่ทราบเหมือนกันว่า ความตั้งใจของนายอนุทิน ที่จะเข้ามาพูดคุยจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่เชื่อว่าวันนี้ได้แถลงเรื่องเงื่อนไขในการตั้งรัฐบาล ที่จะเข้ามาทำหน้าที่ในการยุบสภาโดยเร็วไปแล้ว

เมื่อถามว่า หากตอนที่พรรคอื่นมาขอเสียงโดยยอมรับเงื่อนไข แต่เมื่อเป็นรัฐบาลแล้ว มีความกังวลว่า จะโดนหักหรือเบี้ยวหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่า คนที่สามารถรวมเสียงข้างมากได้ คงไม่จำเป็นจะต้องมายอมรับเงื่อนไขพรรคประชาชน ดังนั้น ถ้าพรรคใด ๆ ก็ตาม ที่จะเข้ามาบรรลุข้อตกลงตามเงื่อนไขที่พรรคประชาชนได้แถลงไป แปลว่าเขาต้องเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะฉะนั้นการที่ สส.ของเราทั้งหมด จะใช้เสียงทั้งหมดที่เรามี กำกับทิศทางของรัฐบาลนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว เชื่อว่าเราจะเป็นเสียงสำคัญในสภา ที่จะกำกับนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องเดินหน้าสู่การเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว

นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลแต่ละชุดมีการผิดสัญญากับประชาชนหลายครั้ง และหากครั้งนี้ทำผิดสัญญากับประชาชนอีกสักหนึ่งครั้ง ตนเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป ประชาชนจะจดจำ และตัดสินนักการเมืองที่โกหกประชาชน

เมื่อถามว่าการกำหนดเงื่อนไขในการยุบสภาภายใน 4 เดือน พรรคประชาชนมีความพร้อมในการเลือกตั้งอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวย้ำว่า พวกเราไม่ได้ตั้งเงื่อนไขนี้ บนพื้นฐานที่ว่า เราประเมินจากความได้เปรียบ หรือเสียเปรียบทางการเมืองของพรรคประชาชน แต่เราตั้งเงื่อนไขนี้ เพราะเป็นสิ่งที่เราอยากยืนยันมาโดยตลอด ว่าประเทศจำเป็นต้องมีรัฐบาลที่มีความชอบธรรมผ่านการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งไม่ได้ประเมินเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบ หรือพร้อมไม่พร้อม เพราะจริงๆ แล้ว เราพร้อมเลือกตั้งทุกวัน แต่การที่เราตัดสินใจตั้งเงื่อนไขแบบนี้ ก็เพื่อยืนยันในหลักการเดิม

ถามอีกว่า คำวินิจฉัย จะมีส่งผลต่อสถานการณ์ชายแดน ไทย-กัมพูชาหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลรักษาการ รวมถึงส่วนราชการของไทยทุกส่วน ที่จะต้องสื่อสาร แลถทำอย่างไร ไม่ให้ประเทศไทยตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน และคณะ เตรียมเดินทางเข้าพบกรรมการบริหารพรรค ปชน. เพื่อหารือถึงทิศทางการเมืองที่เกิดขึ้น ภายหลังสถานะของฝ่ายบริหารว่างลง เนื่องจาก ครม.ต้องพ้นไปทั้งคณะ และต้องมีการโหวตเลือกนายกฯคนใหม่ หลังจากศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย