แม่ลูกบุรีรัมย์ป่วยหวัดใหญ่สายพันธุ์ B กักตัว 14 วัน เหลือมาม่าห่อเดียว โพสต์ขอความช่วยเหลือ

แม่ ลูกชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B หลังออกจาก รพ.หมอให้กักตัวที่บ้าน 14 วัน ป้องกันเชื้อแพร่ระบาด แม่โพสต์ขอความช่วยเหลือออกจากบ้านไม่ได้ เหลือมาม่าแค่ห่อเดียวประทังชีวิตแม่ลูก ล่าสุดพระ กู้ภัย อสม.นำสิ่งของไปมอบช่วยเหลือ

วันที่ 25 ส.ค.2568 ได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความระบุว่า “ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ B #ไปนอนโรงบาล 3 คืนวันนี้ได้กลับบ้าน หมอให้กักตัวอยู่ที่บ้านห้ามออกไปไหน แย่ไปหมดทุกอย่างการอยู่การกิน ผลกระทบหลายๆ อย่าง , หินก็หิว ออกไปไหนก็ไม่ได้ #มาม่า 1 ห่อกิน 2 คน , เขายังมีงบอะไรช่วยเหลือ ผู้ป่วยไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่อยู่ไหมคะ #หมอให้กักตัว 14 วันเลยนะค่ะ มีหน่วยงานไหนยังมีการช่วยเหลือไหมค่ะ ขอสอบถามไม่ได้มีเจตนาไม่ดีจ้า”

จากนั้น ทีมข่าวจึงได้ติดต่อสอบถามไปยังผู้โพส์ต ทราบว่าอยู่ในหมู่บ้านพูนสุข ต.เจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ก็พบ น.ส.มฤทัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี อาศัยอยู่กับลูกชาย อายุ 14 ปี ซึ่งทั้งสองแม่ลูก ได้กักตัวอยู่ในบ้าน 2 คน ตามคำสั่งของแพทย์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ

จากการสอบถาม น.ส.สมฤทัย เล่าว่า ลูกชาย วัย 14 ปี เริ่มป่วยหนักจึงได้ส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ ก่อนแพทย์ยืนยันว่า ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B ต้องนอนรักษาตัวที่ รพ. 3 วัน แล้วหมอให้กลับมากักตัวที่บ้าน แต่ไม่นานตนเองก็มีอาการป่วยอีก ก็เข้ารักษาที่ รพ. และต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ทำให้ต้องหยุดงาน ขาดรายได้ ไม่สามารถออกไปไหนได้ ที่บ้านเหลือมาม่า 1 ห่อ ก็ต้องต้มกินกับลูก 2 คน ไม่รู้จะทำยังไง จึงได้โพสต์สอบถามว่า มีหน่วยงานไหนที่พอจะช่วยเหลือตนกับลูกได้บ้าง เพราะหากไม่ป่วยก็ยังสามารถออกไปทำงานหาเงินได้ก็ไม่เดือดร้อน

ล่าสุด พระมหาดำรงค์ ติกฺขวิริโย เจ้าอาวาสวัดดอนไม้ไฟ พร้อมด้วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ และ อสม.ประจำหมู่บ้าน ก็ได้นำข้าวสาร อาหารแห้ง และสิ่งของ ไปมอบช่วยเหลือให้กับทั้งสองแม่ลูกแล้ว พร้อมกันนี้ ยังมีผู้ใจบุญฝากเงินไปมอบช่วยเหลือในช่วงที่ไม่ได้ทำงานต้องกักตัวอยู่บ้านอีกจำนวนหนึ่งด้วย

ด้านนางสาวนุ้ย โกยชัย อสม.ในพื้นที่ ระบุว่า เผยว่า ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B อาจไม่รุนแรงเท่าโควิด-19 แต่ก็สามารถแพร่เชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงอย่างเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว ซึ่งบางรายอาจมีอาการหนักกว่าผู้ติดโควิดเสียอีก ดังนั้นก็จำเป็นจะต้องกักตัวเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ ยังฝากเตือนว่าการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ประจำปี และการดูแลรักษาสุขอนามัย เช่น ล้างมือบ่อย ๆ สวมหน้ากากเมื่อออกไปที่ชุมชน ยังคงเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุด