หมัดเด็ดกู้ศรัทธา “30 บาทรักษาทุกที่” จ่อเตรียมคิกออฟ 26 ส.ค.นี้!
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2568 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า รัฐบาลได้กำหนดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงิน 1.57 แสนล้านบาท โดยมอบหมายให้ สปสช. ดำเนินโครงการค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้มีภาวะพึ่งพิง ผ่านการจ้างงาน “ผู้ช่วยเหลือดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิง” (Caregiver) เพื่อเสริมสร้างระบบการดูแลผู้ป่วยในชุมชน และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น วงเงินรวม 1,115 ล้านบาท ภายหลังจากที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ซึ่งมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน มีมติเห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการฯ เรื่อง การจ่ายค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้มีภาวะพึ่งพิง ตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 แล้วนั้น สปสช. ได้เร่งเดินหน้าโครงการเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้
จัดตั้งกองทุนดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิง (กองทุน LTC) ในการจัดจ้างผู้ช่วยเหลือดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิงรวมจำนวน 18,587 คนทั่วประเทศ กำหนดอัตราค่าตอบแทนจำนวน 5,000-6,000 บาทต่อเดือน ในการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิง จำนวน 106,807 คน ซึ่งขณะนี้มี อปท. จำนวน 2,225 แห่ง ที่ได้ร่วมส่งข้อมูลความต้องการจัดจ้างผู้ช่วยเหลือดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิงแล้วรวมจำนวน 6,630 คน
นพ.จเด็จ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ดี โครงการฯ นี้ จะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 สิงหาคม 2568 เวลา 13.30 – 14.30 น. โดยจะมีการจัดงาน “คิกออฟ 30 บาทรักษาทุกที่ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก จ้างผู้ดูแลเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้มีภาวะพึ่งพิง” ณ ลานอเนกประสงค์ ชั้น 2 ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารบี ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ซึ่งมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นประธานเปิดงาน และกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากด้วยกลไกท้องถิ่นดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิง”
นอกจากนี้ภายในงานยังมีผู้บริหารระดับสูงจากหลายหน่วยงานเข้าร่วม อาทิ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายอนุชา สะสมทรัพทย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ ผศ.ดร.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตัวแทนผู้ช่วยเหลือดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิง ที่จะมาร่วมแสดงพลังและนำเสนอต้นแบบพื้นที่จัดระบบดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิง
นพ.จเด็จ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้โครงการฯ มีประสิทธิภาพและเกิดผลสัมฤทธิ์ สปสช. มุ่งเน้นการอบรมและพัฒนาศักยภาพผู้ช่วยเหลือดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิง ให้มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิงตามมาตรฐาน ภายในงานยังมีกิจกรรมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการความร่วมมือพัฒนางานวิชาการการบริหารจัดการบุคลากร เพื่อสนับสนุนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล” ระหว่าง สปสช. และกรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ
“การดำเนินโครงการฯ ซึ่งจะเปิดงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 ส.ค. 2568 นี้ ไม่เพียงช่วยสร้างรายได้และการจ้างงานในท้องถิ่น แต่ยังเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้มีภาวะพึ่งพิงให้ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงและเป็นระบบ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการพัฒนาระบบสุขภาพและสังคมไทยอย่างยั่งยืน” เลขาธิการ สปสช. กล่าว