โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ประวัติศาสตร์การลอบสังหารในกัมพูชา (1975–2025) เครื่องมือขจัดฝ่ายตรงข้ามของผู้กุมอำนาจ

THE STATES TIMES

อัพเดต 19 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา • Hard News Team

> "ในประเทศที่อำนาจรัฐไม่เคยมีวันล่มสลาย
การตายของผู้เห็นต่าง มักไม่ใช่อุบัติเหตุ
…แต่มักเป็นพิธีกรรมเงียบของอำนาจ"
บทนำ: การลอบสังหารในฐานะเครื่องมือของรัฐ

ประวัติศาสตร์การเมืองของกัมพูชาในครึ่งศตวรรษหลัง พ.ศ. 2518 มิใช่เพียงเรื่องของการเปลี่ยนผ่านระบอบ หากแต่เต็มไปด้วยร่องรอยของ "การใช้ความตายเป็นวาทกรรมแห่งการปกครอง" ไม่ว่าจะโดยรัฐนิยมเผด็จการ คอมมิวนิสต์ หรือประชาธิปไตยปลอม

รูปแบบของ 'การลอบสังหาร' ในกัมพูชามิได้ปรากฏในแบบที่โลกตะวันตกนิยาม — หากแต่มักผสานกลวิธีระหว่าง การปิดปาก, การลงโทษเชิงตัวอย่าง, และ การกำจัดเชิงสัญลักษณ์ ผ่านกลไกเงียบที่ยากจะสืบสาวถึงผู้บงการ

1. การสังหารในนามอุดมการณ์: เขมรแดงและศิลปะของการกวาดล้าง
ในยุคของเขมรแดง (1975–1979) ระบอบของพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชาได้แปลงสังคมให้กลายเป็น "ห้องสังหารขนาดยักษ์" ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นศัตรูของการปฏิวัติ — ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ ปัญญาชน หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่พรรคตนเอง — ต่างถูกกำจัด

กรณีศึกษาที่น่าสนใจคือการประหาร Hu Nim, Khoy Thoun และแม้แต่ Son Sen ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกระดับสูงของพรรคที่ถูกกล่าวหาว่า "ทรยศ" และถูกสังหารพร้อมทั้งครอบครัวในปี 1997 ภายหลังจากระบอบล่มสลาย
เอกสารในเรือนจำ S-21 (Tuol Sleng) ยืนยันรูปแบบของการทรมานและการ “จัดทำคำรับสารภาพล่วงหน้า” ซึ่งสะท้อนแนวคิดการฆ่าแบบมีพิธีกรรม
> สารภาพก่อนตาย คือการชำระล้างบาปทางอุดมการณ์
เพื่อให้ความตายกลายเป็นการล้างความชอบธรรมของเหยื่อ

2. การรัฐประหารเงียบ: 1997 และการลอบสังหารในนาม 'ความมั่นคง'
ในปี 1997 พลเอก ฮุน เซน ดำเนินการรัฐประหารกับรัฐบาลผสมที่มี เจ้าชายรณฤทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีร่วม โดยใช้ข้ออ้างเรื่อง 'การรักษาเสถียรภาพ'

ข้อมูลจาก Human Rights Watch ระบุว่ามีเจ้าหน้าที่ของพรรค FUNCINPEC และทหารฝ่ายตรงข้ามอย่างน้อย 40 ราย ถูกสังหารหรืออุ้มหาย ภายในเวลาไม่กี่วัน หลายรายถูกประหารในสถานที่ลับหลังจับกุม ซึ่งไม่มีการพิจารณาคดีใด ๆ
กรณีนี้แสดงให้เห็นถึงรูปแบบของ "การลอบสังหารโดยรัฐ" ที่ได้รับการปกปิดอย่างมีระบบ โดยผสาน เครื่องมือข่าวกรอง, กองกำลังพิเศษ, และ การนิ่งเฉยของกระบวนการยุติธรรม

3. การลอบสังหารเชิงสัญญะ: เมื่อนักคิดต้องตาย
ช่วงหลังปี 2000 เป็นต้นมา ปรากฏ “การตายมีเงื่อนงำ” ของนักกิจกรรม นักข่าว และนักวิชาการที่มีบทบาทต่อต้านระบอบอย่างชัดเจนหลายราย:

Kem Ley (2016): นักวิจัยและนักวิจารณ์นโยบายรัฐ ถูกยิงตายกลางวันแสก ๆ ในร้านกาแฟ หลังจากเปิดเผยรายงาน “Global Witness” ที่กล่าวหาการสะสมทรัพย์สินของครอบครัวฮุน เซน ผู้ต้องหาถูกจับในนาม “หนี้ส่วนตัว” แต่กระบวนการสอบสวนเต็มไปด้วยข้อสงสัยและปกปิดหลักฐาน

Chut Wutty (2012): นักสิ่งแวดล้อมที่ตรวจสอบการตัดไม้ในจังหวัดโคห์คอง ถูกยิงตายโดยทหารขณะเก็บข้อมูล เจ้าหน้าที่ผู้ยิงตายถูกระบุว่า “ฆ่าตัวตายทันทีหลังลงมือ” ซึ่งนักสิทธิมนุษยชนหลายรายมองว่าเป็น "การสร้างพยานปลอม"

Chea Vichea (2004): ผู้นำแรงงาน ถูกยิงกลางเมือง มีการจับแพะรับบาปในคดีที่ไม่มีพยานหลักฐาน —ภายหลังศาลสั่งปล่อยตัวแต่ไม่เคยจับผู้กระทำผิดจริง

การตายของบุคคลเหล่านี้ไม่เพียงแต่ปลิดชีพ แต่ยังแฝง “ข้อความเงียบ” ว่า “แม้ไม่มีเครื่องแบบ ก็เป็นภัยต่อรัฐได้ หากมีเสียง”

4. ความตายไร้พรมแดน: สังหารนอกประเทศและการไล่ล่าแบบข้ามรัฐ
ในทศวรรษ 2020s ปรากฏแนวโน้มการลอบสังหารในต่างแดน โดยเฉพาะผู้ลี้ภัยทางการเมืองในประเทศไทย เช่น: Lim Kimya (2025): อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ถูกยิงเสียชีวิตในกรุงเทพฯ โดยมีพยานหลักฐานว่าผู้ต้องหาเคยมีสัมพันธ์กับรัฐกัมพูชา

ผู้นำฝ่ายค้าน Sam Rainsy ออกมากล่าวชัดว่า “นี่คือคำสั่งโดยตรงจากพนมเปญ” — แต่รัฐบาลฮุน เซนปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา รายงานจาก UNHCR ยังระบุถึง รูปแบบการจับกุม-ส่งกลับผู้ลี้ภัย แบบไม่เป็นทางการ รวมถึง “การหายตัวไป” ของนักเคลื่อนไหวกัมพูชาในประเทศไทย โดยไม่มีคำอธิบายจากทั้งสองรัฐบาล
> การสังหารทางการเมืองไม่ได้สิ้นสุดลงที่พรมแดน
หากแต่แปรสภาพเป็นสงครามข่าวสาร การหายตัว และความตายที่ไม่มีใครรับผิดชอบ

บทสรุป: เครือข่ายของความตาย
เงื่อนงำทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่า “การลอบสังหาร” ในกัมพูชา มิได้เป็นเหตุการณ์โดดเดี่ยว แต่คือส่วนหนึ่งของโครงสร้างอำนาจที่ยังคงดำรงอยู่
ผู้ถูกสังหาร มักมีคุณลักษณะร่วม: “วิพากษ์อำนาจ–มีอิทธิพลในสังคม–ยึดถืออุดมการณ์ประชาธิปไตย”

ผู้กระทำ มักไม่มีตัวตนแน่ชัด — แต่เงาของรัฐ, พรรค, และผู้มีอำนาจ มักอยู่เบื้องหลังเสมอ กระบวนการยุติธรรมไม่เคยสว่างพอสำหรับเหยื่อ แต่สว่างพอที่จะปกป้องผู้รอดชีวิตที่มีอำนาจ
> การตายของพวกเขา…อาจไม่เคยได้รับความยุติธรรม
แต่ได้เขียนประวัติศาสตร์อีกบทที่รัฐเผด็จการไม่อาจลบได้ง่าย ๆ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก THE STATES TIMES

7 สิงหาคม พ.ศ. 2463 วันรำลึกถึง ‘พระองค์เจ้าชายรพีพัฒนศักดิ์’ พระบิดาแห่งกฎหมายไทย สิ้นพระชนม์ที่ปารีส ทรงริเริ่มการใช้ลายพิมพ์นิ้วมือในคดีอาญา

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘สรวงศ์’ ย้ำปลดล็อกโป๊กเกอร์ทำตามขั้นตอน ยันขึ้นทะเบียนเป็นกีฬาที่ทั่วโลกยอมรับแล้ว

13 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ตัวแทนนักเรียนไทยคว้า 3 เหรียญเงิน 1 เกียรติบัตร เวทีวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์โอลิมปิก ครั้งที่ 2

14 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ก.อุตสาหกรรม เผยภาพรวมงาน 'อุตสาหกรรมแฟร์ 2568' ช่วยลดค่าครองชีพปชช. พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงกลางปี

15 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

กกพ.สั่ง กฟน.แจงเหตุไฟดับย่านประดิพัทธ์ ใน 7 วัน

สำนักข่าวไทย Online

กกพ. สั่ง กฟน. แจงเหตุไฟดับย่านประดิพัทธ์ ใน 7 วัน

สำนักข่าวไทย Online

รวบ “ไฮโซลูกนัท” ยึดปืนกว่า 20 กระบอก กระสุน อีกอื้อ พร้อมโคเคน หลังผู้เสียหายหลบหนีแจ้งความเอาผิดถูกใช้ปืนทำร้ายตบหน้าบังคับเสพยา

POLICE NEWS

เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ประเทศไทย ติดอันดับดัชนี FTSE4Good เป็นปีที่ 7 ตอกย้ำความเป็นเลิศในฐานะผู้นำด้าน ESG

TODAY

พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

สำนักข่าวไทย Online

ผบ.สูงสุดมาเลเซียเผย ประชุมเลขาฯ GBC ไทย-กัมพูชา บรรลุฉันทามติในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง

THE STANDARD

ด่วนตอนนี้! บุกรวบ ไฮโซลูกนัท เจอคลังแสงปืน – ไอซ์ – โคเคน เพียบ

BRIGHTTV.CO.TH

ตำรวจ ป.ป.ป. บุกจับอดีตพระชั้นผู้ใหญ่-คนใกล้ชิด คดีทุจริตยักยอกเงินวัด โยงสีกากอล์ฟ

THE STANDARD

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...