“ดีป้า”ดันโครงการ 1 ตำบล 1 ดิจิทัล ช่วยเกษตรชุมชนเพิ่มรายได้ 500ล้าน
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า ภาคเกษตรกรรมมีความสำคัญและถือเป็นเสาหลักของระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กระทรวงดีอี มุ่งพัฒนาศักยภาพเกษตรกรโดยการส่งเสริมให้เกิดการปรับเปลี่ยนสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการขับเคลื่อนให้เกิดการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลด้านการเกษตร มาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ ซึ่งถือเป็นส่วนช่วยในการสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของประเทศ และหนึ่งในโครงการสำคัญที่เป็นกลไกขับเคลื่อนแนวทางดังกล่าวคือ โครงการ หนึ่งตำบล หนึ่งดิจิทัล หรือ One Tambon One Digital: OTOD#2 ที่ดำเนินการโดย ดีป้า
ด้าน นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวว่า โครงการ OTOD#2 มุ่งส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาทักษะดิจิทัลเพื่อการเกษตร เพื่อยกระดับกระบวนการผลิต ตั้งแต่การเพาะปลูก การดูแลรักษา และการจัดการผลผลิต อีกทั้งเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่เกษตรอัจฉริยะในอนาคต และยกระดับคุณภาพชีวิตกลุ่มชุมชน เกษตรกร ช่างชุมชน อีกทั้งปรับปรุงกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ด้วยการประยุกต์ใช้ 3 เทคโนโลยีดิจิทัลที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ดีชัวร์ และขึ้นทะเบียนบนบัญชีบริการดิจิทัล ได้แก่ โดรนเพื่อการเกษตร แทรกเตอร์การเกษตรอัจฉริยะ และ ไอโอที ภาคการเกษตรอัจฉริยะ
“โครงการปีนี้เน้นให้เกษตรกรที่เป็นกลุ่มชุมชน และกลุ่มธุรกิจชุมชน สามารถ คิดเอง ทำเป็น ทำได้ เริ่มจากการเรียนรู้และการคัดเลือกเทคโนโลยีด้วยตัวเองในทุกขั้นตอน โดยมี ดีป้า เป็นพี่เลี้ยงคอยสนับสนุนเท่าที่จำเป็น เพื่อให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ กลุ่มชุมชนและธุรกิจชุมชนเพิ่มทักษะเรื่องเทคโนโลยี โดยเรียนรู้ผ่านสื่อการเรียนรู้ออนไลน์อย่างต่อเนื่องกว่า 550,000 ราย มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมยกระดับทักษะเข้มข้นกว่า 1,300 รายจากเป้าหมาย 1,000 ราย และมีผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าสู่รอบนำเสนอผลงาน กว่า 500 ราย ซึ่งคาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาทต่อปี ช่วยขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทยสู่เกษตรอัจฉริยะ และก้าวทันการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล” นายณัฐพล กล่าว
สำหรับ โครงการ OTOD#2 เริ่มต้นตั้งแต่การจัดทำสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ใน 3 เทคโนโลยี จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการยกระดับทักษะเข้มข้น (Accelerate) ซึ่ง ดีป้า ได้ลงพื้นที่ 11 จังหวัด และจัดกิจกรรมอบรมข้อมูลเทคโนโลยี จับคู่ธุรกิจ (Business Matching) เขียนข้อเสนอโครงการ และการนำเสนอ (Pitching) ข้อเสนอโครงการที่ผ่านการคัดเลือก (Pre-screen) ต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน 5 จังหวัด 5 ภูมิภาค ก่อนเข้าสู่เวทีตัดสินระดับประเทศในวันนี้
สำหรับกิจกรรม Digital Agriculture Final Pitching Day เป็นเวทีตัดสินสุดยอดโครงการยกระดับชุมชนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงสังคมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่เปิดโอกาสให้กลุ่มชุมชนและธุรกิจชุมชนจาก 5 ภูมิภาคได้โชว์ศักยภาพ แบ่งเป็น 2 ประเภท ประกอบด้วย 1. ประเภทกลุ่มชุมชนประยุกต์ใช้เทคโนโลยี จำนวน 350 ราย รับการส่งเสริมสนับสนุนสูดสุด 150,000 บาทต่อโครงการ และ 2. ประเภทพัฒนาธุรกิจชุมชน จำนวน 50 ราย รับการส่งเสริมสนับสนุนสูงสุด 200,000 บาทต่อโครงการ พร้อมกันนี้ยังมีรางวัลดีเด่นสำหรับสุดยอดโครงการของทั้ง 2 ประเภท อีก 3 รางวัล รวมทั้งสิ้น 6 รางวัล โดยทีมชนะเลิศได้รับรางวัลมูลค่า 50,000 บาท รองชนะเลิศอันดับที่ 1 รับรางวัลมูลค่า 30,000 บาท และรองชนะเลิศอันดับที่ 2 รับรางวัลมูลค่า 20,000 บาท ซึ่งทีมที่ได้รับรางวัลดีเด่นประเภทกลุ่มชุมชนประยุกต์ใช้เทคโนโลยีคือ วิสาหกิจชุมชนหอมเชียงม่วนภาคเหนือ และทีมที่ได้รับรางวัลดีเด่นประเภทพัฒนาธุรกิจชุมชนคือ นายอรันดร์ จันโท
นอกจากนี้ ภายในงานตลอดทั้ง 2 วัน (5 – 6 ส.ค.) ยังมีการเปิดพื้นที่จำลอง 3 เทคโนโลยีเพื่อการเกษตรสุดล้ำ ทั้งเทคโนโลยีโดรนเพื่อการเกษตร แทรกเตอร์การเกษตรอัจฉริยะ และ IoT ภาคการเกษตรอัจฉริยะ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กลุ่มชุมชน เกษตรกร เข้าใจการยกระดับภาคการเกษตรอัจฉริยะยิ่งขึ้น รวมไปถึงเวทีเสวนาเข้มข้นที่ระดมหัวกะทิจากทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และเกษตรกรที่เป็นผู้รู้ตัวจริงในวงการเกษตรดิจิทัลร่วมมอบไอเดียพลิกชีวิตด้วยเทคโนโลยีเพื่อการเกษตรแบบครบจบในงานเดียว
“กิจกรรม Digital Agriculture Final Pitching Day ในวันนี้ทำให้เห็นว่า เกษตรกรไทยของเราเก่ง มีดี ขอเพียงได้รับการสนับสนุนอย่างถูกวิธี พี่น้องเกษตรกรก็จะเติบโตได้ด้วยตนเองอย่างมั่นคงและยั่งยืน ซึ่งก้าวต่อไป ดีป้า จะขยายการส่งเสริมสนับสนุนต่อเนื่องผ่านโครงการ OTOD ประกอบด้วย OTOD AI Transformation ช่วยชาติ ซึ่งเป็นโครงการที่จะเร่งส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในกลุ่มชุมชน ผู้ประกอบการ เกษตรกร และธุรกิจโรงงาน รวม 10,000 ราย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามนโยบายของรัฐบาล และ OTOD ทุเรียนดิจิทัล ส่งเสริมและยกระดับเกษตรกรทุเรียนด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ในเฟสที่ 2 พร้อมกันนี้ ดีป้า ยังได้ร่วมกับ กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง ผลักดันมาตรการลดหย่อนภาษี 200% ซึ่ง ดีป้า ต้องการให้คนไทยทุกคนสามารถรู้ เข้าใจ และประยุกต์ใช้ดิจิทัลเป็น เพื่อให้เศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศเติบโตอย่างมั่นคง” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว